FacebookMeta

Avatar

giestarks June 16, 2023

รวมอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ของ Facebook ช่วยวิเคราะห์การตลาดและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ Reels

เพราะ Facebook Reels กำลังเป็นฟีเจอร์ที่เติบโตเร็วที่สุดของ Meta และกลายมาเป็นช่องทางใหม่ของแวดวง Content Creator และธุรกิจ ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้ และเพื่อช่วยให้มียอดเอ็นเกจเมนต์ Facebook เพิ่มขึ้น Meta จึงประกาศอัปเดตเครื่องมือการตลาดช่วยวิเคราะห์อินไซต์กลุ่มเป้าหมายด้วย ‘Inspiration Hub’ และฟีเจอร์ใหม่ของ Reels

อัปเดตฟีเจอร์ของ Reels

แก้ไขข้อความ เสียง และเพลงของ Reels ในหน้าเดียวกันได้

นอกจาก Layout ของ Reels จะดูมีระเบียบมองหาเครื่องมือใช้งานได้แล้ว การอัปเดตใหม่นี้ยังช่วยให้ง่ายต่อการขยับเลเยอร์ จับองค์ประกอบต่าง ๆ วางตรงตามตำแหน่งที่ผู้ใช้ต้องการให้ปรากฏในคลิปด้วย

‘Inspiration Hub’ ตัวช่วยวิเคราะห์คอนเทนต์ Facebook Reels

ตัวช่วยเช็กอินไซต์ให้กับผู้ใช้งานในหน้า Professional Dashboard ฟีเจอร์ช่วยดูข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเข้าถึงโพสต์ การมีส่วนร่วม การกดถูกใจ และผู้ติดตามของผู้ใช้แพลตฟอร์ม

เครื่องมือนี้มีความคล้ายคลึงกับการบันทึกข้อมูลเทรนด์ของ TikTok ใน Creative Center ที่สามารถวิเคราะห์เทรนด์ยอดนิยมและเทรนด์ใหม่ที่กำลังจะมา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ Reels มากขึ้น

แต่ที่พิเศษ คือ Inspiration Hub จะขึ้นไฮไลต์ Reels ที่ติดท็อปเทรนด์ โดยวัดจากประเด็นที่กำลังมาแรง เช่น เพลง หรือแฮชแท็กที่ติดกระแสที่สุดในช่วงเวลานั้น

ยิ่งไปกว่านั้น Inspiration Hub ยังเป็น ‘Template Hub’ ของชาวคอนเทนต์ครีเตอร์ที่อยากเกาะกระแสเทมเพลตน่ารัก ๆ ตามคอนเทนต์ที่กำลังมาแรงด้วย

แม้ว่าการใช้เทมเพลตสร้างวิดีโอจะมีความเป็นแพทเทิร์นเดียวกันกับคนอื่น แต่การใช้เทมเพลตก็มีข้อดี คือ ช่วยลดเวลาในการเตรียมสคริปต์หรือวางสตอรีบอร์ดได้

และเพื่อให้ Reels ติดเทรนด์ยอดนิยมง่ายขึ้น ครีเอเตอร์สามารถใช้ Templates Hub ฟีเจอร์ใหม่ใน Reels Composer ช่วยไกด์เคล็ดลับการจัดเทมเพลตง่าย ๆ ที่สะดวกต่อการตัดต่อวิดีโอได้ทันที!

เพิ่มอินไซต์ Reels ใน Professional Dashboard

Facebook กำลังนำข้อมูลเชิงลึกของ Reels ที่ก่อนหน้านี้มีเฉพาะใน Meta Business Suite ไปยัง Professional Dashboard ซึ่งเป็นศูนย์กลางสำหรับเครื่องมือและแหล่งข้อมูลอินไซต์ของผู้ใช้งาน Professional Mode และเพจต่าง ๆ

โดยมีทั้งข้อมูลเชิงลึกจาก Reels ของเพจที่เป็นยอด Reach ยอดการโต้ตอบ และข้อมูลเชิงลึกของแต่ละคลิป เช่น ผู้ติดตามใหม่ที่มาจากคลิป และกราฟที่แสดงระยะเวลาที่ผู้ดูรับชม ซึ่งมีการอัปเดตแบบรายวัน

Facebook ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่าเร็ว ๆ นี้ จะมีการเปิดตัวระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่แสดงให้ผู้สร้างเห็นว่าบัญชีของผู้ใช้งาน Professional Mode ทำงานอย่างไรในระดับที่ละเอียดยิ่งขึ้น รวมถึงระดับของการโต้ตอบและการบริโภคตามรูปแบบ ตลอดจนตามผู้ติดตามและผู้ที่ไม่ใช่ผู้ติดตาม ซึ่งครีเอเตอร์จะได้รู้อินไซต์จำนวนผู้ติดตามที่เพิ่มและลดลงไปในช่วงเวลาที่กำหนดอีกด้วย รอติดตามได้เลย!

อัปเดตอินไซต์การตลาด

อัปเดต Professional Account prompts ช่วยเพิ่มยอด Follower

Facebook ยังอัปเดตข้อความแจ้งเตือนบัญชี Professional เพื่อช่วยให้ครีเอเตอร์มีการมองเห็นมากขึ้นบน Facebook โดยสร้าง Daily Checklist สำหรับผู้ใช้โหมด Professional เพื่อช่วยเพิ่มยอด Follower ของครีเอเตอร์และโผล่บนฟีด Facebook มากขึ้น

โดยการแจ้งเตือนจะคล้ายกับเวลาที่ Meta แจ้งเตือนให้กรอกรายละเอียดหน้าโปรไฟล์บัญชีส่วนตัวหรือบัญชีธุรกิจให้ครบ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเจ้าของเพจได้ใส่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไว้แล้ว ผู้ใช้แพลตฟอร์มจะได้เพิ่มประสิทธิภาพการมีส่วนร่วมและการโต้ตอบกับเพจได้อย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ Facebook ตั้งเป้าจะช่วยครีเอเตอร์ผู้ใช้งาน Professional Mode มีจำนวนผู้ชมบน Facebook อย่างต่อเนื่อง โดยให้ครีเอเตอร์ได้โผล่ในหน้าฟีดข่าวมากขึ้นผ่านฟีเจอร์ ‘Creators to follow’

ซึ่งจะช่วยไฮไลต์ครีเอเตอร์ที่ผู้ใช้งานมีแนวโน้มสนใจบนหน้าฟีด และเมื่อผู้ใช้งาน Professional Mode ได้แสดงความคิดเห็นในโพสต์สาธารณะก็จะมีปุ่มติดตามปรากฏพร้อมกับชื่อในความคิดเห็น เพื่อดึงดูดผู้ติดตามใหม่ กรณีที่คอมเมนต์กลายเป็นไวรัลด้วย!

เพิ่มจำนวนครีเอเตอร์ที่เข้าร่วม Performance Bonus Program มากขึ้น

ใน Performance Bonus Program จะมีการสร้างรายได้แก่ครีเอเตอร์ที่มียอดการมีส่วนร่วมสูงในโพสต์โดยมีเป้าหมาย คือ ให้ครีเอเตอร์ได้รับรายได้จากการโต้ตอบผู้ใช้คนอื่นเฉพาะบนโพสต์สาธารณะใน Facebook (ไม่รวมในฟีเจอร์ Reels และ Stories) ซึ่งครีเอเตอร์ที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ในโปรแกรมนี้มักทำการโพสต์เป็นปกติทุกวัน

ผู้สร้างที่ได้รับเชิญเข้าร่วมโปรแกรมจะได้รับการแจ้งเตือนและสามารถตรวจสอบการสร้างรายได้ใน Professional Dashboard ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของโพสต์และรายได้จาก Performance Bonus Program บนมือถือ เพื่อให้ผู้สร้างสามารถปรับกลยุทธ์เนื้อหาของตนได้อย่างเหมาะสม

เนื่องจากโปรแกรมนี้จะใช้วิธีการเชิญครีเอเตอร์มาเข้าร่วมเท่านั้น Facebook จึงเล็งเห็นถึงการปิดกั้นโอกาสครีเอเตอร์ที่มียอดเอ็นเกจน้อย จึงมีเป้าหมายจะเชิญครีเอเตอร์เข้ามามีส่วนร่วมในโปรแกรมนี้มากขึ้น และที่สำคัญคือ จะมีครีเอเตอร์ที่จะได้รับเข้าร่วมในข้อเสนอส่วนแบ่งรายได้ของ Reels อีกด้วย แต่คงต้องจับตาดูกันต่อไป!

ลดข้อจำกัดการสร้างรายได้ระหว่าง Content Creator และแบรนด์

ตอนนี้ Facebook กำลังทดสอบการลงคอนเทนต์การตลาดจาก Instagram ทั้งในรูปแบบโพสต์ข้อความ, Reels, และ Stories ข้ามไปยัง Facebook เพื่อช่วยเพิ่มจำนวน Reach ของแคมเปญ และยอดเอ็นเกจเมนต์อื่น ๆ

Facebook เลยพร้อมจะลดข้อจำกัดในการแท็กพาร์ทเนอร์ธุรกิจ เพื่อให้ครีเอเตอร์สามารถแท็กและอนุญาตให้พาร์ทเนอร์รันโฆษณาจาก Facebook Page ของครีเอเตอร์ได้เองด้วย ซึ่งช่วยเพิ่มการเข้าถึงคอนเทนต์โฆษณาและยังช่วยให้มีโอกาสมากขึ้นในการรับรายได้จาก Affiliate ได้ทั้งสองแอป เพื่อเพิ่มยอด Reach และขยายสเกลในการร่วมมือระหว่างแบรนด์และครีเอเตอร์ได้

โดยสรุปแล้ว การอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ ๆ เหล่านี้ ทั้งบน Reels และฟีเจอร์อินไซต์การตลาดจะสร้างประโยชน์อย่างมากในการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกบน Facebook ซึ่งจะช่วยให้ครีเอเตอร์ปรับปรุงประสิทธิภาพ Facebook ของพวกเขา อีกทั้งยังได้รูปแบบการทำวิดีโอบน Reels ได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น 

หากสนใจสามารถทดลองใช้เองได้ที่ Facebook Reels และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/creators/helping-creators-find-success-on-facebook

ที่มา:

Socialmediatoday

Copyright © 2024 RAiNMaker. All rights reserved.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save