Mark Zuckerberg ได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ให้ทั้ง Facebook และ Instagram กลายเป็นแหล่งสร้างรายได้สำหรับเหล่าครีเอเตอร์มากขึ้น ด้วย NFT และสามารถสร้างคอมมูนิตี้เป็นของตัวเอง พร้อมทำให้กลายเป็นโลก Digital Collectibles ด้วย
เริ่มจากฟีเจอร์ ‘Interoperable Subscriptions’ เป็นฟีเจอร์ที่ทำให้ครีเอเตอร์สามารถสร้างคอมมูนิตี้ของตัวเองได้มากกว่าที่เคย เพราะสามารถสร้างเป็นกลุ่มใน Facebook แล้วจำกัดการเข้าถึงคอนเทนต์ และการอัปเดตได้เฉพาะกับสมาชิกที่เสียเงินเท่านั้น
ซึ่งหากใครมีครีเอเตอร์ที่ชอบก็สามารถกด Subscriptions และเสียเงินเป็นรายเดือนเพื่อแลกกับการได้รับคอนเทนต์แบบเอ็กซ์คลูซีฟกันเป็นกลุ่มได้เลยนั่นเอง
ยิ่งไปกว่านั้น Meta จะหันมาโฟกัสกับโลกของ NFT มากขึ้นด้วย เพราะนอกจากจะทำให้ผู้คนเชื่อมต่อกันมากขึ้นด้วยโลกเสมือนจริง พร้อมฟีเจอร์ในโลก Metaverse ต่าง ๆ แล้ว โลกของ NFT ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ Mark Zuckerberg จะเดินหน้าทดสอบ และพัฒนาต่อไปด้วยเช่นกัน
เพราะตอนนี้เริ่มมีการปล่อยทดสอบให้กับผู้ใช้ทั่วโลกได้เข้าถึงโลกของการสะสมแบบดิจิทัลมากขึ้น หรือที่เรียกว่า Digital Collectibles นั่นเอง
ซึ่งการขยายการทดสอบในครั้งนี้ จะทำให้ผู้ใช้ที่เป็นผู้ถูกเลือกได้โชว์ผลงาน NFT ของตัวเองลงบน Instagram และ Facebook ได้ แต่ที่เห็นชัดที่สุดในตอนนี้จะเป็นบนแอป Instagram มากกว่า เพราะจะทำการปล่อยบน Facebook เร็ว ๆ นี้แทน แต่ก็มีครีเอเตอร์บางกลุ่มในอเมริกาที่เริ่มใช้ฟีเจอร์ NFT ได้บ้างแล้ว
นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถโพสต์ NFT ข้ามแพลตฟอร์มระหว่าง Facebook และ Instagram ได้เหมือนกับ Reels ซึ่ง Meta ก็จะเริ่มทดสอบ NFT บนสตอรีของ Instagram ด้วย SparkAR เร็ว ๆ นี้เช่นกัน
ส่วนโปรไฟล์ NFT นั้นยังไม่มีการอัปเดตแน่ชัดว่าจะเป็นการทดสอบครั้งต่อไปของ Meta หรือไม่ แต่ตลาดที่เต็มไปด้วยสินค้าดิจิทัล (Digital Assets) ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าอวตาร ไอเท็มดิจิทัล ไปจนถึงวิชวลต่าง ๆ กำลังจะมาเร็ว ๆ นี้แน่นอน
ที่มา: Social Media Today, Facebook: Mark Zuckerberg