เคยได้ยินคำนี้กันมั้ยคะ? ให้แบรนด์พูดกับให้อินฟลูเอนเซอร์พูดคุณค่า(value) ที่ได้รับมันต่างกัน จะเห็นได้ว่าหลายๆ ครั้งที่เราใช้อินฟลูเอนเซอร์มักจะได้รับผลตอบรับที่ดีกว่า เเต่ก็ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และเทคนิคการเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ให้ถูกจุดด้วย แล้วทำไมกันนะ? การใช้อินฟลูเอนเซอร์ในตอนนี้ถึงได้รับความนิยม ไปดูกันเลยค่ะ
1. เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
แบรนด์มีสิทธิในการเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ได้อย่างตรงกลุ่มหรือตามความเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์และสินค้าได้ โดยสามารถนำข้อมูลเชิงประชากรศาสตร์มาช่วยในการอ้างอิงได้ เช่น เพศ อายุ พฤติกรรม หรือความสนใจเป็นต้น การเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่ตรงกลุ่มเป้าหมายจะได้รับความสนใจมากกว่าอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก
2. ได้รับความน่าเชื่อถือมากกว่า
ต้องยอมรับว่าในตอนนี้อินฟลูเอนเซอร์มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อมากกว่าเมื่อก่อน ผู้บริโภคหลายๆ คนเริ่มมีความเชื่อถือแบรนด์น้อยลง โดยอินฟลูเอนเซอร์ไม่จำเป็นต้องเป็นคนดังหรือดาราเท่านั้น แต่หมายถึงคนที่สามารถชัดจูงผู้บริโภคในเรื่องนั้นๆ ได้ ทำให้เขาสามารถไว้วางใจและอินกับมันได้
3. ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า
เราสามารถเลือกใช้ Micro Influencer หลายๆ คนแทนการจ้างพรีเซนเตอร์ดาราดังๆ เพียงคนเดียว ซึ่งแบรนด์ก็จะได้ประโยชน์มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย เช่น สร้างการรับรู้ได้มากขี้น ช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าในกลุ่มใหม่ๆ มากกว่าเดิมโดยงบที่จำกัด เป็นต้น
4. การนำเสนอที่แปลกใหม่
การเป็นอินฟลูเอนเซอร์ไม่จำเป็นต้องใช้แรงขับเคลื่อนในการนำเสนอมาก เพียงเป็นตัวเองก็พอแล้ว เพราะฉะนั้นแบรนด์ควรให้ความคิดและอิสระในการนำเสนอคอนเทนต์นั้นๆ ด้วย อย่าพยายามไปเปลี่ยนเอกลักษณ์หรือตัวตนของพวกเขา
ในตอนนี้มีช่องทางมากมายให้อินฟลูเอนเซอร์ได้สามารถแจ้งเกิด และแบรนด์ก็สามารถเปิดตลาดใหม่เพื่อต้อนรับฐานลูกค้าใหม่ๆ ได้เช่นกัน อย่างปีนี้ TikTok กำลังมาแรงมาก ทั้งอินฟลูเอนเซอร์และแบรนด์ควรกระโดดเข้าไปเล่นก่อน เพราะส่วนแบ่งทางการตลาดยังน้อย