สำหรับ จอมขวัญ ชื่อนี้มักจะถูกนิยามว่ามากับคอนเทนต์ที่หนักเสมอ ไม่ว่าจะเป็นภาพจำเรื่องสังคม การเมืองหรือการสัมภาษณ์ข่าว เลยทำให้หลายคนเกิดการตั้งคำถามว่าการเปลี่ยนมาเป็น YouTuber ภาพลักษณ์ของจอมขวัญจะเป็นแบบไหน? เพราะครั้งนี้เธอกลับมาอีกครั้งในฐานะ ‘พี่จอมขวัญ’ ผู้หญิงที่ชื่นชอบการสะสมของเล่นและฟิกเกอร์ แต่ก็ยังคงเป็นจอมขวัญที่ทุกคนคุ้นเคยอยู่
จาก ‘จอมขวัญ’ สู่ช่อง ‘Jomquan’
“จอมขวัญ” คงเป็นชื่อที่ใครหลาย ๆ คนมีภาพจำกับรายการ ‘ถามตรง ๆ’ ในทีวี แต่สำหรับช่อง “Jomquan” บน YouTube ครั้งนี้ เธอมาในฐานะ ‘พี่จอมขวัญ’ ที่เผยความเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่าขวัญมากขึ้น แต่ก็ยังมีคอนเทนต์ให้เราได้รู้ลึกถึงประเด็นสังคม กระแสของเหตุการณ์บ้านเมืองเหมือนเคย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นคาแร็กเตอร์นักข่าวอย่าง ‘จอมขวัญ’ หรือการเริ่มเข้าสู่วงการครีเอเตอร์แบบ ‘พี่จอมขวัญ’ เธอก็ยังคงเป็นที่น่าจับตามองอยู่เสมอ
ซึ่งช่อง ‘Jomquan’ ก็เสมือนกับมนุษย์คนหนึ่งที่มีทั้งด้านที่หลายคนคุ้นเคย และด้านที่อยากแสดงให้เห็นในอีกมุมหนึ่งเช่นกัน เพราะฉะนั้นการทำคอนเทนต์ของ Jomquan จะมี 2 ทางเป็นเส้นเกลียวคู่ขนานกันไป แต่ยังคงกลั่นมาจากแพสชันของจอมขวัญและทีมงานที่เชื่อว่า ‘ถ้าสนุกจะทำ’ แต่ความสนุกที่ว่าฉบับของ Jomquan จะแตกต่างออกไป เพราะจะคำนึงถึงการทำคอนเทนต์ที่ได้ประโยชน์กับส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว ด้วยความเชื่อที่ว่า ‘ประเด็นสำคัญต้องถูกพูดในพื้นที่ของเราให้ได้มากกว่าที่ที่เราเคยอยู่’
การทำงานฉบับ ‘Jomquan’
ในตอนนี้มีจุดเปลี่ยนหลายอย่างในวงการครีเอเตอร์ บางคนก็มองว่าเรื่องเทรนด์หรือกระแสเป็นสิ่งสำคัญ บางคนก็มองเรื่องตัวตนในการทำช่องสำคัญ แต่สำหรับ ‘Jomquan’ มองว่าการทำงานเพื่อให้สังคมได้ประโยชน์จากคอนเทนต์ของตัวเองสำคัญที่สุด แม้การพูดสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมักจะมาพร้อมกับความกังวลเรื่องความอยู่รอดของทีมงานก็ตาม ซึ่งในแง่ของการทำงานที่มีธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้องต้องยอมรับว่ามันไม่ง่ายนัก เนื่องจากเนื้อหาของช่องไม่ได้เน้นเพื่อทำเงิน หรือเหมาะแก่การสะสมยอดวิว เพราะช่อง ‘Jomquan’ มีแค่ความเชื่อที่ว่า
การวิจารณ์อย่างมีวุฒิภาวะเป็นเรื่องปกติ และจอมขวัญก็แค่ทำให้มันเป็นเรื่องปกติ
เรื่องของแพลตฟอร์ม ณ ตอนนี้ช่อง ‘Jomquan’ ก็ยังอยากทดลองหลาย ๆ อย่างไปพร้อมกับการยืนหยัดและปรับตัวเช่นกัน แม้จะไม่ได้เป็นช่องที่ทำคอนเทนต์อย่างคนทันโลก ทันเทรนด์ หรือทันกระแสของสังคม แต่ก็พร้อมที่จะลองประยุกต์หรือปรับเปลี่ยนให้ตัวเองเช่นกัน เพราะมองว่าการทดลองจะทำให้ได้ค้นพบมุมมองใหม่ ๆ ที่ตัวเองไม่เคยรู้มาก่อนในฐานะครีเอเตอร์คนหนึ่งได้
การทำงานกับแบรนด์และ ‘Jomquan’
เพราะช่อง Jomquan มีภาพชัดเจนว่าสังคมและการเมืองหนักไปทางฝ่ายไหน
ช่อง ‘Jomquan’ รู้สึกขอบคุณแบรนด์และเอเจนซีที่ติดต่อเข้ามากันอย่างล้นหลามเสมอ แต่ทุกวันนี้จอมขวัญก็ยังคงมองหาความเข้าใจตรงกลางระหว่างแบรนด์และช่อง ‘Jomquan’ อยู่ เพราะการทำงานร่วมกับแบรนด์และเอเจนซีแตกต่างจากการทำคอนเทนต์ฉบับของตัวเองที่ต้องมีความเข้าใจและการตกลงกันของทั้ง 2 ฝ่ายเพิ่มเข้ามา
ดังนั้นการขอเวลาปรับตัวเพื่อการสั่งสมประสบการณ์ทำงานที่ดีขึ้นในอนาคตในฐานะหน้าใหม่ในวงการครีเอเตอร์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จอมขวัญอยากให้การทำงานกับแบรนด์ส่งออกไปสู่โลกโซเชียลอย่างมีคุณภาพ โดยจอมขวัญรับรู้ถึงวัตถุประสงค์ของแบรนด์และเอเจนซีที่ติดต่อมาเป็นอย่างดี แต่ก็ยังมีบางจุดที่เนื้อหาของช่องอาจจะยังไม่เหมาะกับแบรนด์ หรือทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น ในขณะเดียวกันช่องนี้ก็ต้องตระหนักถึงคอนเทนต์ที่ค่อนไปทางหนักด้วย จึงอาจทำให้การสื่อสารออกไปลำบากสำหรับแบรนด์เมื่อร่วมงานกัน
แต่ตัวเองก็ยังคงยึดมั่นในแกนหลักของช่อง Jomquan ในการเป็นพื้นที่แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมในฐานะคนรุ่นหลังที่อยากมองเห็นอนาคตของคนรุ่นใหม่มีชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งการเป็นจอมขวัญยังคงอยู่และไม่ได้หายไปไหน เพราะฉะนั้นแบรนด์หรือเอเจนซีที่อยากจะเข้ามาร่วมงานด้วยก็ควรทำความเข้าใจในส่วนนี้ของช่อง Jomquan เสียก่อน แต่สำหรับแบรนด์ที่มีการติดต่อมาเพื่ออยากทำความเข้าใจร่วมกัน หรือมองภาพสังคมในอนาคตเป็นภาพเดียวกันก็ยินดีที่จะร่วมงาน และเรียนรู้ไปพร้อมกันเสมอ
‘Jomquan’ และการเป็นกระบอกเสียงสู่สาธารณะ
Jomquan เชื่อว่าสังคมจะเติบโตจนกว่าจะหามาตรฐานของสังคมได้
การแสดงออกหรือเป็นกระบอกเสียงสู่สาธารณะ คนที่ติดตามก็พร้อมที่จะแสดงออกเช่นกันว่าจะตัดสินใจต่อการแสดงออกของเราอย่างไร เพราะคนที่มีชื่อเสียงหรืออยู่ในแสงมากกว่าก็มักจะถูกคาดหวังมากกว่าเสมอ หากมีการแสดงออกไปสู่สังคมที่หวังเพียงแค่ความอยู่รอดหรือทำเพราะคนคาดหวัง สักวันหนึ่งเจตนาที่แท้จริงยังไงก็จะแสดงออกมา
ดังนั้นในฐานะที่ทำงานวงการสื่อทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง แล้วผันตัวมาเป็นครีเอเตอร์ ช่อง ‘Jomquan’ อาจจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มมีชื่อเสียงที่ส่งเสียงไปแล้วดังมากกว่าคนทั่วไป แต่สำหรับจอมขวัญไม่ได้มองตัวเองแบบนั้น แต่ก็ไม่เคยลืมว่าเสียงที่ส่งออกไปจะมีผลต่อสังคมตามเจตนาที่อยากให้อนาคตดีขึ้น จึงไม่เชื่อในสิ่งที่คิดว่ากระแสอยากให้ทำ เพราะสุดท้ายแล้วตัวตนนั้นหลอกกันไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะเปลี่ยนแปลงความคิดไม่ได้
ฉะนั้นสิ่งที่จอมขวัญเลือกที่จะพูดหรือส่งเสียงออกไปในคอนเทนต์ ล้วนแต่คิดมาดีแล้วว่าทำไปเพื่ออะไร แม้บางครั้งแบรนด์อาจจะยังไม่ชินที่มีครีเอเตอร์ทำหน้าที่ควบคู่กับการเป็นกระบอกเสียงไปด้วยแบบจอมขวัญ แต่หากสังคมมีความเคยชินจนมันกลายเป็นเรื่องปกติในสักวันหนึ่งได้ สิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นแค่เรื่องปกติเท่านั้น
แพลนในอนาคตของ ‘Jomquan’
เนื้อหาคอนเทนต์ในอนาคตของช่องยังคงมีทั้งความหนักและเบา แต่ก็ยังจะบาลานซ์มันควบคู่กันไปให้ได้ โดยที่แกนหลักของคอนเทนต์ในแง่ของการเป็นพื้นที่เพื่อสังคม และส่วนรวมก็ยังดำเนินต่อไปอยู่เสมอไม่มีเปลี่ยนแปลง เพราะเราไม่ได้ทำช่อง Jomquan ขึ้นมาเพื่อพูดเพื่อตัวเองคนเดียว แต่พร้อมที่จะยึดตัวตนของตัวเองแบบนี้ต่อไปในฐานะครีเอเตอร์หน้าใหม่ด้วย เพราะเชื่อว่าสิ่งที่ทำไม่ได้ให้ประโยชน์แค่กับตัวเอง แต่มันจะเป็นประโยชน์ให้กับส่วนรวมต่อไป พร้อมกับการหาแนวทางอยู่รอดและแนวคิดความเชื่อของตัวเอง
ความกล้าที่ ‘Jomquan’ อยากบอกถึงครีเอเตอร์
“ขวัญออกมาช้า แต่ว่าคงไม่มีคำว่าช้าเกินไป อย่างน้อยรู้ตัวว่าช้าแต่ก็ยังออกมา”
สำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ในยุคนี้แทบจะไม่ต้องห่วงเลยว่าพวกเขาจะเลือกเดินทางไหน หรือจะเป็นครีเอเตอร์เกี่ยวกับอะไร เพราะโลกนี้ยังคงมีอะไรให้เรียนรู้อีกเยอะ ต่อให้เริ่มเร็ว พลาดเร็วก็จะสามารถลุกขึ้นมาเร็วได้เช่นกัน ส่วนรุ่นหลังจากที่อยู่ช่วงรอยต่อระหว่างการ Disruption อายุ 30 – 40 ปี ก็คิดว่าการพร้อมที่จะปรับตัวก็สามารถเรียนรู้แลกเปลี่ยนระหว่างวัยได้ไม่ยาก ขอแค่ใช้เทคโนโลยีให้เต็มที่ เพราะเรารู้ตัวเองดีที่สุดว่าต้องการอะไรหรือชอบอะไร แต่การมีแค่ใจที่พร้อมก็ไม่ได้หมายความว่าจะเสี่ยงได้ เพราะต้องแลกมากับการใช้ต้นทุนและมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มด้วย
ซึ่งสิ่งสำคัญในการก้าวเข้ามาในวงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์นี้ขอแค่อย่ากลัวจนไม่กล้าทำ เพราะความกลัวจะทำให้เสียโอกาสบางส่วน แต่ต่อให้ก้าวเข้ามาช้าหน่อย ความช้าอาจจะทำให้เสียโอกาสไม่เท่าความกลัว เพราะจังหวะที่ว่าช้าเป็นจังหวะที่เราเลือกแล้วว่าเหมาะกับตัวเอง เรื่องของเส้นทางให้ตัวเราเป็นคนกำหนด ต่อให้อยู่ในสายงานเดียวกัน หลักสูตรของแต่ละคนที่เคยได้ลองหรือผิดพลาดมาก็ไม่เหมือนกัน อย่างช่อง Jomquan ที่ออกตัวเริ่มช้าหน่อย แต่ก็ออกมาทำพร้อมเรียนรู้ที่จะเติบโตในแบบของตัวเองไปด้วย โดยต่อให้จะมีความกลัวแฝงอยู่เหมือนกับคนอื่น ๆ แต่ก็เชื่อว่าความกล้าจะแบกความกลัวทำให้ไปต่อได้เอง