Social Media Marketing คือการทำการตลาดผ่านคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, YouTube, Instagram, TikTok หรือ X เพื่อให้แคมเปญหรือคอนเทนต์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแต่ละแพลตฟอร์มได้ง่ายขึ้น แต่ในยุคที่แพลตฟอร์ม และอัลกอริทึมแข่งกันจูงใจครีเอเตอร์ จะต้องตั้งเป้าหมาย (Goals) หรือสร้างกลยุทธ์ยังไงให้ตอบโจทย์กับยุคนี้ RAiNMaker มีคำตอบ!
เพราะไม่ว่าคุณจะมีเป้าหมายในการทำ Social Media Marketing แบบไหน ทั้งขยายฐานกลุ่มเป้าหมาย หรือแอ็กทีฟคอมมูนิตี้ และเพิ่มยอดผู้ติดตามก็ตาม การรู้จักสเกลการทำการตลาดของตัวเอง รวมถึงเข้าใจพื้นที่โซเชียลมีเดียที่มีจะช่วยให้ไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้นแน่นอน
โดยกว่า 68% ของผู้บริโภคมองว่าเหตุผลหลักที่ทำให้พวกเขาติดตามแบรนด์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ก็เพราะมีการให้ข้อมูล และอัปเดตโปรดักหรือบริการของแบรนด์ที่พวกเขาอยากติดตามอยู่อย่างสม่ำเสมอ แต่ก็มีบางอย่างที่ผู้บริโภคมักจะมองไม่เห็นจากแบรนด์ที่พวกเขาติดตามเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็น
- คอนเทนต์แบบไม่ขายตรง แต่ครีเอทีฟ
- มีความไม่โปร่งใสเกี่ยวกับข้อมูลของแบรนด์ หรือบริษัท
- ไม่เคยให้ข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตโปรดัก หรือแหล่งข้อมูลของแบรนด์
- ไม่มี User-Generated Content หรือ Customer Testimonials
จาก 4 ข้อด้านบน แบรนด์หรือธุรกิจไหนยังไม่ปรับก็จะสร้าง Awareness และฐานผู้ติดตามยากกว่าแบรนด์ที่มีข้อมูล และทำให้ดูเข้าถึงง่ายกว่า หรือสามารถปรับการเข้าถึงแบรนด์ได้ คือ
- สร้าง Brand Awareness จากการให้ข้อมูลเกี่ยวกับโปรดัก แคมเปญหรือบริการ เพื่อเพิ่มความเข้าถึงง่าย
- มีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับโปรโมชัน หรือแคมเปญพิเศษให้กับผู้ติดตามสำหรับการสร้าง Generate leads
- แอ็กทีฟเรื่องการสนทนา และตอบผู้บริโภคที่เป็นลูกค้าอยู่เสมอ เพราะผู้บริโภคว่า 76% ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยคาดหวังว่าแบรนด์ต่าง ๆ จะให้ข้อมูล และคำตอบได้ตรงตามความต้องการ
- แต่เพียงแค่การตอบสนองที่รวดเร็วอาจจะยังไม่พอ แต่แบรนด์ต้องคอยตรวจสอบด้วยว่ามีการโปรโมตคอนเทนต์ด้วยแฮชแท็กให้หาเจอง่าย โดยไม่ใช่แค่ป่าวประกาศตอนมีโปรโมชันพิเศษ
นอกจากนี้แบรนด์ก็ควรทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายเอาไว้ด้วยว่ามีอิทธิพลต่อกลุยุทธ์การตลาดบนโลกโซเชียลมีเดียมากน้อยแค่ไหน เพื่อจะได้ทำความเข้าใจความแตกต่างของกลุ่มเป้าหมายแต่ละแพลตฟอร์มต่อไป ซึ่งมีการอัปเดตพฤติกรรม และโซเชียลมีเดีย ดังนี้
- ตามรายงานของ The Sprout Social Index™ พบว่า 53% ของผู้บริโภค มีแนวโน้มการใช้โซเชียลมีเดียสูงขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
- Instagram มีผู้ใช้งาน 2 พันล้านคนทั่วโลกในปี 2023 และยังคงเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นช่วงอายุ 13-17 ปี
- X มีผู้ใช้งานที่เป็นแอ็กทีฟยูสเซอร์พร้อมสร้างรายได้มากกว่า 500 ล้านคนต่อเดือน โดยผู้คนมักจะใช้เวลาบนแพลตฟอร์มเฉลี่ยอยู่ที่ 31 นาทีบน X
- กลุ่มผู้บริโภคบางกลุ่มกว่า 78% บน TikTok มักจะมีการใช้จ่ายเพื่อซื้อโปรดัก หลังจากมีการรับชมโฆษณาบน TikTok โดยบังเอิญที่เป็นครีเอทีฟคอนเทนต์ของครีเอเตอร์
- กว่า 73% ของผู้ใช้งานบน TikTok มักจะรู้สึกเชื่อมถึงกับแบรนด์แบบเจาะลึก เฉพาะแบรนด์ที่มีการ Interactive ด้วยบน TikTok มากกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ
- YouTube กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกฐานะเครื่องมือ Search Engine โดยมีผู้ใช้มากถึงหลายพันล้านคนต่อเดือนกว่า 80 ภาษา และมากกว่า 100 ประเทศ
Social media demographics
การทำความเข้าใจกลุ่มประชากรต่าง ๆ ที่จะมาเป็นกลุ่มเป้าหมาย หรืออยากให้เขามาเป็นกลุ่มเป้าหมายก็ต้องรู้ด้วยว่าพวกเขาอาศัยอยู่ที่ไหน ไปจนถึงความแตกต่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ของกลุ่มคนบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ จะช่วยให้ตัดสินใจได้ว่าควรทำคอนเทนต์ หรือธุรกิจบนแพลตฟอร์มไหนมากที่สุด
- Facebook: เปรียบเสมือนหน้าร้านของธุรกิจ ที่มีการให้เช็กอิน และเขียนรีวิวได้ นอกจากนี้ยังมีการยกระดับด้วยแชตบอทที่ช่วยดันแคมเปญตลาดให้เป็นที่รู้จัก และสร้างคอมมูนิตี้กับผู้ติดตามได้มากขึ้น
- Instagram: คีย์หลักของแพลตฟอร์มนี้คือการมีรูปภาพ และวิชวล จึงเหมาะสำหรับการสร้างหน้าร้านในด้านอีคอมเมิร์ซ รงมถึงส่งอิทธิพลให้ผู้ติดตามสนับสนุนแบรนด์ได้เพราะมีภาพ และวิชวลที่สะดุดตา
- YouTube: แม้บางคนอาจจะมองว่า YouTube ไม่ใช่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแบบเดิม แต่ก็นับว่าเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอคอนเทนต์ที่มีประสิทธิภาพอยู่จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเหมาะกับสายคอนเทนต์วิดีโอมาตั้งแต่แรกไม่ว่าจะเป็น Short-form หรือ Long-form ก็ตาม
- TikTok: เป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้ถึง 1 พันล้านคนในเดือนกันยายน 2021 และได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เพราะคอนเทนต์ไวรัล เพลงฮิต และเทรนด์ของโลกมารวมอยู่ที่นี่แล้ว อีกทั้งอัลกอริทึมที่แม่นยำ ชวนให้ไถฟีดอยู่ตลอด พร้อมเชื่อมต่อโลกอีคอมเมิร์ซบน TikTok Shop ได้ด้วย
- Threads: Meta ได้เปิดตัว Threads ไปเมื่อปี 2023 และมีการลงทะเบียนมากกว่า 100 ล้านครั้งภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์หลังจากเปิดตัว จนเป็นแอปที่มีการดาวน์โหลดเร็วที่สุด พร้อมจุดประกายบทสนทนาต่าง ๆ แต่ละคอมมูนิตี้ได้ โดยสามารถสมัครผ่าน Instagram ที่ลิงก์กันได้ด้วย
- X: แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะจาก Twitter แบบเดิม แต่ก็ยังเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับธุรกิจส่วนใหญ่ เพราะเข้าถึงได้ง่าย และเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ง่ายต่อการบริการลูกค้า หรือเข้าถึงลูกค้าด้วยแคมเปญ และแฮชแท็ก
Metrics and KPIs
ไม่ว่าเป้าหมายในหารทำคอนเทนต์จะเป็นยังไง แต่การมีตัวชี้วัดที่เจาะลึกอินไซต์ข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายได้ตรง จะช่วยให้เลือกตัววัดที่ใช่ และทำตาม KPI ได้สำเร็จมากขึ้น
- Reach: การวัดว่ามีผู้คนเข้าถึงโพสต์คอนเทนต์บนฟีดมากน้อยเพียงใด โดยจะวัดการเข้าถึงแบบไม่ซ้ำกัน
- Clicks: การวัดจากยอดคลิกเพื่อเข้ารับชคอนเทนต์ หรือแคมเปญเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นให้เกิดความอยากรู้อยากเห็น หรือกระตุ้นอยากให้ซื้อสินค้า เป็นต้น
- Engagement: จำนวนการโต้ตอบ (Interaction) ของกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด เพื่อแสดงให้เห็นว่ากลุ่มเป้าหมายรับรู้ หรืออยากมี Intreact มากน้อยเพียงใด
- Hashtag performance: การวัดจากแฮชแท็กที่เกี่ยวข้องมากที่สุด ซึ่งการมีแฮชแท็กที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นจะช่วยรวมคอมมูนิตี้ หรือตอบคำถามผู้ติดตามได้ทั่วถึงมากขึ้น
- Organic and paid likes: นอกเหนือจากยอดไลก์แบบออแกนิกที่มักจะได้รับกันอยู่แล้ว ก็ยังมีการวัดจากยอดไลก์ที่เสียเงินบูสต์เช่นกัน เพราะไลก์แบบออแกนิกได้ยากมากขึ้น ทำให้เหล่าแบรนด์เริ่มหันไปใช้เงินเพื่อการโฆษณา หรือลงทุนเพิ่มการมองเห็น
- Sentiment: การวัดจาดอารมณ์ และความรู้สึกของกลุ่มเป้าหมายจากคอนเทนต์ แบรนด์ หรือแฮชแท็กของแคมเปญ ซึ่งเป็นอีกตัวชี้วัดสำคัญที่จะทำให้รู้ว่าผู้คนมีความคิดเห็นในเชิงบวกหรือลบกับคอนเทนต์ หรือแคมเปญนั้น
- Video views: การวัดยอดวิวจากการรับชมวิดีโอจะแตกต่างกันไปแต่ละแพลตฟอร์ม เช่น Instagram วัดจากการดูคลิป Reels หรือ Story และ TikTok วัดจาก 3 วินาทีแรกในการรับชม ไปจนถึงการไลฟ์บน Facebook ก็มีการวัดคนละแบบกัน
- Follower growth: การวัดจากยอดการเติบโตของผู้ติดตามบนแพลตฟอร์ม ซึ่งจะช่วยวัดมูลค่าในการทำงานกับแบรนด์ และความมีอิทธิพลของแบรนด์ต่อกลุ่มเป้าหมายด้วย
- Follower growth rate: การวัดอัตราการเติบโตของผู้ติดตามว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือลดลงฮวบ เพื่อสะท้อนให้เห็นความน่าดึงดูดของช่องต่อผู้ติดตามใหม่ ๆ มากขึ้น
- Reply time: การวัดจากระยะเวลาในการตอบกลับผู้ติดตาม
- Total response volume: การวัดจากปริมาณการตอบกลับผู้ติดตามทั้งหมด
- Customer satisfaction score (CSAT): การวัดจากความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมายกับสินค้าโดยรวม โดยสามารถใช้การส่งข้อความโซเชียลเพื่อวัดผล CSAT ได้ จากการถามถึงแนวโน้มที่จะแนะนำธุรกิจของเราให้คนอื่นต่อหรือไม่ผ่านแบบสำรวจ
- Impressions:การวัดว่ามีผู้คนเข้าถึงโพสต์คอนเทนต์บนฟีดมากน้อยเพียงใด โดยจะวัดการเข้าถึงแบบซ้ำกัน
- Brand mentions: การวัดจากการกล่าวถึงแบรนด์ในโพสต์ และในคอมเมนต์ ไม่ว่าแบรนด์จะถูกแท็กหรือไม่ก็ตาม
- Share of voice (SOV): การวัดว่าแบรนด์ของเราอยู่อันดับไหนในตลาดเมื่อเทียบกับคู่แข่งตลาดเดียวกัน โดย SOV จะทำให้เข้าใจถึงบทสนทนาที่ผู้คนมีต่อทั้งแบรนด์ของเรา และแบรนด์คู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกันได้
- Conversion rate: การวัดจากผู้คนที่เปลี่ยนมาเป็นลูกค้าที่เลื่อมใสแบรนด์ (Loyalty) ได้ จาก Call-to-action หรือตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้ผ่านแคมเปญ และคอนเทนต์
Social Media Marketing Strategy
- สร้าง #แฮชแท็ก ของแบรนด์โดยเฉพาะ เพื่อสร้าง Branding move ให้น่าจดจำ
- ค้นหา Brand Voice ของแบรนด์ และมีส่วนร่วมกับผู้ติดตาม
- มี Short-video ตามเทรนด์ที่ผู้คนให้ความสนใจ เช่น TikTok, Facebook Reels และ Instagram Reels ไปจนถึง YouTube Shorts
- โพสต์ในนามแบรนด์ แต่มีความเป็นมนุษย์เข้าถึงง่าย
- รู้จักคอลแลบกับครีเอเตอร์ หรืออินฟลูเอนเซอร์เพิ่มเติม
ที่มา: https://sproutsocial.com/insights/social-media-marketing-strategy/