น้าเน็ก หรือที่หลายคนคุ้นกับชื่อ ‘Nanake555’ จากชีวิตที่อยู่บนจอทีวีมา 30 กว่าปี สู่การเปลี่ยนแปลงสู่แพลตฟอร์มออนไลน์อย่างเต็มตัว ด้วยความสนุกนานแต่ยังคงสาระที่ตอบโจทย์ผู้ชมยุคใหม่
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาน้าเน็กถือเป็นหนึ่งในครีเอเตอร์คนไทยที่ได้เปลี่ยนจากการทำรายการทีวีมาทำรายการตัวเองบนเฟซบุ๊กแล้วมีคนดูกว่าล้านคน จากการไฟล์มากกว่า 4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และมียอดผู้ติดตามบนเฟซบุ๊ก 3 ล้านกว่าคน ซึ่งคอนเทนต์แรกของน้าเน็ก มีจุดประสงค์ที่จะให้ความรู้กับคนดูในส่วนที่ไม่สามารถหาได้ในห้องเรียน อย่างประสบการณ์ชีวิต หรือเรื่องต่างๆ ที่บาคนอาจไม่รู้ว่าจะไปถามใคร เช่น เรื่องเกี่ยวกับเพศ หรือการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเงิน เป็นต้น
เพราะคอนเทนต์เหล่านี้เองจึงทำให้น้าเน็กสามารถเข้าถึงผู้ชมได้มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ชมที่อายุน้อย เรียกได้ว่าเป็นการใช้เฟซบุ๊กเชื่อมสะพานความต่างวัยได้เป็นอย่างดี ในการสวมบทบาทเป็นลุงข้างบ้านที่ทั้งตลกและมีสาระ
เป้าหมาย
โดยเป้าหมายของน้าเน็กในการสร้างคอนเทนต์บนเฟซบุ๊กมีอยู่ 3 ข้อหลักๆ คือ
-
ให้ความรู้เชิงบันเทิงกับผู้ชม
-
สร้างกลุ่มผู้ฟังที่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง
-
สร้างทางเลือกในการสร้างรายได้ผ่านการสตรีมบนเฟซบุ๊ก
กลยุทธ์
และกลยุทธ์ที่น้าเน็กใช้ในการสร้างรายได้บนเฟซบุ๊ก มีอยู่หลักๆ 4 ข้อด้วยกัน คือ
1. การสร้างคอนเทนต์ให้มากขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกในการเพิ่มรายได้
จะเห็นได้ว่าในเพจ น้าเน็กโพสต์วิดีโออย่างน้อยวันละ 5 คลิป และที่สำคัญทุกคลิปเป็นคลิปที่น้าเน็กคิดเอง ทำเองทั้งหมด โดยถ่ายทอดผ่านความตลกและสนุกสนานที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวน้าเน็ก แต่ก็ยังคงความน่าเชื่อถือไว้ด้วย นอกจากนี้น้าเน็กยังจัดไลฟ์ทุกวันพฤหัส ศุกร์และเสาร์ ที่การไลฟ์แต่ละครั้งก็มีความยาวถึง 5 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว และความพิเศษที่ทำให้ยอดวิวไลฟ์ของน้าเน็กสูงอยู่ตลอด เป็นเพราะในส่วนของการไลฟ์จะเปิดให้ผู้ชมสามารถส่งคำถามเข้าไปและน้าเน็กจะเป็นคนตอบผ่านไลฟ์นั่นเอง
ทุกอย่างมันไม่ได้ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เป็นเพราะเราใส่ใจเข้าไปในการทำคอนเทนต์ เป้าหมายของการทำคอนเทนต์คือการปรับชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยให้ดีขึ้น แล้วจังหวะมันได้พอดี ทุกอย่างเลยออกมาดีมากๆ
น้าเน็กยังบอกอีกว่ากลยุทธ์ในการสร้างคอนเทนต์สำคคัญต่อการสร้างคอนเทนต์ให้ประสบความสำเร็จมาก และสิ่งที่ช่วยยืนยันความสำเร็จของการทำคอนเทนต์ของน้าเน็กนอกจากยอดวิวแล้วก็คือ การมีโฆษณาแบบ Instream ads คือโฆษณาที่ขึ้นมาทั้งขณะที่ไลฟ์อยู่ หรือแทรกในไฟล์ที่ถูกบันทึกไว้
2. ร่วมงานกับเหล่าผู้เชี่ยวชาญเพื่อผลิตคอนเทนต์และคำแนะนำที่เป็นประโยชน์
อีกกลยุทธ์ของน้าเน็กคือการ Collaboration ทำงานร่วมงานกับเหล่า KOI หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ไม่ว่าจะเป็น ทนาย หมอ ที่ปรึกษาทางการเงิน หรือครูสอนภาษาอังกฤษ เพื่อทำให้คอนเทนต์น่าเชื่อถือมากขึ้น
ในปีที่ผ่านมา ผมไปโฟกัสกับการสร้างคอนเทนต์ที่ให้ความรู้แบบสนุกๆ และสอนคนดูเกี่ยวกับบทเรียนชีวิต ซึ่งเราก็ได้ทำผ่านการไลฟ์บนเฟซบุ๊กเพื่อให้คนดูสามารถส่งคำถามเข้ามาได้ ผมได้ผู้เชี่ยวชาญจากหลายด้านเข้ามาร่วมไลฟ์ด้วยทั้งด้านกฎหมาย การเงิน ภาษาอังกฤษ และการแนะนำเกี่ยวกับการประกอบอาชีพ
ถ้าเปรียบเพจเป็นโรงเรียน ผมคงเป็นผู้อำนวยการที่สอนวิชาแนะแนว และให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญมาสอนในวิชาที่ชอบ
การทำคอนเทนต์แนวให้ความรู้และความบันเทิงนั้นเป็นประโยชน์มากในปัจจุบัน น้าเน็กเสริมอีกว่าถือว่าโชคดีมากที่ธุรกิจสามารถเติบโตได้ใน่วงวิกฤตเช่นนี้ เป็นเพราะว่าคอนเทนต์ที่ทำออกมาเป็นการช่วยเหลือผู้คนจริงๆ ยิ่งสถานการณ์ยิ่งแย่หรือยิ่งมีปัญหามากขึ้นเท่าไหร่ ผู้ชมก็จะยิ่งเข้ามาดูและหาคำตอบมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการเงินและเรื่องทางกฎหมาย และยิ่งมีคนดูมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้มีสปอนเซอร์เข้ามาซื้อพื้นที่โฆษณามากขึ้นตามไปด้วย
3. ลองใช้เครื่องมือใหม่ๆ ในการสร้างรายได้
มีหนทางมากมายที่จะสร้างธุรกิจบนเฟซบุ๊ก ทั้งวิธีง่ายๆ อย่างการสื่อสารกับผู้ชมผ่านตัวหนังสือ ใช้ภาพหรือวิดีโอเข้ามาช่วย ซึ่งน้าเน็กนับเป็นคนแรกๆ ที่นำเครื่องมือต่างๆ มาปรับใช้ รวมถึงเครื่องการสร้างรายได้อย่าง Stars หรือการโดเนตผ่านการส่งดาว
ผมมักจะบอกกับแฟนๆ เสมอว่าไม่จำเป็นต้องส่งดาวให้ผมหรอก แต่ยิ่งผมพูดแบบนั้นคนดูก็ยิ่งส่งดาวให้มากขึ้น ผมคิดว่าที่แฟนๆ ส่งดาวมาเป็นเพราะความชอบ และเป็นการแสดงความรักมากกว่า
น้าเน็กเลยตอบแทนแฟนๆ ที่ส่งดาวมาให้โดยการเชิญให้มาเจอน้าเน็กตัวเป็นๆ ที่แฟนมีต น้าเน็ตย้ำกว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยคือคอนเทนต์ที่ผลิตออกไปแฟนๆ ต้องสามารถรับชมได้ฟรี ไม่ใช่ดูได้แค่เฉพาะคนที่ส่งดาวเท่านั้น ไม่เพียงเท่านั้นน้าเน็กยังใช้ประโยชน์จากแชตบอตสำหรับการค้าขายกับแคมเปญ 11.11 Live Shopping specials ซึ่งทำให้ยอดขายของน้าเน็กพุ่งขึ้นถึง 40% จากปกติ
4. ใช้เฟซบุ๊กก่อนใคร
สิ่งที่ผมชอบที่สุดบนเฟซบุ๊กคือมันมาจากความเป็นคอมมูนิตี้ เป้าหมายของผมคือการสร้างคอมมูนิตี้ และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ผมเลือกผลิตคอนเทนต์บนเฟซบุ๊กเป็นที่แรก
หนึ่งในคอนเทนต์ตัวอย่างที่น้าเน็กเผยแพร่บนเฟซบุ๊กเป็นอันแรก คือ เกมโชว์ ‘โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม’ ที่เป็นเกมโชว์ออนไลน์ผ่านไลฟ์ จากการใช้ Messenger และ Poll เป็นส่วนหนึ่งในเกม ซึ่งในเกมน้าเน็กจะเล่นทายคำถามกับเหล่าแขกรับเชิญคนดัง โดยน้าเน็กจะถามคำถามและให้แขกรับเชิญและผู้ชมตอบคำถามเหล่านั้นผ่านโพลบนเฟซบุ๊ก ถ้าแขกรับเชิญตอบผิด ผู้ชมก็จะได้รับรางวัลแทน
ซึ่งเครื่องมือนี้จะเป็นตัวเพิ่มปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ชมและผู้ดำเนินรายการมากขึ้น โดยผู้ชมสามารถส่งคอมเมนต์ร่วมเชียร์ทั้งสองฝ่ายในขณะที่กำลังเล่นเกมอยู่ก็ได้ ซึ่งแชตบอตจะจัดการในส่วนของการเลือกผู้เข้าแข่งขันให้ ใครที่อยากเข้าร่วมจะต้องคอมเมนต์ใต้โพสต์ของไลฟ์เมื่อเกมเริ่ม จากนั้นแชตบอตจะทำการสุ่มเลือกผู้เข้าแข่งขันและส่งข้อความผ่าน Messenger
ผลลัพธ์
-
วิดีโอให้ความรู้และความบันเทิงมากกว่า 1,200 คลิปที่มีผู้ชมกว่า 492 ล้านวิว ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม – ธันวาคม 2020
-
มียอดผู้ติดตามเพิ่มขึ้นมากกว่า 9 แสนคน ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม – ธันวาคม 2020
-
รายได้ประจำปีบนเฟซบุ๊กเพิ่มขึ้น 62%
จากการผลิตสตรีมที่สร้างรายได้อย่าง Instream Ads, Branded Content และการใช้เครื่องมือ Stars เมื่อเทียบกับช่วงเดือนมกราคม – ธันวาคม 2019 กับ เดือนมกราคม – ธันวาคม 2020
*แหล่งที่มาข้อมูลจาก CrowdTangle ในช่วงเดือนมกราคม – ธันวาคม 2020
ที่มา: Facebook for media