เมื่อเปอร์เซ็นต์ของค่าวัดยอดเอนเกจเมนต์สำหรับคอนเทนต์วิดีโออย่าง ‘Watch Time’ ทำให้ Performance โดยรวมของคลิปทั้ง Long-form และ Short-form มีความแตกต่างกัน ซีอีโอ Adam Mosseri ของ Instagram จึงออกมาแชร์อินไซต์อีกครั้งว่าอัลกอริทึมมีการให้น้ำหนักกับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง
ในช่วงที่คอนเทนต์วิดีโอบน Instagram กำลังบูม ก็แน่นอนว่าหลาย ๆ คนที่เป็นทั้งครีเอเตอร์ หรือว่าแบรนด์ ต่างก็พยายามเสิร์ฟคอนเทนต์ที่เหมาะสมกับอัลกอริทึม และความชอบของกลุ่มเป้าหมายบน Instagram กันอยู่ แต่การอัปเดตเรื่องของอัลกอริทึมที่ให้ความสำคัญกับ Watch Time น่าจะทำให้เข้าใจกันมากขึ้นว่าต้องโฟกัสอะไร
โดยท่ามกลางความกังวลของครีเอเตอร์ที่สร้างคอนเทนต์ยาวแล้วจะไม่ได้รับยอด Watch Time ที่เท่าเทียมกับคนทำคลิปสั้น เพราะผู้คนต้องใช้ระยะเวลาในการรับชมมากกว่าเดิม เพื่อให้ Watch Time ถึงเปอร์เซ็นต์ที่กำหนด และอาจะทำให้คลิปที่เป็น long-form ได้รับความนิยมยากขึ้น
แต่ Adam Mosseri ก็ได้มาเคลียร์เรื่องอินไซต์ของอัลกอริทึม และ Watch Time ให้คลายข้อกังวลกัน ว่าอัลกอริทึมไม่ได้คำนวณแค่ระยะเวลาในการรับชมจนจบคลิปของผู้คนเท่านั้น แต่ยังคำนวณถึงจำนวนวินาทีด้วย
เพราะหากกำลังดูคลิปวิดีโอที่มีความยาว 1 นาทีเป็นเวลา 10 วินาที จำนวนวินาทีก็จะเท่ากับการดูวิดีโอที่มีความยาว 10 วินาที ฉะนั้นคนที่ทำคลิปยาวกว่าก็จะไม่ได้ถูกอัลกอริทึมเมิน หรือมีโอกาสที่จะเพิ่มยอด Watch Time ในหน่วยวินาทีได้เช่นกัน
แต่ท้ายที่สุดแล้วหากจะวัดด้วยการดูจนจบคลิปหรือไม่ อัตราความสำเร็จก็อาจจะยังมีข้อแตกต่างกันอยู่ เพราะการที่มีคนดูจนจบคลิปไม่ว่าจะเป็นคลิปสั้นหรือยาว ก็น่าจะทำให้มีน้ำหนักเปอร์เซ็นต์มากกว่า แต่อาจจะไม่ได้ส่งผลกระทบมาก แม้ผู้คนจะดูคลิปไม่จบ เพราะจำนวนวินาทีอาจเท่ากับเวลาที่ดูคลิปสั้นนั่นเอง
ซึ่งโดยสุดท้ายแล้ว Instagram ก็อยากดันให้ผู้คนหันมาโพสต์คลิปที่ยาวขึ้น เพราะจะช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมได้ แต่การที่คนมีส่วนร่วมจนจบคลิปจะเป็นสัญญาณในเชิงบวกสำหรับเหล่า Instagramer ที่สร้างคอนเทนต์มากกว่า
ที่มา: https://www.threads.net/@mattnavarra/post/DGgSx8sKhBl