Tips

Avatar

zealotzephyr May 19, 2020

Mechanical Keyboard อุปกรณ์ลับของ Content Creator สายบทความ

สำหรับชาว Content Creator อย่างเราๆ แล้ว “เกมมิ่งเกียร์” หรืออุปกรณ์เกมมิ่งก็เป็นสิ่งที่อาจจะไม่จำเป็นเท่าไหร่นอกจากหน้าตาของมัน เพราะสเปคที่รวดเร็ว รวมถึงไฟที่วูบวาบก็คงไม่ได้ช่วยในการทำงานของเราเท่าไหร่นัก นี่ยังไม่พูดถึงเรื่องของรสนิยมและหน้าตาอันดู “มืออาชีพ” ที่บางทีเราต้องพกข้าวของออกไปพรีเซนต์งาน หรือไปทำงานด้านนอก

แต่เราก็พบว่าเรื่องพวกนี้มันก็อยู่ที่รสนิยมจริงๆ และก็ยังมีเจ้าอุปกรณ์เกมมิ่งชิ้นหนึ่งที่มีความสามารถช่วยในการพิมพ์ได้อย่างน่ามหัศจรรย์ โดยที่เราไม่ต้องใช้มันเล่นเกมก็คุ้มค่าได้เหมือนกัน มันมีชื่อว่า Mechanical Keyboard 

และเจ้าอุปกรณ์เกมมิ่งชิ้นนี้ มันมีดีมากกว่าหน้าตา

Mechanical Keyboard คืออะไร

ก่อนจะไปยัง Mechanical Keyboard เรามาพูดถึง Membrane keyboard หรือที่เรียกกันว่า “ปุ่มยาง” กันก่อน ปุ่มยาง (Rubber Dome) นั้นเป็นคีย์บอร์ดที่มีเทคโนโลยีในกรผลิตที่ราคาไม่แพง โดยที่มันชื่อนี้เพราะปุ่มที่เรากจะเด้งกลับจากยางที่บุ๋มลงไป และเมื่อกดมันก็จะไปโดนแผงวงจรข้างล่าง และเกิดการพิมพ์เมื่อครบวงจร

ข้อดีของปุ่มยางที่ทำให้เราพบเจอมันอยู่ตลอดคือมีราคาถูก (อาจแพงได้ตามฟังก์ชันที่เพิ่มขึ้น) น้ำหนักเบา บาง มีเสียงในการใช้งานที่เบามาก ทำให้มันไปอยู่ได้ในทุกอุปกรณ์

ส่วน Mechanical Keyboard นั้นจะต่างออกไปตรงที่ไม่ได้อาศัยการทำงานเป็นแผงวงจรรวมอย่างเดียวเหมือนกับเจ้าคีย์บอร์ดตัวบน แต่ตามชื่อของมัน มันจะมีกลไกในตัวเองเป็นปุ่มๆ ซึ่งมีข้อดีที่สามารถทำงานแยกกัน รวมถึงซ่อมเป็นปุ่มๆ แยกกันก็ได้ แต่ก็แลกมาด้วยความหนา หนัก และอายุการใช้งานที่นานกว่า (ในทางเทคนิค) โดยมักจะพบในยี่ห้อสินค้าเกมมิ่งทั่วไป

แล้วมันทำไมกับคนทำคอนเทนต์

สิ่งที่ชาวคอนเทนต์ขาดไม่ได้ก็คงจะเป็นเรื่อง “การพิมพ์” ซึ่งหลายคนก็อาจจะถนัดการพิมพ์บนอุปกรณ์ที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจใช้ทัชสกรีนจนโปรฯ เลยด้วยซ้ำ แต่สำหรับ Mechanical Keyboard นั้นแตกต่างออกไป เพราะตัวมันเองมีความพิเศษอยู่อย่างหนึ่งคือ “ความแตกต่างของสวิตช์” 

ซึ่งจริงๆ สวิตช์ของเจ้าคีย์บอร์ดอันนี้นั้นมีหลักสิบแบบ แต่สามารถแยกหยาบๆ ได้ 2 แบบคือ

  • Linear – จังหวะเดียว กดแล้วกดเลย (เช่น Red Switch, Black Switch)
  • Tactile – สองจังหวะ มีอีกระยะก่อนวงจรทำงาน (เช่น Blue Switch, Brown Switch)

โดยพระเอกของการใช้งานพิมพ์ก็คือพวก Tactile หรือ 2 จังหวะ เพราะมีน้ำหนักที่ใช้ฝืนนิ้วเวลากดลงไป พร้อมตีกลับขึ้นมาด้วยสปริง ที่คีย์บอร์ดแบบปุ่มยางนั้นทำไม่ได้ ทำให้ฟีลลิ่งการพิมพ์นั้นต่อเนื่องเป็นอย่างมาก สนุกและลื่นไหลสุดๆ

ส่วน Linear นั้นด้วยความที่มีจังหวะเดียวทำให้การกดมันไม่มีการสู้นิ้ว หรือที่เรียกว่า “ลั่นง่าย” อาจจะไม่ได้มีการพิมพ์เด้งสู้นิ้วเหมือน Tactile แต่ถ้าใครจะถนัดแนวนี้ก็ไม่ผิดนะ

แต่หน้าตามันจะ…

เข้าใจว่าหลายคนคงเห็นภาพมันเป็น “อุปกรณ์เกมมิ่ง” มาโดยตลอด ซึ่งถูก แต่ไม่ทั้งหมด เพราะเจ้า Mechanical Keyboard เนี่ยมันก็มีแบบหน้าตาเรียบหรู ขนาดพกพา (ไปจนถึงมี Bluetooth) ที่รอให้คุณเลือกใช้อีกไม่รู้กี่พันกี่หมื่นแบบ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะชอบแบบไฟวิบวับ หรือดำดุดูธุรกิจ ก็ไม่มีปัญหา

และคีย์บอร์ดพวกนี้สามารถ “แต่งครอบปุ่ม” (Keycap) ได้ด้วย เผื่อใครเห็นว่ามันสามารถน่ารักกว่านี้ได้อีก

ส่วนเรื่องของ “เสียง” ที่อาจจะคิดกันว่าเสียงมันดังน่ารำคาญ อันนี้ก็ทั้งจริงและไม่จริงเช่นกัน เพราะชนิดของแต่ละสวิตช์ใน Mechanical Keyboard นั้นอย่างที่บอกมันมีเป็นสิบๆ แบบ มีทั้งเสียงดัง เสียงเบา รวมถึงฟีลลิ่งการกดแบบหนึบๆ หรือคลิกๆ อันนี้ต้องอาศัยไปลองกันเองที่ร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ว่าแบบไหนถึงจะถูกใจเราที่สุด

Content Creator ต้องลงทุนกับสิ่งนี้จริงๆ ใช่มั้ย

แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคน แต่ในเมื่อ Content Creator แทบทุกสายต้องเวียนวนอยู่กับ “การพิมพ์” อย่างเลี่ยงไม่ได้ และการที่เจ้า Mechanical Keyboard นี้มีกลไกทำให้การพิมพ์ของเรามีจังหวะที่สนุกและต่อเนื่องมากขึ้น ก็คงเพิ่มสุนทรียะในการทำงานให้กับหลายคนได้ไม่ต่างกัน และเมื่อเราสนุกกับการพิมพ์มากขึ้น แรงบันดาลใจในการทำงานก็

ซึ่งเราก็คิดว่าในเมื่ออุปกรณ์บางอย่างมันจะอยู่กับเราในทุกๆ วันทำงาน การจะได้ไปลองสักนิดหนึ่งก็ดูไม่ใช่เรื่องเสียหาย จริงมั้ยครับ

ที่มา/เรียบเรียง: kbgangster

 

Copyright © 2024 RAiNMaker. All rights reserved.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save