จากงานประกาศรางวัล Thailand Social Awards ครั้งที่ 11 ที่จัดไปเมื่อวานนี้ (22 ก.พ. 66) มีหนึ่งในรางวัลที่ประกาศกำลังเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรงบนโซเชียลมีเดีย นั่นก็คือ “Best Creator Performance on Social Media สาขา Variety” ที่ผู้ชนะ คือ My Mate Nate
ซึ่งเสียงบนโซเชียลมีเดียส่วนมากไปในทางที่ไม่เห็นด้วยกับการประกาศผลในครั้งนี้สักเท่าไหร่นัก โดยโพสต์ประกาศรางวัลดังกล่าวของ Thailand Social Awards แทบจะลุกเป็นไฟ เพราะมียอดแชร์ถึง 2.5 พัน แถมยอดคอมเมนต์อีกเกือบสองพันที่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นกับรางวัลนี้
ขอบคุณภาพจากคอมเมนต์ใต้โพสต์ https://www.facebook.com/thailandsocialawards/photos/pcb.2181921118656259/2181900428658328?_rdc=1&_rdr
โดยประเด็นหลักมาจากการที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่าคอนเทนต์ในช่องของ My Mate Nate มีความคล้ายคลึงกับช่อง “MrBeast” ซึ่งเป็นช่องที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในโลกบน YouTube ยันหน้าปกคลิปกันเลยทีเดียว ซึ่งประเด็นนี้ก็ได้มีดราม่าไปก่อนที่จะประกาศรางวัลแล้วเช่นกัน ทำให้เสียงโซเชียลเห็นด้วยเป็นเอกฉันท์ว่า “นี่ไม่ใช่แรงบันดาลใจ ไม่ใช่ครีเอเตอร์ แต่เป็นการก๊อปปี้คอนเทนต์”
ขอบคุณภาพจาก ประชาชาติธุรกิจ
ย้อนกลับไปอีกเมื่อปี 2017 เนทยังมีประเด็นใหญ่อย่างคลิปที่นำเหรียญไปวางบนรางรถไฟ เพื่อทดสอบว่าเหรียญของประเทศไหนแข็งแรงมากที่สุด จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงแม้เจ้าตัวจะออกมาขอโทษ พร้อมชี้แจงว่าได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มาอย่างดีแล้วว่าปลอดภัย แต่ชาวเน็ตก็ยังเห็นถึงความไม่เหมาะสมที่อาจนำไปสู่อันตราย และความเสียหายได้อยู่ดี
นอกจากนี้ คอนเทนต์ในช่องหลายคลิปยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม เช่น คลิปที่นำแมวไปสู้กับแมงป่อง หรือคลิปแกล้งคนที่ไม่เหมาะสมในหลาย ๆ คลิป ทำให้ผู้ชมเสียงแตกออกเป็นสองเสียงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
อย่างไรก็ตาม ถึงกระแสด้านลบจะเยอะ แต่ช่อง My Mate Nate ก็ติดอันดับ 4 ของช่อง YouTube ในไทยที่มีจำนวนผู้ติดตามมากที่สุดถึง 12.9 ล้านคน รวมถึงยังมียอดเข้าชมถึง 3 พันล้านครั้งเลยทีเดียว
แต่เห็นแบบนี้แล้ว ใช่ว่าตัวเลขต่าง ๆ จะเป็นตัวการันตีได้ว่าครีเอเตอร์จะอยู่รอดในวงการ โดยเฉพาะวงการที่ต้องแข่งกันด้วยคอนเทนต์ ที่ต้องงัดทักษะการสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้สมกับคำว่าครีเอเตอร์ที่แปลว่า “ผู้สร้าง”
อีกทั้งในโลกปัจจุบันผู้ชมมีความตระหนักถึงประเด็นสังคม ความถูกต้องเหมาะสม และการละเมิดลิขสิทธิ์มากขึ้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เหล่าครีเอเตอร์จะโดนจับผิด หรือมีดราม่าอยู่บ่อย ๆ โลกของเราเปิดกว้างให้ผู้ชมมีอิสระ และกล้าที่จะแสดงความคิดเห็นมากขึ้นมาตั้งนานแล้ว และจะยิ่งมากขึ้นไปอีกในอนาคต
ในกรณีนี้ คงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่ายอดต่าง ๆ และรางวัลอาจไม่สามารถการันตีได้เสมอไปว่าคุณดีพอแล้วหรือยัง เพราะผู้ชมจะเป็นคนคัดเลือกคอนเทนต์ และด้วยระบบนี้เองสังคมจะคัดกรองว่าใครจะอยู่รอด ไม่รอดในวงการต่อไป