ปัจจุบันบน Social Media ต่าง ๆ จะมีพื้นที่ไว้ให้เราเชียน Biography หรือ About เกี่ยวกับตัวเราหรือแฟนเพจของเรา ซึ่งบริเวณนี้จะถูกนำมาโชว์ด้านล่างโปรไฟล์ของเรา ซึ่งนับว่ามีความสำคัญมากในการช่วยให้คนที่กดเข้ามาดูหน้าโปรไฟล์ของเราหรือแบรนด์เรามีโอกาสจะรู้จักกับเรามากขึ้น
ในวันนี้ทีมงาน RAiNMAKER ก็จะมาขอแนะนำ 5 เทคนิคการเขียน Bio หรือ About ให้หน้าสนใจพร้อมตัวอย่างการเขียน Bio จากแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จบน Social Media มาไว้เป็นแนวทางให้กับทุกคน
1.เขียนอธิบายตัวเองให้สั้นที่สุด กระชับที่สุด ให้คนรู้จักเรา
หลัก ๆ เลยก็คือ เราคือใคร, เราต้องการหรือจะทำอะไร แล้วที่สำคัญคือ เราจะให้อะไรกับคนที่อ่านหรือคนที่ติดตาม ซึ่งจะเป็นการให้คุณค่ากับโปรไฟล์ของเรา โดยเฉพาะการบอกว่าเราจะให้อะไรกับคนอ่านหรือติดตาม เพราะถ้าเขารู้สึกว่าเราสามารถให้ในสิ่งที่เขาต้องการได้โอกาสที่เขาจะติดตามเราก็มีมากขึ้น
ตัวอย่างจากบัญชี Twitter ของ Apple Music เราก็จะเห็นว่า Apple ทำการอธิบายบริการ Apple Music สั้น ๆ ว่า Millions of Songs, Zero ads, No commitments ซึ่งเพียงเท่านี้ก็ทำให้รู้ได้ทันทีว่าบริการนี้เกี่ยวกับอะไร มีข้อดีอย่างไร
2.รู้ว่าแต่ละ Social เขียนได้มากน้อยแค่ไหน และเข้าใจธรรมชาติของแต่ละโซเชียล
แน่นอนว่าแต่ละ Social Network จะมีพื้นที่ให้ทำการเขียนไม่เท่ากัน บางทีก็น้อยบางทีก็เยอะ ซึ่งเราก็ต้องเลือกดู อีกอย่างคือ เราต้องเข้าใจธรรมชาติของแต่ละ Social ว่า About หรือ Bio ของเราปรากฏที่ไหน ตอนไหน อย่างไรบ้าง เช่น Profile ของ Facebook จะปรากฏเมื่อเอาเมาส์ไปวางดู หรือโปรไฟล์ของ Twitter จะต้องกดเข้าไปดู หรือมีโอกาสไหมที่ Bio ของเราจะปรากฏบนการ Search
ด้วยเหตุเช่นนี้ทำให้การเขียนลงบนแต่ละโซเชียลแตกต่างกัน ซึ่งก็ควรดูเป็นกรณีไป
3.อย่าลืมใส่ Hashtag และลิงก์
การใส่ Hashtag นั้นสำคัญมาก ๆ โดยเฉพาะกับ Twitter เพราะว่าในกรณีที่คนกดหรือค้นหา Hashtag เราก็จะเห็น Profile บุคคลที่มี Hashtag นั้นติดอยู่ใน About ด้วย ซึ่งหากข้อความ About ในส่วนอื่นของเราน่าสนใจ โอกาสที่คนจะกดติดตามก็เยอะขึ้น
วิธีนี้สามารถใช้ได้บน Instagram เช่นกัน และนับว่าเป็นอีก 1 วิธีที่น่าสนใจในการช่วยให้ คนค้นพบโปรไฟล์ของเราได้เยอะขึ้น
ส่วนลิ้งค์นั้นเราสามารถใส่ลิงก์ไปยังที่อื่น ๆ ได้ ตัวอย่างเช่น ลิงก์สำหรับ Download Application ของเรา หรือ ไปยังบล็อกส่วนตัวหรือ Social Media อื่น ๆ และถ้าเป็น Twitter เมื่อเราใส่ @ ข้อความนั้นจะกลายเป็นลิ้งค์ไปยังโปรไฟล์ Twitter ได้ทันที
อีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจก็คือกรณีของ CNN ที่มีการใส่ทั้ง Hashtag ลิงก์สำหรับ Download Application, บัญชี Twitter ไว้อย่างครบถ้วน
4.อย่าใส่ข้อมูลซ้ำซ้อนกับที่โชว์ด้านล่าง (และอย่าลืมใส่ข้อมูลให้ครบด้วย)
เราจะเห็นว่าในช่อง Bio หรือ About นั้นแทบทุก Social Media จะทำการแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือส่วนที่ให้ใส่รายละเอียด กับส่วนที่ให้พิมพ์บรรยายเอง ส่วนที่ให้ใส่รายละเอียดก็เช่น ลิงก์, บัญชีโซเชียลอื่น ๆ หรือ ข้อมูลตัวเลขต่าง ๆ เพศ อายุ
ในส่วนนี้เราต้องมั่นใจว่าข้อมูลด้านล่างจะต้องไม่ซ้ำกับด้านบนซึ่งจะเปลืองพื้นที่ ทำให้เราเสียโอกาสในการเล่าส่วนอื่น ๆ เช่น ถ้าด้านล่างมีให้ใส่ Blog ส่วนตัวอยู่แล้ว ด้านบนเราก็อาจจะไม่ต้องใส่ลิ้งค์เพื่อไปยัง Blog ของเรา เป็นการใช้พื้นที่อันน้อยนิดให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
5.ใส่ความเป็นบุคคล หาสิ่งที่เชื่อมโยง
มนุษย์เราเป็นสัตว์สังคมและพยายามหาสิ่งที่เชื่อมเข้าหากันอยู่ตลอด การที่เราสามารถดึงดูดและเชื่อมโยงเราเข้ากับคนที่อ่าน หรือติดตามได้นั่นก็นับว่าเป็นความสำเร็จ ในการเขียน Bio ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์หรือบุคคลเองก็ตามควรใส่ความรู้สึกเข้าไปด้วย เช่น ชอบอ่านหนังสือ, ชอบอวกาศ, ชอบอาหารญี่ปุ่น ซึ่งถ้าคนเห็นแล้วพบว่ามีความชื่นชอบใกล้เคียงกัน ก็จะช่วยให้ ต่อกันติดง่ายขึ้น
หรือถ้าหากเป็นแบรนด์ ก็อาจจะลองใส่ความรู้สึกของแบรนด์นั้นลงไป เช่น สนุกสนาน, จริงจัง หรือมีความเป็นผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งก็จะช่วยให้คนมองภาพเราออกยิ่งขึ้น
จริง ๆ แล้วในการเขียน Bio หรือ Profile ของเรา อาจจะไม่มีกฏตายตัว แต่จากกรณีศึกษาต่าง ๆ ด้านบน ก็อาจจะช่วยให้เราสามารถมีไอเดียในการเขียนโปรไฟล์ของเราให้น่าสนใจและโดนใจให้คนที่ผ่านมาแล้วพาให้เขากลายมาเป็นผู้อ่านหรือผู้ติดตามของเราได้
เรียบเรียงโดย ทีมงาน RAiNMAKER