Meta บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram มีเกณฑ์จะ Lay off พนักงานจำนวนมากถึงหลักพันในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะเป็นการลดจำนวนพนักงานที่ใหญ่ที่สุดในเครือบริษัทเทคโนโลยีในปีนี้ ซึ่งถือว่าเป็นการลดจำนวนพนักงานที่มากกว่า Twitter ที่เพิ่ง Lay off พนักงานไปเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว และเป็นการปรับโครงสร้างครั้งแรกของ Meta อีกด้วย โดยจะประกาศรายละเอียดในวันพุธหน้า (16 พ.ย.)
Mark Zuckerberg CEO Meta ได้เคยพูดไว้ว่าในปี 2023 จะโฟกัสการทำงานที่เน้นปริมาณคนน้อยและคงคุณภาพมาก่อน ซึ่งหมายความว่าบางทีมอาจจะเติบโตขึ้น และบางทีมอาจจะต้องลดจำนวนคนออกในปีหน้า
ที่ผ่านมาในช่วง 2 ปี ระหว่างปี 2020 – 2021 Meta ได้จ้างพนักงานเพิ่มมากกว่า 27,000 คน และการว่าจ้างก็ยังเพิ่มขึ้นถึงช่วง 9 เดือนแรกของปี 2022 จนทำให้ปัจจุบันมีพนักงานกว่า 87,000 คน
จนกระทั่งในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา Meta ได้ประกาศว่าผลประกอบการลดลง โดยอ้างว่าเป็นเพราะการมีคู่แข่งอย่าง TikTok เพิ่มเข้ามา รวมถึงประเด็นการติดตามการใช้งานแอปของ Apple อีกทั้ง Metaverse ที่ไม่ประสบความสำเร็จพอที่จะเป็นทางเลือกในการสร้างผลประกอบการให้กับบริษัทได้
ด้าน Twitter ก็มีการ Lay off พนักงานไปเมื่อวันศุกร์ (4 พ.ย.) ที่ผ่านมากว่า 3,800 คน หลังจากที่ Elon Musk เข้ามาดูแลได้เพียงหนึ่งสัปดาห์ และได้ปลด Parag Agrawal CEO คนเก่าของ Twitter รวมถึงผู้นำ และสมาชิกคนอื่น ๆ ครั้งนี้ก็ปลดพนักงานครั้งใหญ่จำนวนเกือบครึ่งเลยทีเดียว
เนื่องจากตอนนี้ Twitter จำเป็นต้องปรับปรุงโครงสร้าง รวมถึงต้องจ่ายหนี้ราว 1 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ที่ Elon Musk ได้รับมาตอนซื้อบริษัท ในช่วง 3 เดือน ถึง 30 มิถุนายน Twitter ได้โพสต์ว่ามียอดขาดทุนทั้งหมด 270 ล้านดอลลาร์ จึงจำเป็นต้องสร้างรายได้ หรือลดค่าใช้จ่ายโดยเร็วที่สุด
Twitter จึงพยายามหารายได้จากหลากหลายช่องทางมากขึ้น โดย Elon Musk วางแผนจะเก็บค่าสมาชิก Twitter Blue ในราคา 8 ดอลลาร์ต่อเดือน จากราคาเดิม 5 ดอลลาร์ ซึ่งผู้ใช้ที่ได้รับการรับรองจะต้องจ่ายเพื่อนคงสภาพเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้า และบริการต่าง ๆ จะนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพื่อให้สมาชิกเห็นโฆษณาน้อยลง และเพิ่มให้ใส่วิดีโอยาวขึ้นในทวีต เป็นต้น
แต่ที่ตลกร้ายคือ Twitter ได้ออกมากล่าวขอโทษ และขอให้พนักงานบางส่วนที่ Lay off ออกไปกลับมาทำงานอีกครั้ง โดยอ้างว่าเป็นความผิดพลาดของบริษัทที่ปลดพนักงานโดยไม่ทันได้คิดถึงประสบการณ์ของบุคลากรเหล่านั้นที่สำคัญต่อการสร้างฟีเจอร์ใหม่ ๆ ในอนาคตที่ Elon Musk ต้องการนำมาบนแพลตฟอร์ม
ที่มา: Engadget Meta, Engadget Twitter
