เปิด Session แรกกันไปแล้วเมื่อคืนวันที่ 16 กุมภาพันธ์ สำหรับ iCreator Clubhouse ในหัวข้อ “แนวทางการปั้น YouTube ในปี 2021” ที่ได้คุณแชมป์ JustดูIt. และคุณบี้ The Ska เข้ามาร่วมพูดคุยถึงแนวทางการทำคอนเทนต์วิดีโอบนยูทูบ พร้อมบอกทริกต่างๆ ที่เป็นประโยชน์แก่เหล่าครีเอเตอร์กันถึง 1 ชั่วโมงเต็ม ซึ่งทางทีมงาน RAiNMaker ก็ได้สรุปประเด็นที่ได้พูดคุยบน iCreator Clubhouse มาฝากทุกคนกันค่ะ
ยูทูบเบอร์ทั้งสองท่านถือเป็นคนที่มีประสบการณ์และอยู่ในแวดวงการทำคอนเทนต์วิดีโอมาอย่างยาวนาน
- บี้ The Ska เป็นยูทูบเบอร์รุ่นบุกเบิกเมื่อ 13 ปีก่อน ที่ตอนนี้มียอดผู้ติดตามกว่า 12 ล้านซับ จนขยายขอบเขตคอนเทนต์ของ The Ska ออกมาได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรายการ ‘เที่ยวมั้ยครับ’ ที่เป็นรายการท่องเที่ยว ‘ทำเองกินเอง’ รายการทำอาหาร หรือแม้กระทั่งคอนเทนต์วิดีโอเล่นกลที่มีการใช้ CG ขั้นเทพอย่าง ‘กลกากๆ’ เป็นต้น
- แชมป์ จดอ หรือ JUSTดูIT. ยูทูบเบอร์ที่เล่าเรื่องราวของโลกภาพยนตร์ มีทั้งรายการ ‘รู้ไว้ก่อนดู’ และ ‘แกะตัวอย่าง’ ที่จะนำตัวอย่างภาพยนตร์มาวิเคราะห์ นอกจากนี้ยังมีคอนเทนต์สัมภาษณ์คนในวงการภาพยนตร์ที่น่าสนใจ ปัจจุบันมีผู้ติดตามถึง 1.5 ล้านซับ
เคล็ดลับในการเริ่มทำ YouTube ยุคโควิด?
ยูทูบเบอร์ทั้งสองท่าน เห็นตรงกันว่า
- คุณแชมป์บอกว่าการสร้างยูทูบในยุคนี้ไม่ได้ยากขนาดนั้น แต่ในขณะที่หลายคนอาจมองว่ายาก เพราะคิดว่าปัจจุบันมีครีเอเตอร์เกิดเยอะ ทั้งดารา หรืออินฟลูเอนเซอร์ที่หันมาทำช่องยูทูบกันมากขึ้น ซึ่งคนเหล่านั้นก็มียอดผู้ติดตามเยอะอยู่แล้วทำให้ง่ายต่อการเติบโต
- คุณบี้บอกว่าปัจจุบันไม่จำเป็นต้องเริ่มที่ยูทูบหรือแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มนึง เริ่มทำหลายอย่างก็ได้ เพื่อดูว่าอะไรเหมาะกับเรา
- ที่สำคัญควรหมั่นเช็กกลุ่มเป้าหมายของตัวเอง
- คนมักเริ่มทำเล่นสนุกๆ แล้วไปเป็นธุรกิจทีหลัง แต่ที่สำคัญต้องถามตัวเองว่าคอนเทนต์ที่เราอยากทำเป็นเรื่องที่อยากทำ หรือเป็นคอนเทนต์ที่ทำเพราะทุกคนทำ ซึ่งตรงนี้เป็นหลุมพรางที่หลายคนพลาด
ย้อนไปเมื่อ 13 ปีก่อน ณ วันนั้นยังไม่มีคนเข้าใจว่าอาชีพยูทูบเบอร์หรือคอนเทนต์ครีเอเตอร์สร้างรายได้ยังไง แล้วทำไปทำไม หลายคนเริ่มทำยูทูบเพราะความสนุก ผมเองก็เหมือนกัน แต่ถ้าพูดถึงคนที่อยากทำในตอนนี้ ผมอยากให้ถามตัวเองว่าต้องการอะไรกันแน่
อยากสร้างตัวตนให้คนรู้จัก หรืออยากสร้างรายได้? ผมว่าถ้าเราตอบตรงนี้ได้มันจะตอบอะไรหลายอย่างได้นะ ถ้าเรามองที่ความสนุกเป็นจุดเริ่มต้นจะสร้างได้ยาว ได้เรื่อยๆ แต่ถ้ามองว่าทำเพื่อรายได้ มันต้องคิดอีกวิธี ต้องหาเทคนิคว่าต้องทำยังไงเพื่อให้คนดูเยอะๆ – คุณบี้
การทำคลิปเน้น Quality or Quantity?
- คุณแชมป์บอกว่าขึ้นอยู่กับคอนเทนต์ที่ทำ และการทดลองลงคลิปเพื่อดูเวลาที่เหมาะ
อย่าง JUSTดูIT. ขึ้นกับภาพยนตร์ที่ปล่อยมาเลย แต่ที่ทำเยอะขึ้นเพราะต้องการตีตลาดหลายกลุ่มคนดูหนังที่หลากหลาย
- ทางด้านคุณบี้บอกว่าไม่สามารถตอบเป็นตัวเลขเป๊ะๆ ได้ว่าควรจะลงคลิปเท่าไหร่ ต้องดูที่กำลังการผลิตของตัวเอง ให้ทำในปริมาณที่ยังสนุกกับมันได้อยู่
- โฟกัสที่คนดูว่าเขาต้องการดูอะไร
- ดูกระแสต่างๆ ที่เกี่ยวข้องที่พอจะนำมาต่อยอดคอนเทนต์ได้
การแบ่งทีม / อุปกรณ์และโปรแกรมที่ใช้?
JUSTดูIT.
- มีทีมงาน 6-7 คน แบ่งเป็นคนคิดสคริปต์และพากย์เสียงหลัก คือแชมป์กับเจอร์รี่ มีคนตัดต่อ และคนดูเพจ
- สำหรับอุปกรณ์ใช้ไอโฟนในการอัดเสียงทั้งหมด แต่ทริกคือจำเป็นต้องอัดในห้องที่เงียบมากๆ แล้วนำไปลบ noise
- ใช้ Voice Record ในการอัดเสียงจะช่วยให้บันทึกไฟล์เสียงดีขึ้น ส่วนโปรแกรมตัดต่อก็ Final Cut Pro X
บี้ The Ska
- มีทีมงาน 25 คน แบ่งเป็นฝั่งครีเอทีฟ ถ่ายทำ ตัดต่อ เซล เมอร์เชนไดส์ โซเชียลมีเดีย บัญชี และคุณบี้ยังย้ำว่าที่ขาดไม่ได้เลยคือทีมพร็อป ที่จำเป็นต่อการเตรียมของหรือเซ็ตฉากในการถ่ายทำคลิปมาก
- ส่วนกล้องที่ใช้ถ่ายทำ Panasonic EVA1 และ GH5
- ส่วนของโปรแกรมใช้ Adobe Premiere Pro และ After Effect
- โหลดเพลงประกอบจาก Epidemic Sound
ความแตกต่างจากสังคม YouTube ยุคแรกกับยุคนี้?
- เนื่องจากปัจจุบันมีช่องยูทูบมากขึ้น ทั้งสองท่านให้ความเห็นตรงกันว่าการหาตัวตนของตัวเอง และสร้างความแตกต่างจึงเป็นสิ่งสำคัญมากในการทำยูทูบในปัจจุบัน
- คุณแชมป์เสริมว่าอย่าลืมเน้นคุณภาพ เพราะคุณภาพที่ดีจะทำให้คนดูรอดูคลิปเรา ในแง่ของคุณภาพให้แข่งกับตัวเองก่อนอันดับแรก
คลิปของวันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน และคลิปของพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้
- คุณบี้เสริมว่าเมื่อก่อนต้องทำให้ใหม่หรือแตกต่าง ถึงจะทำให้เป็นกระแสหรือมีคนดู แต่ปัจจุบันสิ่งใหม่ๆ หายากขึ้น คนดูส่วนใหญ่อยากดูไลฟ์สไตล์ ทำให้หลายช่องมีคอนเทนต์ที่เผยอินไซต์ของตัวเองมากขึ้น
บาลานซ์คอนเทนต์ยังไง หากต้องทำคอนเทนต์ที่ไม่ถนัด?
- คุณบี้แนะนำว่าให้ดูทิศทางของคนดูจากข้อมูลต่างๆ ทั้งยอดไลก์ ยอดวิว คอมเมนต์ รวมไปถึงข้อมูลเชิงลึก แล้วนำมาวิเคราะห์ว่าสามารถนำอะไรจากความสนใจของคนดูไปต่อยอดได้บ้าง
- ที่สำคัญต้องเป็นสิ่งที่เราอยากทำ
- มีตารางวางคอนเทนต์คร่าวๆ แต่ไม่ต้องฟิกซ์มากก็ได้ เพราะบางทีต้องปรับตามเวลาให้เหมาะสม
Q&A คำถามจากผู้ฟัง
จะทำอย่างไรเพื่อสร้าง Awareness ให้กับคลิปหรือช่อง YouTube ให้มากขึ้น?
- คุณแชมป์แนะนำให้ใส่แท็กที่เกี่ยวกับคอนเทนต์ และคียเวิร์ดอื่นๆ ที่เกี่ยวกับคอนเทนต์ที่อาจจะลิงก์เข้ากันได้
- การใช้ Human Error มาเป็นคีย์เวิร์ด ให้นึกถึงคำที่คนมักพิมพ์ผิด มองในมุมมองคนดูว่าเขามีโอกาสที่จะเสิร์ชว่าอะไรบ้างถ้าอยากจะดูสิ่งนี้
- คุณบี้แนะนำว่าให้ลงคลิปหลายช่องทาง เพื่อกระจายโอกาสในการเข้าถึงคลิป
- แนะนำโปรแกรม VidIQ ไว้ใช้ตรวจสอบแท็กและคีย์เวิร์ดว่าเหมาะสมมั้ย ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจอัลกอริทึมมากขึ้น
- การทำ Collab ในปัจจุบันก็สำคัญ หากเลือกคนที่น่าสนใจก็จะสามารถดึงความสนใจจากคนดูได้ ไม่ว่าจะร่วมงานกับคนในวงการเดียวกันหรือข้ามสายก็ตาม เพื่อเพิ่มได้กลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ และอาจทำให้ต่อยอดคอนเทนต์อื่นได้ด้วย
ในยุคที่ยูทูบเบอร์และคอนเทนต์วิดีโอครอบคลุมแทบทุกด้าน คำแนะนำสำหรับคนที่คิดจะเริ่มทำ YouTube ในตอนนี้?
- คุณแชมป์บอกว่าหากไอเดียตันจนคิดอะไรที่ใหม่กว่าสิ่งที่มีอยู่ไม่ได้ ก็ให้ลองทำคอนเทนต์แบบเจาะจง (Niche) ไปเลย เนื่องจากการทำคอนเทนต์ที่รู้ลึกรู้จริงนั้นจะมีคู่แข่งที่น้อยลง
- การเริ่มทำคอนเทนต์จากสิ่งที่ชอบและมีแพสชัน เพราะถ้าเริ่มจากสิ่งที่เราชอบก็อาจทำให้กลายเป็นโปรได้
- คิดแล้วต้องลงมือทำ
คาแร็กเตอร์ของ YouTuber?
เริ่มจากสิ่งที่ชอบ พูดให้น้อยทำให้เยอะ Just do it ครับ – คุณแชมป์
ความซื่อสัตย์ต่อตัวเอง ทำคอนเทนต์ที่อยากทำ และไม่สร้างความเดือดร้อนต่อสังคม ซื่อสัตย์ต่อคนดู เราก็ต้องทำคอนเทนต์สม่ำเสมอ ไม่ทำคอนเทนต์ที่เป็นการดูถูกคนดู และซื่อสัตย์ต่อแบรนด์ หรือสปอนเซอร์ นอกจากจะทำให้คนดูชอบแล้ว แบรนด์ก็ต้องแฮปปี้กับเราด้วย – คุณบี้
สรุป
- อย่าคิดเยอะมาก ให้ลองเริ่มทำก่อน ที่สำคัญเริ่มทำจากสิ่งที่ชอบ
- ดูทิศทางจากคนดู บวกกับการใช้ข้อมูลต่างๆ มาวิเคราะห์
- การวางตารางในการลงคลิปเป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ควรฟิกซ์มากเกินไป ให้ดูที่ความเหมาะสมจากเราเป็นหลัก
- อย่าไขว้เขวต่อกระแสมากเกินไป ยึดมั่นในแนวทางของตัวเอง
- คาแร็กเตอร์ของคนเป็นครีเอเตอร์ คือ ซื่อสัตย์ต่อทั้งตัวเอง คนดู และแบรนด์
- แนวทางการปั้นยูทูบในปีนี้ให้ดูภาพรวมว่าสามารถทำอะไรใหม่ๆ ได้บ้าง หรือไม่ก็ลองเจาะลึกไปเลย