เปิดฉากโต้กลับผ่านกฎการใช้งานใหม่จากทาง Netflix หลังจากที่ตรวจพบว่ามีลูกค้ามากถึง 100 ล้านครัวเรือนทั่วโลกที่ใช้บัญชี Netflix โดยไม่จ่ายค่าบริการ โดย 30 ล้านครัวเรือนอยู่ในสหรัฐและแคนาดา
นายเกร็ก ปีเตอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของ Netflix กล่าวกับกลุ่มนักลงทุนเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า การเพิ่มค่าบริการในการแบ่งปันรหัสบัญชีดังกล่าว มีลักษณะคล้ายกับการปรับขึ้นราคาค่าบริการ โดยในช่วงแรกลูกค้าจะยกเลิกบริการ แต่ในท้ายที่สุดก็จะกลับมาสมัครใช้บริการอีกครั้ง ซึ่งช่วยให้รายได้เพิ่มสูงขึ้น
เมื่อวันอังคารที่ 23 พ.ค. 66 แอปสตรีมมิ่งเจ้าดังอย่าง Netflix ได้ออกมาประกาศว่าจะมีการเก็บค่าบริการเพิ่มสำหรับผู้ใช้งานที่ใช้แพ็กเกจแบบ Standard ที่มีค่าบริการเดือนละ $15.49 โดยเจ้าของบัญชีสามารถแชร์รหัสกับเพื่อนที่อยู่คนละครัวเรือนได้หนึ่งคน แต่มีข้อแม้ว่า เพื่อนคนนั้นจะต้องจ่ายเงินเพิ่มเดือนละ $7.99 หรือประมาณ 275 บาทต่อเดือน
นอกจากนี้ ข้อกำหนดนี้จะมีผลบังคับใช้กับทั้งแพ็กเกจแบบ Premium ที่สามารถรับชมได้แบบ 4K ที่มีค่าบริการเดือนละ $19.99 และสามารถแชร์รหัสต่อได้ 2 บัญชี ค่าบริการบัญชีละ $7.99 เท่ากัน
โดยลูกค้าที่เป็นเจ้าของบัญชีจะยังสามารถชมรายการบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้ดังเดิม แต่จะคิดค่าบริการดังกล่าวสำหรับบุคคลที่ใช้รหัสคนอื่น โดยในช่วงก่อนหน้านี้ Netflix มีการทดลองใช้การแชร์รหัสผ่านแบบชำระเงินแล้วในคอสตาริกา ชิลี และเปรู ซึ่งเก็บเพิ่ม 2-3 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการเพิ่มบัญชีสมาชิกที่อาศัยอยู่นอกครัวเรือน
และสำหรับประเทศไทย จะเริ่มเปิดใช้ระบบป้องกันการแชร์รหัสผ่าน-หารบัญชีแล้ว หลังจากทยอยเปิดใช้งานมาในหลายประเทศ โดยจะมีอีเมลแจ้งเตือนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไปยังสมาชิกที่แชร์บัญชี Netflix กับผู้ที่ไม่ได้อยู่ในครัวเรือนเดียวกัน
ซึ่งเงื่อนไขก็มีอยู่ว่า ผู้ใช้งานบัญชีเดียวกันต้องพักอาศัยในครัวเรือนเดียวกัน และสามารถนำ Netflix ไปรับชมที่ใดก็ได้ ส่วนบัญชีนอกครัวเรือนที่มาหารบัญชีด้วยจะต้องเสียค่าบริการดังกล่าวเพิ่มเอง โดยแพ็กเกจ Standard (349 บาทต่อเดือน) เพิ่มได้ 1 บัญชี โดยบัญชีนั้นต้องจ่ายแยกเองอีก 99 บาทต่อเดือน ส่วนแพ็กเกจ Premium ที่รับชมแบบ 4K ได้ (419 บาทต่อเดือน) เพิ่มบัญชีได้สูงสุด 2 บัญชี บัญชีละ 99 บาทต่อเดือน เช่นกัน ส่วนแพ็กเกจที่ราคาถูกกว่านั้น (แพ็กเกจแบบดูในมือถือ เดือนละ 99 บาท และแพ็กเกจแบบพื้นฐาน 269 บาทต่อเดือน) จะไม่สามารถเพิ่มบัญชีพ่วงได้
อย่างไรก็ตามกระแสตอบกลับจากผู้ใช้งานก็ยังเป็นไปในทางไม่เห็นด้วยกับกฎใหม่นี้ เนื่องจากผู้ใช้งานที่อยู่ในครัวเรือนเดียวกันก็อาจจะไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลาก็ได้ ก็ต้องรอดูติดตามความเคลื่อนไหวจากทาง Netflix ต่อไปว่าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไรในอนาคตอีกหรือไม่
ที่มา: The Verge, ประชาชาติธุรกิจ