First impression นับเป็นสิ่งสำคัญไม่ว่าทั้งกับคน สิ่งของ หรือสถานที่ รวมถึงโซเชียลมีเดียก็เช่นกัน อย่างหน้าโปรไฟล์บนโซเชียลมีเดียก็เปรียบเสมือนหน้าตาที่เป็นตัวแทนของเราเอง สำหรับแบรนด์แล้ว ยิ่งต้องจัดการหน้าโปรไฟล์ให้น่าประทับใจตั้งแต่เข้ามารับชมครั้งแรก เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับกลุ่มเป้าหมาย
Instagram เองก็เช่นกัน แน่นอนว่าตัวคอนเทนต์เองก็ทำหน้าที่ในการดึงดูดความสนใจผู้คนด้วยตัวเองอยู่แล้ว แต่เมื่อคนเห็นคอนเทนต์แล้วชอบ ก็คงอยากจะเข้ามาดูโปรไฟล์ของเรา เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราควรทำคือ เตรียมหน้าโปรไฟล์เพื่อมอบประสบการณ์การรับชมที่ดีให้กับกลุ่มเป้าหมายนั่นเอง
วันนี้ RAiNMaker เลยจะชวนมาเช็กลิสต์ 8 จุดสำคัญบนหน้าโปรไฟล์ Instagram เพื่อสร้างความน่าประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกมาฝากกัน!
1. Account Handle
ควรตั้งชื่อที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของตัวเองให้ชัดเจน โดยเฉพาะถ้าเป็นธุรกิจหรือแบรนด์ ควรเป็นชื่อเต็มที่ไม่ซ้ำใคร อ่านแล้วเป็นที่จดจำได้ง่าย และไม่ควรยาวมากจนเกินไป ที่สำคัญในแต่ละโซเชียลมีเดียควรจะใช้ชื่อให้เหมือนกัน เพื่อให้คนจดจำ และค้นหาเราได้ง่ายขึ้นนั่นเอง สำหรับครีเอเตอร์ก็ควรใช้ชื่อของตัวเอง อาจเป็นชื่อจริง หรือชื่อในวงการมาตั้งก็ได้
2. Profile Image
ควรใช้ภาพที่มีอัตราส่วนพอดีกับที่ Instagram กำหนด และต้องเป็นภาพที่มีคุณภาพสูง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแอคเคานต์ หากเป็นธุรกิจหรือแบรนด์อาจใช้ภาพโลโก้ได้เลย หรือถ้าเป็นครีเอเตอร์สามารถภาพตัวเอง ไม่ก็ภาพที่บ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองก็ได้เช่นกัน
3. Name
ชื่อในส่วนนี้จะแสดงอยู่ด้านล่างของรูปโปรไฟล์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดที่สำคัญไม่แพ้กัน โดยสามารถใส่เป็นชื่อธุรกิจหรือแบรนด์ แถมยังสามารถเว้นวรรคได้ถูกต้องตามต้นฉบับชื่อได้ด้วย เนื่องจากชื่อแอคเคานต์ไม่สามารถเว้นวรรค หรือบางกรณีต้องใส่สัญลักษณ์อื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อป้องกันการซ้ำของชื่อนั่นเอง
4. Category
นิยามว่าแอคเคานต์ของเราเกี่ยวกับด้านไหน โดย Instagram มีให้เลือกมากมายหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น Artist, Blogger, Clothing (Brand), Gamer, Editor หรือ Product/Service เป็นต้น
เพื่อระบุให้คนที่เข้ามาดูโปรไฟล์รู้ว่าแอคเคานต์ ธุรกิจหรือแบรนด์ของเราเกี่ยวกับอะไร ซึ่งตัวบ่งชี้ตรงนี้จะเป็นข้อมูลให้ผู้ที่เข้ามาชมสามารถตัดสินใจได้ว่าจะเลือกชมหน้าโปรไฟล์เพิ่มเติมหรือไม่
5. BIO
พื้นที่ในการบอกเล่าแนวทางของแอคเคานต์ หากเป็นแบรนด์ก็อาจจะอธิบายสั้น ๆ ว่าเกี่ยวกับอะไร ขายอะไร มีจุดเด่นอะไรบ้าง เป็นต้น แต่ในการเขียนอธิบายควรแยกบรรทัดเป็นข้อ ๆ หรือเป็นบุลเล็ตให้ชัดเจน เพื่อความสะดวกในการอ่าน และคำที่ใช้ควรจะกระชับแบบสามารถกวาดตาอ่านครั้งเดียวแล้วรู้เรื่องเลย อาจมีการเพิ่มอีโมจิ เพื่อให้ง่ายต่อการดึงความสนใจคนในระยะเวลาสั้น ๆ
6. Profile Link
บน Instagram สามารถใส่ลิงก์ไว้ในหน้าโปรไฟล์ได้ เพื่อให้คนที่เข้ามาดูสามารถกดเข้าไปยังลิงก์ที่เกี่ยวข้องได้ ไม่ว่าจะเป็นลิงก์เว็บไซต์ของแบรนด์ ลิงก์สินค้า หรือลิงก์ของโซเชียลอื่น ๆ นับเป็นการเพิ่มยอด Traffic การเข้าชมเว็บไซต์ได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยกระตุ้นยอดขายในกรณีที่เป็นลิงก์ขายสินค้าอีกด้วย
7. Story Highlights
ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าคนที่เล่น Instagram ส่วนมากมักใช้สตอรีในการสื่อสาร เนื่องจากความเป็นไลฟ์สไตล์ที่สดใหม่ทำให้คอนเทนต์ประเภทนี้เข้าถึงคนได้เป็นอย่างดี แต่ข้อเสียคือสตอรีสามารถอยู่ได้เพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น
Instagram เลยสร้างสิ่งที่เรียกว่า ‘Highlight’ ขึ้นมาเพื่อเป็นแหล่งเก็บสตอรี เพื่อที่จะได้กลับมาดูซ้ำได้อีกครั้ง แถมคนอื่นที่เข้ามาดูหน้าโปรไฟล์ก็ยังสามารถเห็น Highlight ที่เก็บไว้อีกด้วย เรียกว่าถ้าเป็นครีเอเตอร์ก็สามารถเก็บผลงาน หรือไลฟ์สไตล์ได้
หรือในมุมของแบรนด์ก็สามารถใช้รวบรวมคอนเทนต์ที่ผู้บริโภคพูดถึง หรือสตอรีที่มีการรีวิว และติดแท็กแบรนด์มา เพื่อเก็บไว่ก็ได้เช่นกัน นอกจากจะทำให้แบรนด์ดูมีความน่าเชื่อถือแล้ว คนที่เข้ามาดูโปรไฟล์ยังอาจได้ข้อมูลเพิ่มเติม แถมยังเป็นการให้เกียรติ และทำให้ผู้บริโภคที่มีส่วนร่วมรู้สึกว่าตัวเองได้เป็นส่วนหนึ่งกับแบรนด์อีกด้วย
8. Feed Post
นอกจากองค์ประกอบต่าง ๆ ข้างต้นที่ได้กล่าวไปแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญจนเรียกว่าแทบจะเป็นหัวใจของหน้าโปรไฟล์ Instagram เลยก็คือ การคุมฟีดให้เป็นไปทิศทางเดียวกัน หรือที่รู้จักกันได้ชื่อของการคุมโทนนั่นเอง เพื่อทำให้คอนเทนต์เป็นไปตาม CI ที่วางไว้ และสามารถสื่อสาร Mood & Tone ประจำตัวได้ออกมาได้มากที่สุด
นอกจากนี้ บนฟีดยังควรมีคอนเทนต์หลากหลายประเภท ทั้งภาพธรรมดา วิดีโอ Reels รวมถึงการเปิดให้คนอื่นแท็ก เพื่อที่สามารถดูคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องที่คนอื่นพูดถึงได้อีกด้วย
ที่มา: giraffe social media
