เดินทางมาถึงคอนเทนต์สุดท้ายในคอนเทนต์ซีรีส์ Content of the Year 2024 กันแล้ว กับหมวด ‘Social Drama’ ที่จะพาทุกคนไปส่องประเด็นร้อนชวนดราม่าที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปีนี้ บอกเลยว่าบางเหตุการณ์ก็ดุเดือดสะเทือนวงการ และบางเหตุการณ์ก็ถือเป็นวาระระดับชาติกันเลยทีเดียว

ซึ่งประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้น ก็มีทั้งเรื่องความเชื่อเหนือธรรมชาติ วงการภาพยนตร์ ไปจนถึงเรื่องของแบรนด์ดัง ที่เรียกได้ว่ามาเกือบทุกอุตสาหกรรม อย่างเช่น เรื่องของความเชื่อที่มีประเด็นเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ‘คลื่นพลังบุญ’ ของน้องหญิงและท่านพี่ ที่ทั้งคู่อ้างว่าได้รับตำแหน่งทูตท่องเที่ยววิถีพุทธทั่วไทย ประจำปี 2567 จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

รวมถึงอ้างว่ามีการใช้คลื่นพลังบุญ โดยการยิงธนูทิพย์เพื่อรักษาโรคให้หายเป็นปลิดทิ้งได้ ซึ่งเมื่อมีการตรวจสอบพบว่าไม่มีการขึ้นทะเบียนเกี่ยวกับการรักษาโรค จึงเข้าข่ายหลอกลวงและให้ข้อมูลเท็จ แต่หลังจากออกรายการโหนกระแส ท่ายิงธนูทิพย์ กับเรื่องสถานะระหว่างน้องหญิงและท่านพี่กลับกลายเป็นไวรัลมากกว่าประเด็นหลัก จึงทำให้เรื่องราวนี้กลายเป็นเรื่องตลกที่คนนำมาล้อเล่นกันมากกว่าจะเป็นดราม่าใหญ่โตอย่างแรกเริ่ม

ต่อกันด้วยเรื่องของความเชื่อกับประเด็น ‘หมอดูขโมยดวง’ จนเกิดเป็นแฮชแท็ก #ทำไมดูเป็นคนดีจัง ซึ่งเหตุการณ์​ดังกล่าวเกิดขึ้นจาก ‘ปอย พรรธน์ชญมน’ นักเขียนนิยายคินพอร์ช ที่ออกมาเล่าประสบการณ์ดูดวงผ่านรายการ THE GHOST RADIO ที่หมอดูขโมยดวง และหลอกให้ทำพิธีจนเสียเงินกว่า 2 ล้าน จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งโซเชียลมีเดีย โด่งดังไปจนถึงมีการไปสัมภาษณ์ดาราที่เคยดูดวงกับหมอดูคนนี้เลยทีเดียว

นอกจากนี้ยังมีประเด็นดราม่าของแบรนด์ดังอย่าง BEARHOUSE, Sunsu และหมึกกรุบ ของยูทูเบอร์ชื่อดัง กานต์และซารต์ เจ้าของช่อง BEARHUG จากเรื่องพรีเซ็นเตอร์ ทั้งกรณีเรียกชื่อวงผิด และการโปรโมตพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ที่ก่อให้เกิด Fan Wars หรือแม้กระทั่งเรื่องคุณภาพของสินค้า ที่เจ้าตัวพูดผ่านคอนเทนต์ว่าเคยลองใช้น้ำประปาต้มไข่มุก และถุงดูด Sunsu ที่เป็นที่ถกเถียงกันถึงวิธีการกิน

ลามไปถึงเรื่องของระบบการทำงานในบริษัทที่ถูกถ่ายทอดผ่านคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการจัดที่ทำงานแบบ Hot Desk รวมถึงการโทรหาพนักงานนอกเวลางาน จนเป็นชนวนทำให้ชาวเน็ตไปขุดประเด็นอื่น ๆ เพิ่มเติมจนกลายเป็นดราม่าอยู่ช่วงหนึ่ง

และนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของดราม่าที่เกิดขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา ที่เรายกตัวอย่างมาเป็นน้ำจิ้มเท่านั้น ส่วนไฮไลต์เด็ดอยู่ที่ 3 อันดับที่เราคัดมาให้เป็นที่สุดในหมวด Social Drama ประจำปีนี้ ได้แก่!

มหากาพย์ THE iCON Group

ถือเป็นประเด็นดราม่าที่ถึงจะมาท้ายปี แต่ก็ครองพื้นที่สื่อไปเยอะเลยทีเดียวกับ ‘The iCon Group’ บริษัทขายสินค้าสุขภาพและความงาม ที่กลายเป็นเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ พร้อมมีดาราดังพัวพันหลายคน ทั้งแซม-ยุรนันท์ ภมรมนตรี, กันต์-กันต์ กันตถาวร และมิน-พิชญา วัฒนามนตรี ผู้รับตำแหน่ง ‘บอส’ ในบริษัท รวมถึงพรีเซ็นเตอร์สินค้าอย่าง บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์, โดม-ปกรณ์ ลัม และดาราอีกหลายคนที่มีส่วนเอี่ยวด้วย

เดิมที The iCon Group ได้รับใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงเท่านั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปการดำเนินธุรกิจกลับกลายเป็นการชักชวนคนเข้าร่วมเครือข่ายเพื่อรับผลประโยชน์ โดยการนำคอร์สสอนขายของออนไลน์มาเป็นสิ่งจูงใจ ให้สมาชิกที่เข้ามาจ่ายเงินในราคาแพงกว่าต้นทุนในการซื้อสินค้าไปขายต่อ

แต่สุดท้ายเหล่าสมาชิกก็ประสบปัญหาขายสินค้าไม่ได้ ซึ่งตรงข้ามกับที่เหล่าบอส หรือดาราในดวงใจของใครหลายคนที่พูดวาดฝันภาพความสำเร็จไว้ในตอนแรก และโน้มน้าวผู้คนที่เชื่อในตัวพวกเขาให้ตัดสินใจก้าวเข้ามาในอาณาจักร The iCon Group

หลังจากนั้นโครงสร้างของบริษัทจึงหันมาโฟกัสการหารายได้หลักจากการหาสมาชิกเพิ่มแทน ซึ่งเข้าข่ายการแชร์ลูกโซ่ ทำให้ขัดข้อตกลงในใบอนุญาตที่ได้รับมา ส่งผลให้โดนข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริตในที่สุด

ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้ กลายเป็นประเด็นร้อนจากที่มีผู้เสียหายร้องเรียนถึงเรื่องการลงทุนในบริษัทแห่งหนึ่งผ่านรายการโหนกระแส จนนำไปสู่การสอบสวน และเปิดโปงธุรกิจ The iCon Group ทำให้กลุ่มบอสทั้ง 18 คนที่เกี่ยวข้องโดนตั้งข้อสงสัย และโดนควบคุมตัว 84 วัน เพื่อทำการสอบสวนคดี และสรุปสำนวนฟ้องต่อไป ซึ่งในที่สุดแล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าปลายทางของคดีนี้จะจบลงเช่นไร

วันกะเทยผ่านศึก สุขุมวิท 11 | หอแต๋วแตก แหกสัปะหยด

เมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้เกิดสมรภูมิรบระหว่างพี่กะเทยไทยและฟิลิปปินส์ ณ สุขุมวิทซอย 11 ที่เหล่าพี่กะเทยพร้อมใจรวมตัวกันโดยมิได้นัดหมายในการร่วมต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรี จนวันที่ 4 มี.ค. 67 ถูกจารึกให้เป็น ‘วันกะเทยผ่านศึก’

โดยเหตุเกิดจากพี่กะเทยไทยกลุ่มหนึ่งได้ไปดื่มไปดริ๊งที่ร้านบริเวณ BTS นานา และบังเอิญเจอพี่กะเทยฟิลิปปินส์ที่เคยมีประเด็นกันมาก่อน จึงเกิดการทะเลาะวิวาท และลงไม้ลงมือกันระหว่างพี่กะเทยไทยและฟิลิปปินส์แบบ 6 ต่อ 20 จนฝ่ายพี่กะเทยไทยได้รับบาดเจ็บ และถูกชิงทรัพย์ไป

ซึ่งระหว่างที่เกิดเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทได้มีพี่กะเทยฟิลิปปินส์ถ่ายคลิป และเผยแพร่บนโซเชียลมีเดียด้วยช้อความเหยียดหยาม ทำให้พี่กะเทยไทยลุกขึ้นสู้ รวมพลังกะเทยไทยกว่า 2,000 ชีวิต ทั้งคนทั่วไป เหล่าเซเลบ และอินฟลูเอนเซอร์ไปบุกที่พักของพี่กะเทยฟิลิปปินส์ที่ซอยสุขุมวิท 11 เพื่อทวงคืนศักดิ์ศรี จนเกิดเป็นภาพมีมไวรัลจากเหตุการณ์ครั้งนี้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น มีมพี่กะเทยไทยถอดรองเท้า Samba เตรียมฟาด หรือพี่กะเทยที่กระโดดจากเสาเพื่อจู่โจมศัตรู เป็นต้น

อีกทั้งหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ‘พชร์ อานนท์’ ถึงกับต้องประกาศนัดเหล่าตัวแม่กว่า 200 ชีวิต มาร่วมถ่ายซีนนี้เพิ่มในภาพยนตร์ ‘หอแต๋วแตก แหกสัปะหยด’ ที่แม้จะปิดกล้องไปก่อนหน้านี้แล้ว จนสุดท้ายได้ถ่ายทำเสร็จในคืนวันที่ 7 มี.ค. และส่งให้ทีมตัดต่ออย่างรวดเร็วเพื่อให้ทันฉายในวันที่ 14 มี.ค. 67 ตามกำหนดเดิม วันกะเทยผ่านศึกจึงถือเป็นอีกวันที่เชื่อว่าคนไทยจะระลึกถึงไปอีกในทุก ๆ ปี

ตำนานชุดพิธีการนักกีฬาไทยในโอลิมปิก 2024

กลับมาอีกครั้งกับโอลิมปิกประจำปี 2024 ที่ปีนี้ถึงคราวของประเทศฝรั่งเศสดินแดนแห่งแฟชัน รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ ซึ่ง ณ เวลานั้นเชื่อว่านอกจากความตื่นตาตื่นใจกับการออกแบบตามจุดต่าง ๆ ของงาน ไม่ว่าจะเป็น สนาม อุปกรณ์กีฬา หรือ Art Work ภายในงานแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนตั้งตารอคงหนีไม่พ้น ‘ชุดประจำชาติ’ ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์แทนความเป็นชาตินั้น ๆ ผ่านเหล่านักกีฬาที่เป็นตัวแทนของประเทศ

ซึ่งหลังจากประเทศไทยได้เปิดตัวชุดพิธีการก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์สนั่นโซเชียลถึงเรื่องความสวยงามของ ‘สูทสีฟ้า’ เสื้อผ้าไหมที่มีสาบอกแบบไทย ที่หลายคนรู้สึกว่าดูล้าสมัยเหมือนกับชุดอบต. และไม่สมเกียรตินักกีฬาทีมชาติผู้เป็นตัวแทนประเทศสวมใส่

โดยภายหลังทางคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยได้ออกมาชี้แจงว่า ชุดพิธีการตั้งใจออกแบบมาเพื่อสะท้อนเอกลักษณ์ของไทยอย่างผ้าทอสู่สากล แต่ด้วยเวลาการตัดเย็บที่เร่งรีบ ทำให้เกิดข้อผิดพลาดเล็กน้อย รวมถึงไม่ได้มีการชี้แจงชัดเจนว่าชุดพิธีการใส่ในช่วงไหนบ้าง จึงทำให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นชุดที่ให้นักกีฬาใส่ในพิธีเปิดโอลิมปิก

ผลสุดท้ายทางคณะนักกีฬาไทยก็ตัดสินใจให้นักกีฬาใส่ชุดที่ออกแบบโดยแกรนด์สปอร์ต ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Be Our Spirit’ ที่ผสมผสานระหว่างแฟชันสมัยใหม่ และลวดลายจากมรดกโลกบ้านเชียง

ถึงแม้จะมีดราม่าเรื่องชุดตั้งแต่เริ่ม แต่ก็ยังมีเรื่องน่ายินดีอยู่ เพราะสูทสีฟ้าตัวนี้เองที่ทำให้คนไทยรู้จัก ‘ปอป๊อ – ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย’ นักกีฬาแบตมินตันทีมชาติผู้ที่เป็นแบบสวมชุดพิธีการครั้งนี้มากขึ้น ผ่านการเป็นมีมไวรัลไปทั่วโลกออนไลน์ในชั่วข้ามคืน

จบกันไปแล้วกับคอนเทนต์ซีรีส์ Content of the Year 2024 ส่งท้ายปี 2024 พร้อมกับสุดยอด 3 อันดับที่เป็นที่สุดแห่งปี รวมทั้งหมดกว่า 10 หมวดด้วยกันที่ RAiNMaker ได้คัดสรรมาฝากทุกคน เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งปีที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายบนโลกออนไลน์ บางเรื่องก็เป็นไวรัลในช่วงเวลาหนึ่ง และบางเรื่องก็คงเป็นตำนานให้เราหวนนึกถึงในปีต่อ ๆ ไป

เชื่อว่าในปีหน้าที่จำนวนครีเอเตอร์ และคอนเทนต์ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็คงจะมีคอนเทนต์ที่เป็นเทรนด์ หรือไวรัลเกิดขึ้นมากมายกว่าเดิม และแน่นอนว่า RAiNMaker ก็จะรับหน้าที่รวมสุดยอดในแต่ละหมวดมาฝากทุกคนในปีหน้าอีกเช่นเคย แล้วพบกันใหม่กับ Content of the Year 2025!

#RAiNMakerContentoftheYear2024