เรากำลังอยู่ในยุคที่ชอบใครก็เนียนทัก DM (Direct Messages) หรือ Reply จาก Stories ก็ทำได้เช่นกัน ซึ่งในตอนนี้ทำให้ Instagram ขึ้นแท่นกลายเป็นมากกว่าแพลตฟอร์มไลฟ์สไตล์ แต่ยังสามารถช่วยหาคู่ หรือหาคนคุยได้อีกด้วย
โดยเฉพาะกับเหล่าคนโสดที่ชอบใช้เวลาอยู่กับโลกโซเชียลมีเดีย มักจะอยากเจอคนคุยบนแพลตฟอร์มนั้น ๆ ไปเลย แต่แน่นอนว่าความเป็นธรรมชาติของแพลตฟอร์ม หรือการมีพื้นที่ทำให้ติดตามผู้คนใหม่ ๆ หรืออยากสานสัมพันธ์กับคนรู้จักเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ก็ไม่ได้ทำได้ทุกแอป
อย่าง Messenger บน Facebook ก็มักจะถูกโฟกัสให้ใช้กับการทำงาน บริษัท และองค์กร หรือการสนทนาเรื่องธุรกิจมากกว่า ด้วยภาพลักษณ์ที่เป็นทางการ และหน้าฟีดที่เต็มไปด้วยคอนเทนต์ที่หลากหลาย ทั้งบทความ วิดีโอ หรือการติดตามข่าวสารต่าง ๆ จากเพจที่ติดตาม
แตกต่างจาก Instagram ที่เป็นแพลตฟอร์มไลฟ์สไตล์ ทำให้เห็นตัวตนของแอ็กเคานต์นั้น ๆ ชัดเจน ซึ่งต่อให้ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่เพียงแค่กดติดตาม ก็จะสามารถรู้ได้จากโพสต์ หรือสตอรีที่ลงได้เลยว่าคนนั้น ๆ ให้ความสำคัญกับเรื่องอะไร หรือแต่ละวันมีการใช้ชีวิต และ mindset อย่างไรบ้าง
Instagram จึงมีความเฟรนด์ลี่มากพอที่จะทำให้หลาย ๆ คนได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น อีกทั้งฟังก์ชันก็เอื้อต่อการต่อยอดความสัมพันธ์ ทั้งการสนทนาผ่าน DM หรือการ ‘Invite collaborations’ เพื่อลงโพสต์คู่กันหน้าฟีดโปรไฟล์ก็ทำได้ ร่วมถึงการคอมเมนต์ และเพิ่มเพลงลงโพสต์ได้ด้วย
ซึ่งมีการปรับตัวที่ตรงตามพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่มากที่สุดในแบบที่ไม่ต้องปัดซ้าย หรือปัดขวาเพียงอย่างเดียว เพราะสุดท้ายแล้วแอปหาคู่อย่าง Tinder หรือ Bumble ก็จะมีลิงก์ไปยังหน้าโซเชียลเพื่อให้เห็นไลฟ์สไตล์มากขึ้น
และการเติบโตของ Instagram กว่า 22% ในฐานะแอปหาคู่ ก็มีผลสำรวจจากแอป Rizz อีกว่า แอปหาคู่ปกติมักจะทำให้รู้สึกเหมือนอ่านเรซูเม่เลือกคนที่ใช่ มากกว่าจะปล่ยอให้การทำความรู้จัก และเกิดบทสนทนาเป็นธรรมชาติเท่ากับ Instagram
โดย Rizz เป็นแอป AI ที่มีการแนะนำบทสนทนากับคนคุย หรือคู่เดท ผ่านการแคปบทสนามาจากแพลตฟอร์มอื่น ๆ ซึ่ง 22% ภาพที่แคปนั้นก็มาจาก Instagram นั่นเอง ซึ่งใกล้จะถึงช่วงวาเลนไทน์แล้วใครที่อยากลองหาคู่ หรือทำความรู้จักกับใครสักคนเพิ่ม ก็ลองเริ่มจาก Instagram ได้นะ!
ที่มา: https://www.aol.com/instagram-might-most-popular-dating-201114256.html
