หากพูดถึงเรื่องโซเชียลมีเดีย ก็คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคอนเทนต์อย่าง Short Video หรือวิดีโอสั้นนั้นมาแรงมากจริง ๆ โดยเฉพาะกับเทรนด์อย่าง TikTok จนทำให้แอปอื่น ๆ เริ่มปรับตัวมาเน้นทางด้านวิดีโอกันบ้างแล้ว เพราะขนาด Facebook หรือ Instagram ก็ยังมีวิดีโอจาก Reels เต็มฟีดกันเลยทีเดียว แต่หากมองภาพรวมของแพลตฟอร์มที่นำเสนอคอนเทนต์วิดีโอนั้นก็ล้วนมีเวลาที่แตกต่างกันไป ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า แล้วแต่ละแพลตฟอร์มสามารถดึงดูดความสนใจชาวโซเชียลกันได้กี่วินาทีล่ะ? วันนี้ทาง RAiNMaker เลยหาคำตอบมาให้ถึงที่เลย!
ไม่ว่าคอนเทนต์วิดีโอสั้นจะสามารถดึงดูดความสนใจจากเจ้าอัลกอริทึมของแพลตฟอร์ม หรือว่าดึงดูดสายตาหน้าฟีดของชาวโซเชียลก็ตาม ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าทุก ๆ ตลาดต้องคอยผลิตคอนเทนต์วิดีโอกันออกมาทุกแพลตฟอร์มเพื่อปรันกัน แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าแต่ละแพลตฟอร์มเหมาะกับเวลาเท่าไหร่ และนานแค่ไหนที่ผู้ชมจะให้ความสนใจต่อคลิปหนึ่งคลิป
แม้การกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนของแต่ละแพลตฟอร์มจะไม่ง่ายนัก เพราะไม่มีใครรู้ว่าเวลาที่วิดีโอเริ่มเล่นไปจนจบจะดึงดูดความสนใจได้นานแค่ไหน รวมถึงคอนเทนต์ที่อยู่ภายในคลิปก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การคาดคะเนนี้ยากขึ้น แต่ก็ไม่ยากเกินไปที่จะจับจุดได้ว่าผู้คนส่วนใหญ่จะมีส่วนร่วมแตกต่างกันแต่ละแพลตฟอร์มกี่นาที
แต่ช้าก่อน! เพราะเราอยากพามาทำความรู้จักกับแนวทางการลงคอนเทนต์เสียก่อน เพื่อให้ลงคอนเทนต์ไปแล้วรอผลลัพธ์ที่คุ้มค่า ดีกว่าลงไปแล้วหายจมไปกับทะเลฟีดบนโซเชียล แต่แนวทางเหล่านั้นจะมีอะไรบ้าง? ตามไปดูกันเลย
- คอนเทนต์วิดีโอ: จากสถิติของ Hootsuite – Digital 2022 พบว่า เหตุผลที่ทำให้คนส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่กับหน้าจอ และอินเทอร์เน็ตคือ ‘คลิปวิดีโอ’ ดังนั้นในตอนนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นแบรนด์ เอเจนซี หรือครีเอเตอร์ก็ตาม ต้องเริ่มหาแนวทางใหม่ ๆ ในการทำคอนเทนต์วิดีโอมาแข่งในตลาดคอนเทนต์แล้ว
- ทำให้เข้าใจง่ายและชัดเจน: ซึ่งคำว่าชัดเจนในที่นี้ไม่ได้หมายความถึงเนื้อหาที่เข้าใจง่ายเท่านั้น แต่คลิปวิดีโอต้องมีภาพและเสียงที่ชัด ฟังง่ายต่อความเข้าใจด้วย เพราะงั้นหลีกเลี่ยงความยุ่งเหยิง ทับซ้อนเข้าไว้นะ
- ต้องมีแคปชัน: โดยแคปชันในที่นี้ไม่ได้จะมีประโยชน์เพื่อเพิ่มความเข้าใจมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยให้ผู้พิการทางการได้ยินสามารถสนุกไปกับคอนเทนต์ของเราได้ด้วยนั่นเอง
- สร้างภาพจำให้นึกถึง: นอกจากคอนเทนต์วิดีโอที่ดูแล้วแตกต่าง หรือจดจำได้ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวเสียงหรือเพลงที่ใช้ก็ต้องเข้ากันจนทำให้ติดหูให้ได้ เพราะหากได้ยินเพลงที่ใช่ประกอบคลิปแล้วนึกถึงคอนเทนต์ของเราก็ยิ่งนับว่าประสบความสำเร็จอย่างมากเลยทีเดียว
จากที่กล่าวไปข้างต้นก็พอจะรู้ถึงองค์ประกอบของคอนเทนต์ที่พอเป็นแนวทางให้สร้างสรรค์ผลงานได้บ้างแล้ว คราวนี้ก็ถึงตาของพระเอกของคอนเทนต์กันบ้าง ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มจะมีเวลาที่ดีที่สุดอยู่เท่าไหร่กันบ้าง มาเช็กกัน!
แม้แรกเริ่มจะเป็นแอปบุกเบิกที่เน้นเรื่องการโชว์ภาพนิ่งจนกลายเป็นแกลอรีโซเชียลสวย ๆ ก็ตาม แต่เมื่อถึงปี 2021 แพลตฟอร์มรูปภาพอย่าง Instagram ก็ผันตัวกลายไปเป็นคู่แข่ง TikTok แล้ว เพราะชาว Instagram นั้นชอบที่จะเข้ามาเล่นเพราะฟีเจอร์สตอรี (Story) มากกว่าเสียอีก
-
Video: 1 นาที
ตั้งแต่ Instagram ได้รวม IGTV และหน้าฟีดหลักเข้าด้วยกันโดยไม่มีการแยกตัวฟีเจอร์นี้ออกไป ฟอร์แมตของแพลตฟอร์มก็ได้เปลี่ยนเป็น ‘Instagram Video’ เรียบร้อยแล้ว โดยยึดความยาวที่ชมคลิปมากที่สุดต่อกริด (Grid) คือ 1 นาที นอกเสียจากว่าคอนเทนต์นั้นจะน่าสนใจก็เลยมีผู้คนคลิกเข้าไปชมคลิปเต็ม 10 นาทีเป็นต้นไป
-
Story: 15 วินาที
การอัปสตอรี่นอกจากจะเหมือนกับได้ลงบันทึกไดอารี่ประจำวันแบบคลิปวิดีโอแล้ว ยังเหมือนกับช่องทางหนึ่งที่แบรนด์และเอเจนซีหรือครีเอเตอร์เลือกที่จะใช้เป็นพื้นที่โฆษณาด้วย เพราะกว่า 72.6% สตอรี่ของ Instagram เป็นการเข้าถึงโฆษณานั่นเอง โดยความยาวของการรับชมจะอยู่เพียงแค่ 15 วินาทีก็ถูกปัดผ่านแล้ว
ดังนั้นหากอยากที่ใช้หลาย ๆ คลิปต่อกันลงเป็นสตอรี่ล่ะก็ ขอแนะนำว่าอย่าเกิน 7 สตอรีก็พอ แม้ความจริงแล้ว 3 สตอรีต่อกันก็เกินพอแล้ว และอย่าลืมที่จะให้ข้อควมหรือลูกเล่นต่าง ๆ ที่เป็นข้อมูล หรือสติ๊กเกอร์เคลื่อนไหวได้เพื่อดึงดูดความสนใจด้วยนะ เพราะแต่ละสตอรีที่มีข้อมูลที่จำเป็นจะประหยัดการตอบไดเร็ก (Direct) ของ Instagram ได้เลย แถมสตอรีและวิดีโอของ Instagram ยังสามารถลิงก์เชื่อมเพื่อไปลงใน Facebook ได้อีกด้วย
-
Reels: 15 – 60 วินาที
Reels เรียกได้ว่าเป็นคำตอบของ Instagram ในการนำไปเป็นคู่แข่งสำคัญกับ TikTok เลยก็ว่าได้ เพราะการปรับแต่งในช่วงที่คอนเทนต์วิดีโอสั้นกำลังมาแรงแซงโค้งทุกอย่าง เลยทำให้การถ่ายคลิปลง Reels นั้นไวรัลไม่น้อย โดยสามารถเลือกกำหนดเวลาได้เองที่ 15 – 30 – 45 หรือ 60 วินาทีนั่นเอง
แต่สำหรับเวลาการรับชมขอ Reels นั้นจะเริ่มที่ 15 วินาทีแรก และจบลงทีภายใน 1 นาทีเท่านั้น และยิ่งคอนเทนต์ของคุณสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้คนใน Insatgram ได้ พวกเขาก็สามารถใช้เวลากับคลิปนั้นจนจบ 1 นาทีได้เช่นกัน
Video Length: น้อยกว่า 1 นาที
แม้ว่า Facebook จะสามารถลงคอนเทนต์วิดีโอยาวได้ถึง 4 ชั่วโมงก็ตาม แต่เราขอแนะนำว่าตัวเลขที่ยาวที่สุดนั้น เป็นตัวเลขที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะผู้คนจะใช้เวลากับคลิปของคุณเพียงแค่ 1 นาทีหรืออาจน้อยกว่านั้นนั่นเอง
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคอนเทนต์แบบวิดีโอยาวนั้นไม่มีคุณภาพ เพราะขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากนำเสนออะไร กลุ่มเป้าหมายเป็นใคร และอยากให้พวกเขาได้อะไรจากคอนเทนต์ของคุณ แต่อย่า่งไรก็ตามความยาวมากกว่า 3 นาทีขึ้นไปสำหรับ In-stream Ads และสำหรับอัลกอริทึมของ Facebook ดูท่าจะชอบกับการลงวิดีโอบนแพลตฟอร์มโดยตรงมากกว่านำลิงก์จากแพลตฟอร์ฺมอื่น ๆ อย่าง YouTube หรือ Vimeo มาลงด้วย
TikTok
Video Length: 7 – 15 วินาที
เพราะการเติบโตที่เพิ่มมากขึ้นของแพลตฟอร์มนี้ ความยาวของคลิปวิดีโอจึงเป็นเรื่องสำคัญที่แบรนด์และเหล่าครีเอเตอร์ควรรู้เอาไว้ ว่าควรจะทำให้คอนเทนต์น่าสนใจภายในกี่วินาที ซึ่งคำตอบก็คือ 7-15 วินาทีนั่นเอง
และแม้ TikTok จะขยายเวลารับชมคลิปสูงสุดจาก 1 นาทีเป็น 10 นาที แต่ก็ควรตั้งเป้าหมายให้สอดคล้องกับเทรนด์วิดีโอสั้นเข้าไว้ ว่าคอนเทนต์ต้องสั้น และกระชับ เหมาะกับการรับชมในช่วงระหว่างวัน โดยที่ไม่กลืนไปกับทะเลคอนเทนต์ ฉะนั้นนอกจากจะตามเทรนด์โซเชียลสมัยนี้แล้ว ก็ควรระวังในเรื่องของพลังแห่งปลายนิ้วด้วย เพราะหากคอนเทนต์ของคุณไม่น่าดึงดูดพอ รับรองว่าปลายนิ้วโป้งนี่แหละ ที่จะเป็นตัวกำหนดยอดวิวและเอ็นเกจเมนต์ของคุณว่าเพียงพอที่จะอยู่รอดในสนามวิดีโอคอนเทนต์หรือไม่
Twitter
Video Length: 44 วินาที
Twitter ขึ้นชื่อว่าเป็นแพลตฟอร์มที่จำกัดเรื่องตัวเลขเก่ง โดยมีความยาววิดีโอสูงสุดที่ 140 วินาที หรือใครที่พอจะคุ้น ๆ ตัวเลขนี้กับการจำกัดตัวอักษรในการพิมพ์เมื่อนานมาแล้ว ซึ่งในปัจจุบัน Twitter ก็ได้เปลี่ยนมาเป็น 280 ตัวอักษรแล้ว ฉะนั้นอย่าจำสลับกันเชียวนะ
ซึ่ง 140 วินาทีหรือ 2 นาที 20 วินาทีนี้คือเวลาสูงสุดที่คุณจะสามารถลงคอนเทนต์คลิปวิดีโอได้ แต่เวลารับชมที่ดีที่สุดของ Twitter กลับอยู่ที่ 44 วินาทีเท่านั้นที่พอจะดึงดูดความสนใจจากผู้คนได้ และก็เป็นเวลาที่เพียงพอแล้วสำหรับการดูเพื่อให้รับรู้ ดังนั้นจึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะจะลง Teaser หรือตัวอย่างแบบสั้นจากคอนเทนต์คลิปยาว ๆ นะ
YouTube
Video Length: 2 นาที
YouTube เรียกได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มที่บุกเบิกด้านคอนเทนต์วิดีโอแบบยาวเลย โดยบัญชีที่ยืนยัน (Verified) แล้ว จะสามารถลงคลิปได้ความยาวสูงสุด 12 ชั่วโมงเลยทีเดียว หรืออาจลงได้นานกว่านั้นหากบีบอัดไฟล์ให้มีขนาดที่ต่ำกว่า 128 GB
แต่ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าคลิปวิดีโอจะยาวเท่าไร ก็ขึ้นอยู่กับเป้าหมายในอุดมคติที่คุณตั้งเอาไว้อยู่ดี ซึ่งความยาวที่เพียงพอสำหรับการรับชมอยู่ที่ 2 นาทีเท่านั้น เพราะเป็นเวลาที่ทำให้พอรับรู้ได้ว่าคอนเทนต์ของคุณเหมาะที่จะดูต่อจนจบ ไปจนถึงการกดติดตามช่อง หรือพอแล้วที่จะรับรู้แล้วเปลี่ยนไปหาอะไรที่น่าสนใจกว่า เพราะโลกของ YouTube เองก็มีการแข่งขันคอนเทนต์อยู่ทุกวัน แต่สำหรับการทำ Vlog ความยาวสูงสุดที่ผู้คนจะสนใจกำหนดขั้นต่ำคือ 10 นาทีนะ
จากเวลาที่ดีที่สุดของแต่ละแพลตฟอร์มที่กล่าวไป มาจากการเก็บสถิติเกี่ยวกับใช้เวลากับคอนเทนต์แบบวิดีโอของ Hootsuite ในปี 2022 เท่านั้น ซึ่งเรื่องเวลาอาจมีความคลาดเคลื่อนหรือเปลี่ยนแปลงได้เสมอ แต่ขอแค่คุณรู้จักกลุ่มเป้าหมายมากพอ และคอยเช็กหรืออัปเดตสถิติหลังบ้านในทุก ๆ วันก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับช่องของตัวเองเช่นกัน
ที่มา: Hootsuite