สาขา Best Online Platform of the Year
THE WINNER IS “TikTok”
แพลตฟอร์มที่มาแรงที่สุดในปี ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด มียอดผู้ใช้งานประจำทุกเดือนมากกว่า 800 ล้านราย และยอดดาวน์โหลดอยู่ที่ 2,000 ล้านครั้ง จนขึ้นแท่นเป็นแอปพลิเคชันที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดบน App Store
เดิมที TikTok ได้ปล่อยให้ใช้ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2019 ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ทุกคนต้องกักตัว และมีเวลามากขึ้น TikTok เลยเป็นหนึ่งแพลตฟอร์มที่คนหันมาให้ความสนใจเพื่อคลายเบื่อ จนเกิดคอนเทนต์วิดีโอสั้นขึ้นมากมาย ทั้งการทำอาหาร เต้น แต่งหน้า แฟชั่น ร้องเพลง รวมไปถึงโชว์ความสามารถพิเศษต่างๆ ซึ่งครีเอเตอร์หลายคนก็แจ้งเกิดบน TikTok เป็นแพลตฟอร์มแรก
เพราะความหลากหลายของฟีเจอร์ทำให้ผู้ใช้ได้มีส่วนร่วม เชื่อมถึงกัน ทั้งผ่านการมีส่วนร่วมเล่นชาเลนจ์บนแฮชแท็ก การดูเอ็ตคลิปกับคนอื่นๆ เป็นต้น เนื่องจากเป็นวิดีโอสั้นที่มีความยาวเพียง 15 วินาทีเท่านั้น จึงทำให้คอนเทนต์ที่สร้างออกมาต้องมีความสร้างสรรค์ และตรึงคนดูได้ในทันที จึงไม่แปลกใจที่เหล่าครีเอเตอร์จะคอยหาอะไรใหม่ๆ เพื่อเผยแพร่บน TikTok จนเกิดเป็นไวรัลกันอยู่เรื่อยๆ
NOMINEES
เนื่องจากปีนี้มีสถานการณ์ Covid-19 ทำให้แพลตฟอร์มออนไลน์หลายแพลตฟอร์มเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจาก TikTok แล้ว ก็ยังมีแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่น่าสนใจไม่น้อย และคิดว่าหลายๆ คนก็คงจะใช้งานอยู่เป็นประจำเช่นกัน ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะว่าจะมีแอปพลิเคชันไหนบ้าง
-
Instagram Story
หลังจากที่อินสตาแกรมเปิดตัวฟีเจอร์สตอรี ผู้คนก็หันมาใช้ฟีเจอร์นี้กันมากขึ้น จนมีการพัฒนาเพิ่มเติมฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้ได้ลองเล่นกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไอจีสตอรีในปีนี้กลายเป็นที่นิยมขึ้นอย่างล้นหลาม
ธรรมชาติของสตอรี คือ วิดีโอสั้น ความยาว 15 วินาที ทำให้คนที่เลือกใช้สตอรีเพื่ออัปเดตความเป็นไปของชีวิตแบบเรียลไทม์ และนี่คือจุดเด่นที่ต่างการโพสต์ธรรมดาของอินสตาแกรมนั่นเอง นอกจากนี้สตอรียังช่วยให้ผู้คนใกล้ชิดกันมากขึ้น ผ่านการมีปฏิสัมพันธ์กันในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการตอบ ส่งรีแอคชั่น แท็กเพื่อน ใส่แฮชแท็ก ติดโลเคชั่น หรือการโพสต์ Q&A ลงบนสตอรีให้เพื่อนๆ มาเล่นด้วย เรียกว่าไอจีสตอรีกลายเป็นหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของผู้คนบนโลกออนไลน์ไปแล้ว
ยิ่งล่าสุดที่ฟิลเตอร์บนสตอรีกลายเป็นที่นิยม แทบทุกคนที่ถ่ายสตอรีจะต้องมีฟิลเตอร์ ซึ่งก็ทำให้มีครีเอเตอร์หลายคนสร้างสรรค์ AR หรือฟิลเตอร์ออกมาให้เล่นกันมากมาย รวมไปถึงแบรนด์ดังต่างๆ เองก็หันมาทำฟิลเตอร์ เพื่อทำการตลาดและโปรโมทสินค้ากับกลุ่มเป้าหมาย
และด้วยความที่สตอรีจะเรียงเวลา ทำให้คนมีโอกาสเห็นมากกว่าโพสต์ ทั้งจะอัปโหลดสตอรีทีละเยอะๆ ก็ไม่แปลก ต่างจากโพสต์ปกติที่อาจมีข้อจำกัดหลายอย่าง หรือมีขั้นตอนที่ยุ่งยากกว่าในการจะโพสต์แต่ละครั้ง เช่น บางคนคุมโทนอินสตาแกรม หรือต้องแต่งรูปก่อนโพสต์ เป็นต้น
-
Twitter
อีกหนึ่งแพลตฟอร์มมาแรงในปีนี้ จากจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะ Gen Z ที่ใช้ทวิตเตอร์เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มในการเคลื่อนไหวทางสังคม เรียกร้องสิทธิเสรีภาพ และสะท้อนค่านิยม รวมไปถึงแนวคิดต่างๆ ที่เป็นอิสระกว่าแพลตฟอร์มอื่น
ซึ่งทวิตเตอร์ขึ้นชื่อว่าเป็นแพลตฟอร์มหนึ่งที่มีการแชร์แหล่งของข้อมูลข่าวสารมากมายและรวดเร็วอยู่แล้ว ด้วยฟีเจอร์ที่เป็นจุดเด่น คือ แฮชแท็ก ที่เป็นเหมือนตัวกลางให้ทุกคนสามารถสื่อสารหรือมีส่วนร่วมในการพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นนั้นๆ ได้อย่างเรียลไทม์ และสามารถเข้าไปเสิร์ชดูคีย์เวิร์ดได้ง่ายๆ ว่าเทรนด์ตอนนี้คืออะไร คนกำลังพูดถึงอะไรกัน จึงทำให้ข้อมูลมีความสดใหม่กว่าเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่นๆ
โดยเฉพาะในช่วงปีนี้ที่มีการใช้แฮชแท็กกระจายข่าวเรื่องสถานการณ์ทางการเมืองเป็นช่องทางหลัก สะท้อนให้เห็นว่ามีคนใช้ทวิตเตอร์เป็นจำนวนมาก และทวิตเตอร์สามารถเป็นช่องทางสื่อสารที่สื่อถึงคนจำนวนมากแบบได้ผลจริง
นอกจากนี้ทุกคนยังสามารถมีส่วนร่วมได้ผ่านการเมนชั่นคุยกัน หรือโควตทวีตแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ บวกกับจุดเด่นอีกข้อของทวิตเตอร์ คือข้อจำกัดด้านตัวอักษร ที่ทำให้ต้องเขียนออกมาให้กระชับและได้ใจความ นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ข่าวสารบนทวิตเตอร์กระชับ และสามารถย่อยได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง
-
Tinder
แอปพลิเคชันแก้เหงาช่วงล็อกดาวน์ ที่มียอดดาวน์โหลดพุ่งช่วงกักตัว ครองอันดับ 1 แอปพลิเคชันที่สร้างรายได้ใน App Store และ Google Play Storeในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2020
โดยทางทินเดอร์ได้มีเปิดให้ใช้ฟังก์ชันปักหมุดพาสปอร์ตฟรี ที่ผู้ใช้งานจะไปปักโลเคชั่นที่ประเทศไหนก็ได้ ในช่วงที่หลายประเทศต้องกักตัว เพื่อเป็นการสนับสนุนการกักตัวอยู่บ้านและเปิดโอกาสให้ทุกคนที่กักตัวและไม่สามารถออกไปเจอกันได้สื่อสารกันผ่านแอปพลิเคชันแทน
มีสถิติออกมาว่าช่วงกักตัว มีการใช้ Tinder เพื่อปัดหาคู่มากกว่า 3 พันล้านครั้ง ซึ่งมากที่สุดในประวัติที่เคยมีมา ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้การใช้ Dating App เพื่อพูดคุยทำความรู้จักกับคนใหม่ๆ กลายเป็นที่นิยมมากขึ้นไปตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป