เป็นอีกครั้งที่ซีอีโอของ Instagram อย่าง Adam Mosseri ได้ทำคลิปนั่งอธิบายถึงเทคนิคการทำคอนเทนต์บนแอปที่เวิร์กสำหรับครีเอเตอร์เพื่อชาว Instagramer ซึ่งเป็นตาของ “Instagram Stories” ว่าจะทำยังไงให้มีประสิทธิภาพ และสามารถวัดได้จากอะไร
โดยเริ่มจากการอธิบายว่า Instagram Stories ที่ผู้ใช้ Instagram ลงอัปเดตกันอยู่ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นรูป และวิดีโอก็ตาม มีค่าเฉลี่ยในการโพสต์สูงมากกว่าโพสต์บนฟีด เพื่อเป็นการอัปเดตชีวิต หรือเรื่องราวบางอย่างที่ต้องการบันทึกเก็บไว้ดูในภายหลัง
ซึ่งแม้จะไม่ได้ยอดเอนเกจเมนต์ได้เท่ากับโพสต์หน้าฟีด แต่ Stories ก็มีความสำคัญ และอยู่ในบทบาทหลักของ Instagram performance ที่ผู้คนให้ความสนใจด้วย เพราะหน้าฟีดในตอนนี้กว่า 50% เต็มไปด้วยคอนเทนต์ที่ถูกแนะนำโดยอัลกอริทึมของ AI หรือแอ็กเคานต์ที่ไม่ได้ติดตามนั่นเอง
และการดึงดูดผู้คนที่ติดตามเราได้มากขึ้นจากหน้าฟีดในปัจจุบันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว เพราะ Instagram Stories ถูกเซ็ทให้เป็นฟีเจอร์สำหรับการสร้างเอนเกจเมนต์ และเชื่อมต่อกับผู้คนที่ติดตามเราได้มากขึ้นเท่านั้น และไม่ได้ช่วยให้หาผู้ติดตามกลุ่มใหม่ ๆ มาติดตามได้
ทำให้ Stories เหมาะที่จะลงโพสต์แบบเอ็กซ์คลูซีฟมากขึ้นกับผู้ติดตาม เช่น คอนเทนต์เบื้องหลัง หรือคอนเทนต์เรียลไทม์ขณะนั้น แต่ Mosseri ก็อธิบายเพิ่มเติมว่าหากอยากวัดประสิทธิภาพของ Stories ก็สามารถทำได้ ดังนี้
- ผู้ติดตามกดเข้ามาดู Stories
- ผู้ติดตามกดไลก์ Stories
- ผู้ติดตามรีพลาย Stories
ซึ่งทั้ง 3 ระดับล้วนแสดงถึงความสนใจที่มากขึ้นไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่เข้ามาดู Stories และกดไลก์ ไปจนถึงการรีพลายเพื่ออยากสร้างบทสนทนาด้วย
โดยรวมแล้วสรุปได้ว่า Instagram Stories มีไว้สำหรับผู้ติดตามที่รู้จักเราอยู่แล้วเท่านั้นว่าทำคอนเทนต์อะไร แต่จะไม่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ที่ยังไม่ได้รู้จักประเภทคอนเทนต์ของเราดีพอ แต่ก็สามารถเข้ามาดู Stories เพื่อทำความรู้จักเราได้มากขึ้นเช่นกัน
ที่มา: https://www.socialmediatoday.com/news/instagram-stories-ranking-factors-2025/738541/