แจกเทรนด์และแนวโน้ม Social Marketing 2022

สำหรับในปีนี้หลายคนคงได้อ่านเกี่ยวกับเทรนด์การทำการตลาดมาอย่างมากมาย ซึ่งทาง Hootsuite เองก็ได้มีอินไซต์ใหม่ ๆ ที่เก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อให้แบรนด์ และครีเอเตอร์นำไปประยุกต์ใช้ และปรับตัวให้ทันโลก

Brand Strategy Trend   

เปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายให้เป็นคอมมูนิตี้ 

เทรนด์แรกของ Social Marketing ที่ควรรู้ เริ่มจากการทำให้กลุ่มเป้าหมายที่เรามี กลายเป็นคอมมูนิตี้ให้ได้ เพราะการทำคอนเทนต์เพื่อดึงดูดความสนใจต่อกลุ่มเป้าหมายแล้ววนลูปไปเรื่อย ๆ นั้นอาจไม่เพียงพอสำหรับการตลาดยุคนี้

ฉะนั้นแบรนด์ และครีเอเตอร์จึงต้องเรียนรู้ที่จะเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายของตัวเองอย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอมากขึ้น จนความภักดี (Loyalty) และความเชื่อใจ (Trust) ที่มีต่อแบรนด์ ทำให้พวกเขากลายเป็นคอมมูนิตี้

เพราะการปล่อยคอนเทนต์ต่าง ๆ ไปยังคอมมูนิตี้นั้นจะทำให้เกิดการมีส่วนร่วม (Conversion) ทั้งการพูดถึง (Drive Conversations) และการแชร์ไปยังวงกว้างได้มากกว่า โดยเฉพาะกับคอมมูนิตี้ของโซเชียลมีเดียที่มีอิทธิพลต่อกระแสในการเกิดเทรนด์แต่ะยุคสมัย

แต่การจะทำให้เป็นคอมมูนิตี้ด้วยตัวคนเดียวก็คงไม่พอ ฉะนั้นต้องรู้จักใช้ประโยชน์จากกลุ่มคนที่เป็นครีเอเตอร์ และอินฟลูเอนเซอร์ในการเป็นตัวเชื่อมระหว่างคอมมูนิตี้ให้เป็นด้วย เพราะในยุคที่ใคร ๆ ก็เป็นครีเอเตอร์ได้ เลยทำให้คอมมูนิตี้เริ่มกระจาย และมีสับเซตย่อยเยอะขึ้นด้วย

Social Advertising Trend 

รู้จักการสร้างโฆษณาบน TikTok 

“Don’t make ads. Make TikToks.” คงจะเป็น)ระโยคที่เหมาะที่สุดสำหรับดลกโซเชียลยุคนี้  เพราะยุคนี้ผู้คนในโลกโซเชียลใช้เวลาไปกับโฆษณาเยอะกว่าเดิม

เนื่องจากการบูมของคอนเทนต์วิดีโอสั้นอย่าง TikTok เลยทำให้การโฆษณาแนบเนียนไปกับคอนเทนต์ง่ายขึ้น แม้ Facebook และ Instagram จะเป็นแพลตฟอร์มที่มีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตก็ตาม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้ TikTok มาแรงแค่ไหน

และเมื่อพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป กลยุทธ์การตลาดก็ต้องแปรเปลี่ยนไปตามเช่นกันเพื่อวางแผนให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ทั้งแบรนด์ ครีเอเตอร์ และเอเจนซีจึงควรเริ่มที่จะโฟกัสรูปแบบโฆษณาบน TIkTok ให้มากกว่าเดิม โดยสามารถศึกษาการโฆษณาเพิ่มเติมได้ที่นี่: https://www.rainmaker.in.th/tiktok-ads-guide/

แม้ความจริงไม่มีใครอยากที่จะถูกรบกวนเวลาเล่นโซเชียลด้วยโฆษณาก็ตาม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันคือส่วนหนึ่งที่คอยขับเคลื่อนการตลาดทุกวันนี้ ฉะนั้นนอกจากจะรู้ว่าต้องขายช่องทางไหนแล้ว ก็ควรทำการบ้านกับกลุ่มเป้าหมาย และคอมมูนิตี้ให้ดีด้วยว่าจะขายกับใคร และขายอย่างไรให้เป็นที่น่าจดจำ

ROI Trend   

ลงทุนน้อยแต่ได้ผลตอบรับมาก

ROI (Return on Investment) คือ ตัวช่วยในการวัดผลตอบแทนของการทำการตลาด ซึ่งสามารถเปรียบเทียบได้ว่าแบบไหนได้ผลดีกว่ากันจากสูตรการคำนวณนี้

ROI = (กำไรสุทธิ / ต้นทุน) X 100

กำไรสุทธิ คือ รายรับ – ต้นทุน

ซึ่งค่า ROI ที่เกิน 100% = การลงทุนที่คุ้มค่า

แต่การหาค่า ROI ของแบรนด์ ไม่ได้บอกได้แค่ผลตอบรับว่าการตลาดแบบไหนที่ควรลงทุนเท่านั้น แต่ยังสามารถบ่งบอกได้ถึงกลุ่มเป้าหมายที่ควรลงทุนแบบอินไซต์อีกด้วย เพราะวัดผลชัดเจนได้จาก Social Listening นั่นเอง สามารถศึกษาเรื่องกลยุทธ์ Social Listening ได้ที่นี่: https://www.rainmaker.in.th/share-of-voice-content-marketing/

และหากลงคอนเทนต์ถูกแบบ ถูกที่ และถูกกลุ่ม ก็ยิ่งทำให้การลงทุนนั้นคุ้มค่า แต่ก็ต้องเฉลี่ยคอนเทนต์ที่ต้องเสียเงินบูสต์ (Paid Content)  และคอนเทนต์ที่หวังยอดออแกนิก (Organic Content) ควบคู่กันไปด้วย เนื่องจาก 2 ประเภทนี้จะทำให้โซเชียลของเรามีความอิมแพคมากขึ้นในการตกกลุ่มเป้าหมายใหม่

Social Commerce Trend   

รีเสิร์ชจากโซเชียลแทน Search Engine 

ทุกวันนี้บทบาทของ Google เริ่มเปลี่ยนไป จากเดิมที่เป็น Search Engine อันดับหนึ่งของโลก ตอนนี้ผู้คนในโลกโซเชียลเริ่มหันไปเสิร์ช และค้นหาเทรนด์ใหม่ ๆ จากหน้าฟีด For You ของ TikTok แทนแล้ว สามารถศึกษาเรื่อง Search Engine vs TikTok ได้ที่นี่: https://www.rainmaker.in.th/gen-z-search-tiktok-and-instagram-more-than-google/

ซึ่งตอนนี้เรียกได้ว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนไปแล้ว ไม่ว่าจะเสิร์ช อัปเดตเทรนด์ หรือว่าสถานการณ์ปัจจุบันต่าง ๆ หน้าฟีดก็มีหมด โดยไม่ต้องพิมพ์หา

โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Z ในช่วงอายุ 16-24 ปี มักจะเข้าหน้าฟีด For You ของ TikTok และหน้าโฮมของ Twitter เพื่ออัปเดตข่าวเร็ว รวมถึงอัปเดตเรื่องที่น่าสนใจ ซึ่งบางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องพิมพ์หาคีย์เวิร์ดเอง แต่การคัดกรองของแพลตฟอร์มโซเชียลเหล่านั้นจะแสดงขึ้นมาให้เห็นเลยโดยอัตโนมัติเพียงแค่เข้าแอปไถฟีดนั่นเอง

นอกจากนี้แพลตฟอร์มช้อปออนไลน์ต่าง ๆ ยังมีการจัดคลังสินค้า พร้อมการซื้อขายที่ครบจบในแอปเดียวด้วย เลยทำให้ Social Commerce ยิ่งมีบทบาทในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคมากขึ้นไปอีก ฉะนั้นแบรนด์ เอเจนซี และครีเอเตอร์ต้องทำกลยุทธ์การตลาดให้ถูกแพลตฟอร์ม และหาฐานของกลุ่มเป้าหมายตัวเองให้เจอ พร้อมเรียนรู้ที่จะปรับตัวกระจายคอนเทนต์ไปบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ อยู่เสมอ

Customer Care Trend   

สร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าแบบระยะยาว

ยุคนี้การสร้างบันไดไต่ระดับการตลาดในโลกโซเชียล ต้องคิดควบคู่ไปกับการดูแลรักษาลูกค้าด้วย ซึ่งสิ่งที่แบรนด์ เอเจนซี และครีเอเตอร์รวมถึงอินฟลูเอนเซอร์ควรทำ คือต้องสร้าง Journey เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้พวกเขาอยู่เสมอ

ซึ่งการสร้างประสบการณ์ในระยะยาวให้กลุ่มเป้าหมาย จะช่วยเพิ่มความประทับใจ และมีภาพจำในแบรนด์ง่ายขึ้น (Brand Recall) ไม่ว่าจะเป็น Customer Care ในการบริการหรือหลังบริการก็ตาม

โดยจากผลสำรวจของ Hootsuite พบว่ามีนักการตลาดกว่า 59% เห็นตรงกันว่า การมีกลยุทธ์พร้อม Customer Care ไปด้วย จะช่วยเสริมให้การจัดการมีคุณค่ามากขึ้นเมื่อเทียบกับการตลาดที่ไม่ได้วางแผนเรื่องการให้ประสบการณ์กับลูกค้ามาก่อนด้วย

ที่มา: Hootsuite

Copyright © 2024 RAiNMaker. All rights reserved.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save