อินสตาแกรมยังคงเป็นหนึ่งในโซเชียลมีเดียที่คนไทยใช้เป็นอันดับต้นๆ รองจากเฟซบุ๊ก รวมถึงปัจจุบันทั้งธุรกิจและแบรนด์ต่างก็ใช้อินสตาแกรมเป็นช่องทางในการทำการตลาดมากขึ้น จนทำให้เกิดเป็นอินไซต์และสถิติใหม่ๆ เพื่อเป็นแนวทางให้กับทั้งแบรนด์และครีเอเตอร์ในการวางแผนทำคอนเทนต์ในปี 2021 นี้
มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 พันล้านทุกเดือน
อย่างที่บอกว่าอินสตาแกรมเป็นหนึ่งในโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้จำนวนมาก การทำคอนเทนต์ลงบนอินสตาแกรมจึงเป็นอีกทางเลือกในการเพิ่มโอกาสให้คอนเทนต์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น
มีการโพสต์ 95 ล้านโพสต์ทุกวัน
จำนวนโพสต์ต่อวันที่มาก ทำให้สามารถเห็นว่าทุกคนมีการเคลื่อนไหวบนอินสตาแกรมอยู่เรื่อยๆ ทั้งนี้การโพสต์อินสตาแกรมของแต่ละคนก็ต้องขึ้นอยู่กับนำข้อมูลอินไซต์ และยอด engagement มาคิดเพื่อวางแผนการโพสต์ให้เหมาะสมอีกที
มีคนโพสต์ 500 ล้าน Story ทุกวัน
เป็นการย้ำว่าคลิปวิดีโอสั้นเป็นเทรนด์ที่กำลังมา และเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังนับเป็นฟีเจอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของอินสตาแกรมเลยก็ว่าได้ นอกจากเหล่าครีเอเตอร์จะใช้สตอรีเป็นช่องทางในการโปรโมตหรือเป็นไฮไลต์สั้นๆ แล้ว แบรนด์ยังสามารถใช้สตอรีเป็นอีกหนึ่งช่องทางโปรโมตได้อีกด้วย ด้วยการอัปเดตฟีเจอร์ภายในสตอรีอีกมากมายเพื่อตอบโจทย์ประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ใช้ อย่างแบรนด์เองก็สามารถใช้ AR ในการสร้างแคมเปญเพื่อให้คนมา engage มากขึ้น และส่วนมากจะเป็นแบรนด์เครื่องสำอาง
ผู้ใช้งานใช้เวลาเฉลี่ยบนอินสตาแกรม 53 นาทีต่อวัน
เวลาการใช้งานจะบ่งบอกว่าคนได้ใช้เวลาอยู่บนแพลตฟอร์มนั้นนานแค่ไหน ยิ่งเป็นตัวช่วยให้เรามั่นใจว่ายังมีโอกาสที่กลุ่มเป้าหมายจะเห็นโพสต์ของเรา
ผู้ใช้งานอายุ 18-34 ปี เป็นกลุ่มที่แอคทีฟมากที่สุด
ผู้ใช้งานที่มีการแอคทีฟ หรือทำกิจกรรมบนอินสตาแกรมมากที่สุดเป็นผู้ใช้ที่มีอายุระหว่าง 18-34 ปี เป็นประโยชน์ต่อการทำแบรนด์ หรือการทำคอนเทนต์ไปให้ถึงกลุ่มเป้าหมายได้
มีธุรกิจและแบรนด์กว่า 25 ล้านอยู่บนอินสตาแกรม
บ่งบอกว่า E-commerce กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึงอินสตาแกรมเองก็เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่สนับสนุนการทำธุรกิจ เห็นได้จากการเพิ่มเครื่องมือต่างๆ ที่อำนวยความสะดวกให้กับธุรกิจอย่างมากทั้ง Reels, Instagram Shopping เป็นต้น ถือว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ดีในการโปรโมต
ผู้ใช้มากกว่า 200 แอคเคานต์เข้าไปหน้าโปรไฟล์ธุรกิจอย่างน้อยหนึ่งแอคเคานต์ต่อวัน
พฤติกรรมของผู้บริโภคที่จะเป็นตัวบอกว่าการทำการตลาดของแบรนด์มีโอกาสเข้าถึงบริโภคได้มากขึ้น
76% ของธุรกิจและแบรนด์ทั่วโลกใช้อินสตาแกรมเพื่อทำการตลาด
เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่เอื้อต่อการทำการตลาดและการซื้อขาย ทั้งฟีเจอร์ในการโปรโมตสินค้าและการค้นหาสินค้าที่ง่ายสำหรับผู้ใช้งาน
มียอด engagement มากกว่าเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์
อินสตาแกรมมียอด engagement มากกว่าเฟซบุ๊ก 14 เท่า และมากกว่าทวิตเตอร์ถึง 27 เท่า จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการเผยแพร่คอนเทนต์ อาจใช้เป็นตัวเสริมในการเผยแพร่คอนเทนต์ก็ได้
ผู้ใช้งานกดเข้า shopping post 130 ครั้งทุกเดือน
1 ใน 3 ของยอดวิวมากจากแอคเคานต์ธุรกิจ
เป็นสถิติที่ชี้ให้เห็นว่าทั้งธุรกิจและแบรนด์ต่างๆ หันมาใช้อินสตาแกรมเป็นช่องทางในการโปรโมตและขายสินค้ามากขึ้น นับเป็นอีกหนึ่งตลาดที่จะช่วยผลักดัน E-commerce ให้ดีขึ้นในอนาคต
15-25% กด swipe up ใน branded story
ชี้ให้เห็นว่าสตอรีสามารถใช้โปรโมตให้กับธุรกิจหรือแบรนด์ได้ เนื่องจากมีคนรับชมสตอรีค่อนข้างเยอะ ทำให้การโพสต์คอนเทนต์ที่เป็น branded story สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นตามไปด้วย
78% ของแบรนด์มีแอคเคานต์ shoppable
เลือกแอคเคานต์ให้เป็นธุรกิจหรือครีเอเตอร์ เพื่อทำให้เป็น Instagram shopping ได้ เพื่อใช้เครื่องมือต่างๆ ที่สนับสนุนการโปรโมตและซื้อขายสินค้าได้สะดวกมากขึ้น แถมยังช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากและกว้างขึ้นอีกด้วย
Photo Ads ยังเป็นสิ่งที่ใช้มากที่สุดในการทำ Ads
รองลงมาเป็นลำดับตามนี้
- 25% Photo Ads
- 23% Video Ads
- 19% Carousel Ads
- 15% Collection Ads
- 14% Story Ads
โพสต์ที่แท็ก location จะเพิ่มยอด engagement ได้ขึ้นมากถึง 79%
เนื่องจากการค้นหาจากโลเคชันจะขึ้นโพสต์ของคนที่แท็กสถานที่นั้นๆ ไปด้วย ทำให้กลุ่มเป้าหมายมีโอกาสเจอโพสต์ของเราได้มากขึ้นด้วย
การใช้ UGC ช่วยเพิ่มยอด engagement
User Generated Content หรือ UGC คือ คอนเทนต์ที่มาจากลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย เป็นคอนเทนต์ที่มีการกล่าวถึงแบรนด์จากความสนใจของตัวเอง โดยที่แบรนด์ไม่ได้จ้าง หรืออาจจะเป็นคอนเทนต์จากการเข้าร่วมประกวดแคมเปญของแบรนด์ก็ได้
เพราะจะสามารถช่วยเพิ่มยอด engagement และเป็นการสร้าง community เป็นการปล่อยให้ผู้ใช้งานจริงได้เล่าเรื่องราว และถ่ายทอดประสบการณ์การใช้จริงสู่กลุ่มเป้าหมายคนอื่นๆ
- 92% ของผู้ใช้เชื่อใจใน UGC มากกว่ Ads
- ยอด engagement เพิ่มขึ้น 690% เมื่อเป็นคอนเทนต์ UGC
- UGC มีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าถึง 81%
- Click-to-rate หรืออัตราการคลิกต่อจำนวนการมองเห็น มากกว่า 300%
Instagram Influencer เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ช่วงหลังมานี้มีการใช้อินฟลูเอนเซอร์ในการทำการตลาดค่อนข้างเยอะ ซึ่งการใช้อินฟลูเอนเซอร์จะมีส่วนสำคัญในการช่วยเพิ่มยอด engagement บนโซเชียลมีเดียช่องทางต่างๆ ไปจนถึงยอดขายให้กับแบรนด์อีกด้วย ซึ่งอินสตาแกรมก็เป็นที่นิยมเช่นเดียวกัน
จากปี 2019 ที่ทำรายได้เพียง 1.7 พันล้านดอลลาร์ เป็น 2.3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2020 โดยอินฟลูเอนเซอร์ส่วนมากจะมีฐานผู้ติดตามอยู่จำนวนหนึ่งอยู่แล้ว แต่บางคนอาจไม่จำเป็นต้องมีฐานผู้ติดตามสูงก็สามารถสร้างยอด engagement สูงได้ สาเหตุที่อินฟลูเอนเซอร์จำเป็นต่อการทำการตลาดของแบรนด์ คือ มีความน่าเชื่อถือ และมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ดังนั้นการใช้อินฟลูเอนเซอร์ช่วยโปรโมตสินค้าบนอินสตาแกรม ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะเป็นตัวช่วยแบรนด์ในปี 2021 นี้
และทั้งหมดนี้ก็เป็นเทรนด์และสถิติที่จะเป็นแนวทางในการวางแผนการทำคอนเทนต์สำหรับเหล่าครีเอเตอร์และแบรนด์ จะเห็นได้ว่ามีผู้ใช้อินสตาแกรมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง คลิปวิดีโอสั้นอย่างสตอรีก็กลายมาเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ในการใช้โพสต์คอนเทนต์ นอกจากนี้ยังเห็นการเติบโตในด้าน E-commerce บนอินสตาแกรม จากยอด engagement ของ branded content
ที่มา : Social Media Today