จากประสบการณ์อันโชกโชนของ ‘น้าเน็ก’ ในวงการบันเทิง มาสู่ยุคของวงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์จนถึงทุกวันนี้ เรียกได้ว่าผู้ชายคนนี้ได้กลายเป็นผู้มีอิทธิพล หรือ The ICONIC ในยุคนี้ไปแล้ว เพราะไม่ว่าจะเป็นการปรับตัว ไปจนถึงการปรับคอนเทนต์ให้เข้ากับยุคสมัยได้ ก็นับเป็นอีกจุดแข็งหนึ่งที่ทำให้น้าเน็กยังคงมีผู้ติดตาม และเป็นที่น่ายกย่องในวงการมาจนถึงทุกวันนี้
นี่แหละ “น้าเน็ก”
‘น้าเน็ก – เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา’ ผู้ที่เป็นได้ทั้งพิธีกรรายการ, ดีเจ, นักเขียน, นักพากย์เสียง, นักธุรกิจ และครีเอเตอร์ตัวพ่อที่อยู่มาทุกยุคตั้งแต่ยุคทองของโทรทัศน์ มาจนถึงสื่อออนไลน์ที่มีอินเทอร์เน็ตเข้ามา และวันที่ทุกคนหันมาเสพคอนเทนต์ผ่านจอบนโซเชียลมีเดีย
ซึ่งแม้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงจากยุค Digital Disruption แต่เพราะการเรียนรู้ และปรับตัวที่ยืดหยุ่นของน้าเน็ก กลับทำให้เขากลายเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ไทยคนแรกที่มีผู้ติดตาม และผู้ชมเป็นหลักล้านบน Facebook เร็วที่สุดในยุคนั้นเลยทีเดียว
แต่ไม่ใช่แค่นั้น! เพราะถัดมาจากยุคของ Facebook ฝั่งแพลตฟอร์มก็มี YouTube, Instagram, X, TikTok มาเพิ่มความหลากหลายให้กับฟอร์แมตของคอนเทนต์ ซึ่งน้าเน็กเองก็ไม่เคยหยุดที่จะลองทำความเข้าใจแพลตฟอร์มใหม่ ๆ และกระจายคอนเทนต์ของตัวเองไปตามช่องทางต่าง ๆ ให้ผู้ชมได้ดูไม่ว่าจะบนแพลตฟอร์มไหน
รวมถึงการลงคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอ และรักษาฐานแฟนจากการ LIVE ก็ยังทำให้ผู้ชมหรือผู้ติดตามยังคงรู้สึกใกล้ชิดมากขึ้น พร้อมทั้งขยายประเด็นในการทำคอนเทนต์ให้หลากหลาย เพื่อให้ตอบโจทย์กับความเป็นมนุษย์รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน, การเงิน, วัยรุ่น, ปัญหาชีวิต และเรื่องเพศศึกษา เป็นต้น
เพราะน้าเน็กรู้จักการใช้ประโยชน์จากความเก๋าในวงการ ผันตัวมาเป็นครีเอเตอร์ที่สร้างคอนเทนต์ให้คำปรึกษา และแนะนำเรื่องชีวิตให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี จนทำให้ชื่อของน้าเน็กยังคงเป็นที่รู้จักรุ่นต่อรุ่นอยู่ทุกวันนี้
เส้นทางของน้าเน็ก
น้าเน็กเริ่มต้นเส้นทางในวงการบันเทิงด้วยการเป็นคนอยู่เบื้องหลังอย่างการเป็น Producer มาก่อน แต่ได้เดบิวต์บทบาทครั้งแรกในฐานะพิธีกรจากรายการ ‘เกมวัดดวง’ ช่อง 5 และหลังจากนั้นก็เป็นทั้งพิธีกรรายการโทรทัศน์มากมายตามมา
ไม่ว่าจะเป็น เปรี้ยวปาก, Thailand’s Got Talent, เรื่องเล่าเช้านี้ ช่วง ‘ครอบครัวบันเทิง’, Singer Auction เสียงนี้มีราคา, เกมแจกรถ, ใครคือใคร Identity Thailand, The Snake เกมงูซ่า, เสียงซ่อนรูป, SME ตีแตก ไปจนถึง The Unicorn สตาร์ท อัพพันล้าน และรายการสุดไอคอนิกอย่าง Take Me Out Thailand เป็นต้น
แต่ระหว่างทางน้าเน็กไม่ได้ทำแค่หน้าที่พิธีกรเท่านั้น เพราะยังรับบทเป็นดีเจจาก ‘สามแยกปากหวาน’ หรือเป็นนักพากย์เสียงอย่าง ‘น้าเหลือม’ ในรายการเกมฮอตเพลงฮิต รวมถึงการได้เป็นนักเขียนที่ออกผลงานหนังสืออย่าง เน็กแนว, โลกหมุนรอบตัวงู, อย่าหาว่าน้าสอน หรือโชคดีที่มึงได้อ่าน ออกมาด้วย
และแน่นอนว่าการมีหนังสือของตัวเองก็อาจจะยังไม่ทะเยอทะยานมากพอ สำหรับคนที่เก่งเรื่องการพูด และเล่าเรื่องแบบมีคาแรกเตอร์อย่างน้าเน็ก ก็เลยมีการจัดโชว์ของตัวเองอย่าง ‘THE NAKED SHOW’ ขึ้นมาถึง 6 ครั้งด้วยกัน หากรวมเวอร์ชัน 4.5: The Naked Show 4.5 Richter For Japan
น้าเน็กนักธุกิจ
นอกจากน้าเน็กจะสวมบทบาทคนในวงการบันเทิงแล้ว นักธุรกิจก็เป็นอีกบทบาทหนึ่งที่น้าเน็กได้ลอง และเรียนรู้กับตัวเองเช่นกัน ทั้ง ‘บริษัท รวมกันเฉพาะกิจ จำกัด’ คอยจัดกิจกรรมด้านความบันเทิง และ ‘บริษัท ซะอย่างงั้น จำกัด’ ที่คอยจัดหานักแสดง / พิธีกรโทรทัศน์ ซึ่งน้าเน็กไม่ได้เปิดแค่บริษัทเท่านั้น แต่ยังมีโปรดักของตัวเองอย่าง ‘เนื้อทอดเทวดา’ และ ‘NANAKE เก๊กฮวย’ ด้วย
เนื้อทอดเทวดา
จากสโลแกน “ไม่อร่อยให้เตะ” นับว่าเป็นภาพจำของเนื้อทอดเทวดาเลยก็ว่าได้ เพราะน้าเน็กการันตีว่าเป็นเนื้อคุณภาพดี เครื่องเทศเข้มข้นที่กินกับอะไรก็อร่อย โดยเป็นเนื้อพรีเมียมที่ถูกนำมาหั่นชิ้นยาว หมักกับเครื่องปรุงนาน 2 วันจนเข้าเนื้อ แล้วค่อยลงทอดครึ่งชั่วโมงที่เก็บในถุงแบบฟอยล์ อัดก๊าซไนโตรเจน และอยู่ได้นานถึง 8 เดือน
แม้จะเป็นธุรกิจที่มีกำไรไม่เยอะ แต่ก็ไม่ได้ทำมาเล่น ๆ ซึ่งท่ามกลางธุรกิจอาหารที่มีการแข่งขันสูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่น้าเน็กก็ให้ความใส่ใจโดยการเข้าไปดูเองทุกขั้นตอนตั้งแต่วางแผนการผลิต หรือขยายโรงงาน และใช้คนทอดแทนเครื่องจักรเพื่อคงความอร่อย และคงความคราฟต์ของรสชาติที่ไม่มีใครเลียนแบบได้ด้วย
NANAKE เก๊กฮวย
โปรดักต์ใหม่ของน้าเน็กที่เป็น #เก๊กฮวยร้านขายยาในตำนาน ขวดแก้วใสเหมือนกับเก๊กฮวยตู้แช่แบบโบราณ พร้อมสูตรโฮมเมดดั้งเดิมที่ทำกินเองที่บ้านมาตั้งแต่ปี 1955 และเคยมีการสมัครตัวแทนจำหน่ายพร้อมนโยบายให้ตู้เย็นไปแช่เก๊กฮวยฟรีด้วย
แต่แน่นอนว่าการทำ Business Model ธุรกิจเก๊กฮวยไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งเรื่องของการหาส่วนผสมที่ลงตัว จำนวน คนงาน ค่าส่ง หรือการแจกตู้ที่ลงทุนเป็นล้าน เพราะหวังให้คนซื้อไปขายพร้อมตู้แช่ แต่คนซื้อไปไม่ได้แช่แค่เก๊กฮวยเท่านั้น ก็นับเป็นเรื่องที่ให้บทเรียนกับน้าเน็กไม่น้อย จนต้องเรียกคืนตู้แช่กลับเลยทีเดียว ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงมีออกบูธให้ไปอุดหนุนเก๊กฮวยของน้าเน็กกันได้อยู่
ครีเอเตอร์ตัวพ่อ #อย่าหาว่าน้าสอน
จากเดิมที่ทุกคนรู้จักน้าเน็กจากบทบาทพิธีกรรายการโทรทัศน์ มาจนถึงดีเจ หรือนักธุรกิจเก๊กฮวยที่ลองทำให้รู้มาทุกยุคแล้ว ในปัจจุบันน้าเน็กก็นับเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์รุ่นใหญ่คนหนึ่งที่คนในวงการให้การยอมรับ และมีอิทธิพลกับโลกโซเชียลมีเดียไม่น้อยเลย
โดยเฉพาะซีรีส์รายการประเด็นดีอย่าง “อย่าหาว่าน้าสอน” ที่น้าเน็กผันตัวมาเป็นผู้ให้คำปรึกษา และแนะนำปัญหาชีวิตแทบจะทุกรูปแบบกับคนที่อยากโทรมาบอกเล่าให้น้าฟัง ซึ่งแน่นอนว่านอกจากจะได้ให้ความเอ็กซ์คลูซีฟกับแฟน ๆ ที่เป็นผู้ติดตามแล้ว น้าเน็กยังเปลี่ยนประเด็นให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้นด้วย
ซึ่งการเป็น “Resilient Creator” แบบน้าเน็ก จะมีเทคนิคอะไรที่น่าสนใจ และทำให้น้าเน็กยังเป็นที่รู้จัก ถูกพูดถึงมาจนทุกวันนี้จะถอดบทเรียนมาได้อย่างไรบ้าง RAiNMaker มาแชร์ไว้ให้ที่นี่แล้ว!
คอนเทนต์นานไม่ได้แปลว่าไม่มีคนดู
- LIVE 4 – 5 ชั่วโมงเพื่อพูดคุยกับคนดู
ถ้าไลฟ์สตรีมเกมสำหรับวงการเกมเมอร์ว่านานแล้ว การไลฟ์เพื่อพูดคุยกับผู้ติดตามนานกว่า 4-5 ชั่วโมงของน้าเน็กก็ทำเอาหลายคนพลาดไม่ได้เช่นเดียวกัน เพราะเป็นการพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาของแต่ละคน ซึ่งแต่ละไลฟ์ไม่เหมือนกัน แต่ก็ยังมีคนเข้าไปฟังตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักล้านเลยทีเดียว
เรียกได้ว่าการที่คอนเทนต์นานแต่ยังมีคนดู หรือการที่คนหันไปไถ Short Video หรือคอนเทนต์สั้นมากขึ้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของผู้คนที่เปลี่ยนไป หรือการเข้ามาของแพลตฟอร์มใหม่ ๆ เท่านั้น เพราะการมีคอนเทนต์สั้นเข้ามาไม่ได้หมายความว่าคอนเทนต์ยาวจะหายไป แต่ขึ้นอยู่กับว่าในคอนเทนต์นั้นยังมีความน่าสนใจให้คุ้มค่ากับการใช้เวลาด้วยอยู่หรือเปล่า ซึ่งการไลฟ์ของน้าเน็กก็พิสูจน์ให้เห็นได้แล้วว่าคอนเทนต์นานไม่ได้แปลว่าไม่มีคนดูมันคือเรื่องจริง!
เน้น Edutainment เรื่องที่โรงเรียนไม่ได้สอน
- ปัญหาชีวิต การงาน การเงิน และเรื่องเพศศึกษา
คอนเทนต์ซีรีส์ต่าง ๆ ที่แบ่งไปตามประเด็นไม่ว่าจะเป็น อย่าหาว่าน้าสอน, วัยรุ่นตั้งตัว, หงี่-เหลา-เป่า-ติ้ว, คุยให้เด็กมันฟัง, One Night Story เรื่องเดียวถ้วน, เรื่องเพศ 7 นาที, หงี่-เหลา-เป่า-ติ้ว, คุยต้องรวย เป็นต้น ก็มีประเด็นที่น้าเน็กนำมาพูดคุยแตกต่างกัน
แต่สิ่งที่รายการเหล่านี้มีเหมือนกันก็คือ การเลือกผู้เชี่ยวชาญแต่ละเรื่องมาพูดคุย และปรึกษาหาคำตอบกันจริง ๆ โดยที่ไม่ได้แค่หาข้อมูลมาเล่าอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นการฟังจากปากผู้เชี่ยวชาญ และส่วนใหญ่จะเป็นประเด็นที่โรงเรียนไม่ได้สอน เช่น เรื่องเพศศึกษา, เรื่องการเงิน และเรื่องการรับมือกับปัญหาชีวิต และรักษาความสัมพันธ์ หรือแม้กระทั่งการรับมือกับความตายที่ต้องพบเจอก็ตาม
Disrupt ไม่กลัว กลัวไม่ปรับตัว
- แพลตฟอร์มไหนปังก็ตามไปให้เจอหน้าทุกที่
เพราะน้าเน็กเป็นผู้ที่อยู่มาทุกยุคตั้งแต่โทรทัศน์ ออนไลน์ และโซเชียลมีเดีย แต่การ Disruption ไม่ได้ทำให้น้าเน็กถูกกลืนกิน หรือหายไปจากสื่อออนไลน์ช่องทางไหนเลย เพราะน้าเน็กมีการเรียนรู้ ยืดหยุ่น และปรับตัวให้ทันกับทุกแพลตฟอร์มอยู่เสมอ ซึ่งสามารถสังเกตได้จากการที่น้าเน็กมีช่องอยู่ทุกแพลตฟอร์ม แม้กระทั่ง Threads ที่พึ่งเปิดตัวมาได้ไม่นานก็ตาม
ฉะนั้นหากมีการเปลี่ยนแปลง ถ้าเราเรียนรู้เพื่อตั้งรับการเปลี่ยนแปลงนั้นแล้วปรับตัวให้ทัน ไม่ว่าแพลตฟอร์มใหม่แบบไหนจะเข้ามา หรือแพลตฟอร์มไหนจะหายไป การยึดมั่นทำคอนเทนต์ที่มาจากตัวตนของเราแต่แค่มีการเปลี่ยนฟอร์แมตให้เป็นก็จะทำให้ผู้ชมที่เรารักษาไว้ยังคงอยู่
ปรึกษาคนเก่งให้เป็น
- ทำคอนเทนต์เรื่องไหน ก็คุยกับผู้เชี่ยวชาญเรื่องนั้น
อย่างที่รู้กันดีว่าคอนเทนต์สไตล์น้าเน็กนั้นเน้นบทบาทของการเป็นที่ปรึกษา และผู้ให้คำแนะนำได้เป็นอย่างดี เหตุจากน้าเน็กเป็นคนที่อยู่ในวงการมานานคนหนึ่ง และผ่านเรื่องราวมากมายมาในชีวิตไม่น้อย การทำ Edutainment Content จึงกลายเป็นจุดเด่นของน้าเน็กที่ไม่มีใครสามารถเลียนแบบได้
และเพราะ Connection ที่กว้างขวางของน้าเน็กก็ทำให้รายการต่าง ๆ สามารถเชิญผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ มาแชร์ และพูดคุยในรายการได้ ตั้งแต่คุณหมอ คุณครู ทนายความ เป็นต้น หรือแม้กระทั่งเพื่อน ๆ ในวงการที่มีความหลากหลายก็สามารถเชิญมาแชร์เบื้องลึก หรือเบื้องหลังของตัวตนได้เช่นกัน ทำให้คนดูได้รับความรู้ และข้อมูลอินไซต์หลายแขนงไปด้วย
ลองก่อน จะได้รู้
- ไม่มีอะไรยากถ้ายังไม่ได้ลอง
ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, YouTube, X, TikTok หรือ Threads แต่และแพลตฟอร์มก็มีเอกลักษณ์ กลุ่มเป้าหมาย อัลกอริทึม และฟีเจอร์ในการใช้งานแตกต่างกันไป แต่นี่ไม่ได้เป็นอุปสรรคของน้าเน็กเลยแม้แต่น้อย เพราะการได้ลองเพื่อให้รู้จักกับแพลตฟอร์มนั้น ๆ มากขึ้น นับเป็นจุดแข็งของน้าเน็กที่ทำมาอย่างสม่ำเสมอ
ฉะนั้นต่อให้จะมีแพลตฟอร์มไหนเข้ามาเป็นกระแสใหม่ในโลกคอนเทนต์ หรือมีฟีเจอร์ไหนที่ช่วยสร้างรายได้หรือตอบโจทย์กับเหล่าครีเอเตอร์ก็เชื่อว่าน้าเน็กก็สามารถปรับตัวให้กลมกลืนได้แน่นอน เพราะไม่ใช่แค่การลองครั้งเดียวแล้วจะรู้ แต่ต้องลอง หรือเจอเรื่องที่ไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ แต่ก็ลองใหม่ให้รู้ทุกครั้งจนเข้าใจมันนั่นเอง
ช่องทางติดตามน้าเน็ก
ในตอนนี้น้าเน็กนับว่าแทบจะโผล่ไปให้ผู้คนเห็นทุกแพลตฟอร์มแล้ว ใครที่ยังติดตามน้าเน็กมาตั้งยุคพิธีกรก็น่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงบทบาทของน้าครั้งใหญ่เลยทีเดียว หรือใครที่พึ่งมาตาม และอยากได้ข้อคิด หรือข้อแนะนำดี ๆ ก็สามารถมาติดตามได้ที่ช่องทางเหล่านี้เลย!
- Facebook: 5.5M
- YouTube: 2.25M
- TikTok: 2.5M
- Instagram: 639K
- Threads: 212K
- X: 29.5K
- Twitch: 7.1K
หมายเหตุ: มีการเก็บข้อมูลยอดผู้ติดตามบนแพลตฟอร์มเมื่อวันศุกร์ที่ 27 กันยายน 2567
จากเส้นทางการสร้างตัวตนของน้าเน็กตั้งแต่ยุคนั้นมาจนถึงทุกวันนี้ ก็นับว่าไม่ง่ายเลย เพราะผ่านการลอง ผิดพลาด และเรียนรู้จับจุดอย่างเข้าใจ และนำมาประยุกต์ใช้ได้กับทุกการเปลี่ยนแปลง ฉะนั้นไม่ว่าคุณจะทำอาชีพไหน เป็นครีเอเตอร์มานานเท่าไหร่ หรือพึ่งเริ่มเส้นทางนี้ก็สามารถนำบทเรียนจากน้าเน็กไปใช้ได้นะ!