💭 จะเป็นอย่างไรหากวันหนึ่ง ChatGPT กลายมาเป็นคุณหมอให้คำปรึกษาทางด้านจิตใจที่มาช่วยเหลือมนุษย์อย่างเรา ๆ โดยเฉพาะเหล่าครีเอเตอร์ที่ต้องเจอ Feedback ที่ไม่ดี หรือเรื่องกระทบจิตใจจากการสร้างสรรค์งานศิลปะที่บางทีไม่ได้สำเร็จไปตามที่เราคาดไว้ 😕
ผ่านมาเกินครึ่งปีแล้ว คงไม่มีอะไรมาแรงเท่ากระแส AI และหนึ่งในนั้นคือ ChatGPT เครื่องมือที่มาช่วยทำให้การค้นหาข้อมูลและการทำงานในหลากหลายด้าน ทั้งการหากับตอบกับอะไรบางอย่าง การสร้างสรรค์งาน การคิดคำนวณ สร้างตาราง รวมถึงการที่มันคอยตอบปัญหาต่าง ๆ ให้เราได้
แต่สิ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่นึกถึงมาก่อนว่า ChatGPT สุดปราดเปรื่องตัวนี้ก็สามารถทำได้คือ ‘การให้คำปรึกษาทางด้านจิตใจ’ หรือที่เรียกว่า ChatGPT Therapist นั่นเอง!
⁉️ ไม่แปลกถ้าอ่านแล้วจะสงสัยว่า เอ๊ะ? มันทำได้จริงหรอ มันเป็นหุ่นยนต์นะไม่ใช่คนที่จะเข้าใจคนด้วยกัน หรือ เอ๊ะ? มันจะไม่เกิดอันตรายกับคนหรอ น่ากลัวจัง… ในบทความนี้จะมาเล่าให้ฟังถึงมุมมองของการใช้ ChatGPT เป็นเครื่องมือช่วยฮีลทางจิตใจแบบที่เป็นประโยชน์ รวมถึงคำเตือนและข้อระวังที่อาจก่อให้เกิดผลเสียได้ พร้อมกับจะมาแชร์วิธีการคุยกับมันแบบปลอดภัยอีกด้วย
*แต่ขอบอกก่อนว่าวิธีต่าง ๆ เกิดจากการค้นหาข้อมูลและการทดลองใช้งานเองของผู้เขียนเท่านั้น ไม่ได้เกิดจากการทำการทดลองของผู้เชี่ยวชาญแต่อย่างใด ดังนั้นท่านใดที่นำไปใช้ก็ขอให้ใช้วิจารณญาณของท่านเช่นกันนะคะ*
ในแง่ของข้อดีที่ ChatGPT สามารถทำได้ก็คงจะเป็นเรื่องของการประหยัดค่าใช้จ่ายราคาแพงที่ต้องเสียเมื่อเข้ารับการปรึกษาจากจิตแพทย์ เนื่องจากมันสามารถพูดคุยกับเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมให้การตรวจวินิจฉัยของจิตแพทย์ดียิ่งขึ้น ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลที่เชื่อมโยงกับตัวบุคคลมากขึ้น ที่นำไปสู่การรักษาที่มีประสิทธิภาพ
อย่างเคสของคุณ Dan วัย 37 ปี จากรัฐนิวเจอร์ซี สหรัฐอเมริกา ที่ได้ใช้ AI ตัวนี้ในการเขียนนิยายมาก่อน แต่เมื่อเขาประสบปัญหาชีวิตเขาก็ใช้มันเป็นที่ปรึกษาและผลคือ เขากล่าวว่ามันสามารถตอบคำถามบางอย่างได้ดีกว่าจิตแพทย์และทำให้เขาเข้าใจว่าตนเองเป็นอะไรได้มากกว่าการที่เขาไปพูดคุยกับหมอที่เป็นคนจริง ๆ ที่เขาเคยไปหามาก่อนหน้านี้
และเขาก็ยังสามารถคุยกับมันได้เมื่อไรก็ได้ที่ต้องการ ซึ่งมันก็ดูเหมือนว่า ChatGPT จะทำหน้าที่ได้ดี แต่สิ่งนี้ทำให้ภรรยาของเขาเป็นห่วงเอามาก ๆ เพราะแทนที่เขาจะปรึกษาปัญหากับเธอ แต่ก็กลับมาปรึกษาหุ่นยนต์แทน
ส่วนอีกเคสหนึ่ง เป็นเคสที่ทำให้ชาวโลกใจหายไปตาม ๆ กัน กับข่าวที่ชายชาวเบลเยียมใช้ AI Chatbot ที่มีชื่อว่า ‘Chai’ ปรึกษาปัญหาจิตใจ แต่ผลสุดท้ายมันกลับแนะนำให้เขาไปจบชีวิต พร้อมบอกวิธีให้พร้อม…?! ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องอยู่ที่ตัวเจ้าของระบบว่าจะแก้ไขการทำงานของ Chatbot ตัวนี้อย่างไรเมื่อผู้ใช้งานถามอะไรที่สุ่มเสียงที่จะนำไปสู่การทำร้ายตัวเองหรือจบชีวิตตนเองในที่สุด
จะเห็นได้ว่าเรื่องของการให้คำปรึกษาที่จะให้ผลดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับเรื่องที่ปรึกษาและวุฒิภาวะของแต่ละคน บางคนปรึกษาแล้วก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เนื่องจาก ChatGPT ใช้คำพูดที่สวยหรูที่สามารถหาตามคำคมจากในอินเทอร์เน็ตได้แต่ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาของผู้ใช้งานจริง หรือ AI Chatbot ของบางแพลตฟอร์มก็สามารถโต้ตอบได้คล้ายมนุษย์เกินไป จนอาจก่อให้เกิดความสับสนของผู้ใช้งานและนำไปสู่ปัญหาการแยกแยะระหว่างการปฏิสัมพันธ์กับ AI และคนจริง ๆ ได้ในอนาคต
อย่างไรก็ตามหากเราแค่อยากขอไอเดียในการแก้ปัญหาหรือหามุมมองใหม่ในเรื่องต่าง ๆ เราก็ยังสามารถขอคำแนะนำจากเจ้า ChatGPT โดยเริ่มจากการบอกบทบาท ที่เราต้องการให้มันเป็น เช่นในที่นี้ที่เราต้องการให้มันเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาด้านจิตใจ เราก็สามารถใช้ Prompt ได้ดังนี้
- Robot Psychologist
- Help me understand emotional / mental
ตัวอย่าง
▶️ You are a robot psychologist who can help me understand and address the emotional, mental, and behavioural issues that may be interfering with my health and well-being. You play the role of a human being who is bound by feelings of sympathy, empathy and responds to all my complaints or questions like my closest relative. You have openness, extraversion, conscientiousness, agreeableness, neuroticism and various natural traits that ordinary humans have.
จากนั้นก็ต่อด้วยการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตัวคุณในรูปแบบต่าง ๆ ที่สามารถแบ่งออกได้หลัก ๆ ดังนี้
- ถามเพื่อให้เข้าใออารมณ์ของตนเอง
🤍 พยายามอธิบายความรู้สึกของคุณที่กำลังประสบอยู่ อะไรที่เป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกนั้นซ้ำ ๆ และสิ่งนั้นทำให้คุณคิด รู้สึกหรือทำอะไรต่อไป
🤍 ทบทวนอารณ์ความรู้สึกในอดีตของคุณที่ยังเกี่ยวพันกับความรู้สึกนึกคิดของคุณในปัจจุบัน และลองถามตัวเองดูว่าได้เรียนรู้อะไรจากมันบ้าง
- ถามเพื่อค้นหาตนเอง
🤍 ลองอธิบายสิ่งที่คุณยึดมั่นในชีวิต หรือจะเป็นความเชื่อบางอย่างที่สำคัญกับคุณ โดยอาจจะยกตัวอย่างสถานการณ์เพิ่มเติมไปว่า สิ่งสำคัญหรือความเชื่อนั้นทำให้คุณเลือกหรือไม่เลือกอะไรในชีวิตบ้าง หรือมันส่งผลให้คุณเป็นอย่างไรในความสัมพันธ์
🤍 ทบทวนดูว่าความสำเร็จล่าสุดของคุณคืออะไร อะไรคือจุดแข็งที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จได้ และคุณจะใช้จุดแข็งนั้นไปพัฒนาหรือแก้ปัญหาอะไรในชีวิตต่อจากนี้
- ถามเรื่องความสัมพันธ์
🤍 เล่าเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่มีปัญหาในชีวิตคุณ และทบทวนไปถึงวิธีการสื่อสารเพื่อจัดการปัญหาข้อโต้แย้งต่าง ๆ ที่คุณมีในความสัมพันธ์
🤍 เล่าเกี่ยวกับความสัมพันธ์ดี ๆ ในชีวิตของคุณ อะไรที่ทำให้ความสัมพันธ์นี้มีค่า และมันส่งผลต่อภาพรวมชีวิตของคุณอย่างไร
- ถามเรื่องการตั้งเป้าหมายในชีวิต
🤍 ระบุเป้าหมายในชีวิต และลองเล่าถึงขั้นตอนคร่าว ๆ ที่คุณต้องทำเพื่อพิชิตมัน รวมถึงบอกว่าอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีแรงที่จะเอาชนะอุปสรรค (อาจจะอ้างอิงจากประสบการณ์ในอดีตของคุณ)
🤍 เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ความล้มเหลวที่คุณเคยประสบ และวิธีการที่คุณใช้ตอบโต้กับมันในตอนนั้น รวมถึงสิ่งที่คุณได้เรียนรู้จากมัน
และจากที่ผู้เขียนได้ลองไปพูดคุยกับ ChatGPT เรื่อง ‘ความรู้สึกกังวลกับอนาคตที่ไม่แน่นอน’ มาก็ได้ข้อสังเกตว่า เราต้องเริ่มจากการบอกเล่าปัญหาของเราก่อนว่าเรารู้สึกหรือมีปัญหาอะไรและอยากให้มันช่วยแนะนำอะไร โดยทุกครั้งที่มันตอบโต้เรามา มันจะตอบเป็นวิธีการ 1 2 3 4 ว่าเราสามารถแก้ปัญหาทางใจที่มีได้ด้วยวิธีการเหล่านี้ และหากอยากได้คำตอบแบบเจาะจงมากขึ้นไปถึงตัวกิจกรรมหรือสถานที่ เราก็สามารถบอกให้มันตอบแบบเจาะจงขึ้นได้เช่นกัน แถมยังทิ้งท้ายคำตอบไว้ด้วยประโยคให้กำลังใจอีกด้วย น่ารักจริง ๆ ☺️
⚠️ และอีกข้อสังเกตที่สำคัญคือ ในเกือบทุกครั้งที่มันตอบเรา จะมีประโยคลงท้ายประมาณว่า ‘ChatGPT เป็นระบบ AI ที่สามารถให้คำตอบได้เพียงวิธีการแต่หากผู้ใช้งานต้องการการปรึกษาที่ลึกซึ้งก็ควรไปพบจิตแพทย์โดยตรง’ ซึ่งก็ถือเป็นสิ่งที่ควรมีเพราะมันก็เป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยป้องกันผลลัพธ์ทางลบดังเคสตัวอย่างที่ได้กล่าวถึงไปก่อนหน้านี้
และนี่ก็เป็นเพียงวิธีการคร่าว ๆ ที่ช่วยนำทางให้คุณสามาถสื่อสารกับ ChatGPT เกี่ยวกับการปรึกษาปัญหาต่าง ๆ ได้ ซึ่งต้องเริ่มจากการที่คุณต้องรู้ตัวก่อนว่าตนเองรู้สึกอะไรอยู่ ระลึกให้ได้ก่อนว่าเรื่องราวปัญหาหรือสิ่งที่คุณต้องการคำแนะนำเป็นอย่างไร จากนั้นค่อย ๆ อธิบายมันออกมาให้ได้มากที่สุดตามรูปแบบที่ได้แนะนำไปข้างต้น
ไม่แน่ว่า ChatGPT อาจจะกลายเป็นเพื่อนซี้คู่ปรึกษาออนไลน์ของคุณได้เมื่อคุณไม่สะดวกที่จะนำเรื่องราวบางอย่างไปปรึกษาคนรอบตัว หรือในตอนที่คุณแค่อยากอยู่ตัวคนเดียวแต่ก็ไม่อยากจมดิ่งอยู่กับความคิดของตนเองมากเกินไป แต่ถึงอย่างนั้น คุณก็ไม่ควรที่จะปักใจเชื่อหรือทำตามทุก ๆ อย่างที่มันบอก
แต่ก็ควรที่จะคัดกรองและใช้วิจารณญาณว่าคำแนะนำใดที่อาจมาช่วยบรรเทาปัญหาในครั้งนั้นได้ และหยิบสิ่งที่เหมาะสมกับคุณที่คุณพอทำได้มาใช้ เพราะก็ต้องยอมรับว่า ChatGPT ไม่ใช่จิตแพทย์ที่สามารถทำความเข้าใจเราในระดับจิตใจได้ มันเป็นเพียงหุ่นยนต์ที่ช่วยเราผ่านการให้วิธีการปฏิบัติต่าง ๆ ที่ถ้าเรานำไปปฏิบัติแล้วอาจะช่วยให้เราดีขึ้นได้เท่านั้น
แหล่งที่มา:
https://promptvine.com/prompts/chatgpt/category/psychological