แม้พึ่งจะเริ่มปีใหม่กันมาได้ไม่นานก็ใกล้จะมาถึงกลางเดือนกันแล้ว แต่แน่นอนว่าเรื่องของแพลตฟอร์ม และเทรนด์ไม่เคยมีวันหยุดให้เราได้พัก วันนี้ RAiNMaker เลยจะมาแชร์คำทำนายแต่ละแพลตฟอร์มกัน ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, X และ TikTok ในปีนี้ จะมีอัปเดตอะไรให้แพลนพร้อมรับมือบ้าง?!
ปี 2023 อาจจะเป็นปีที่ทุกคนเริ่มจะรับรู้แล้วว่าใคร ๆ ก็เป็นครีเอเตอร์ได้ ใคร ๆ ก็สามารถมีคอนเทนต์เป็นของตัวเองได้ ซึ่งเป็นปีที่หลายคนได้เริ่มต้นผันตัวมาหารายได้กับแพลตฟอร์ม และทำความรู้จักกับตัวเองเพื่อเอาใจยอดเอ็นเกจเมนต์ และผู้ติดตาม
แต่ในปี 2024 จะเป็นปีที่การแข่งขันสูง และดุเดือดมากขึ้นไปอีกสำหรับวงการคอนเทนต์ เพราะทุกคนรู้ และทำเป็น แต่แน่นอนว่าไม่มีอะไรง่าย และมั่นคงเสมอไป ซึ่งอัลกอริทึมและฟังก์ชันบนแพลตฟอร์มก็เหมือนกัน ฉะนั้นมาดูกันว่าทั้ง Facebook, Instagram, X และ TikTok จะมีอะไรรอเซอร์ไพรส์เราอยู่!
แต่ขอย้ำไว้ก่อนว่านี่เป็นเพียงการคาดเดาจากข้อมูลการวิเคราะห์ของ Social Media Today เท่านั้น ซึ่งจะมีทั้งสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่เกิดขึ้น ฉะนั้นใช้วิจารณญาณในการเสพข้อมูลแต่พอดี และเตรียมรับมือเท่าที่จะทำได้กันไว้ก็พอนะ
More AI, more video
แม้อิทธิพลของ AI อาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ให้น่าตื่นเต้นแล้ว แต่ในปีนี้ Meta จะทำให้ AI มีบทบาทมากขึ้นบน Facebook ซึ่งจะเห็นได้จากการใช้ของ AI มาแนะนำคลิปวิดีโอ หรือ Facebook Reels หน้าฟีดของทุกคน หลังจากพบว่าสถิติของผู้ใช้บน Facebook มีการใช้เวลาบนแพลตฟอร์มมากขึ้น แม้ผู้ใช้จะโพสต์ออริจินัลคอนเทนต์กันน้อยลงก็ตาม
เพราะการใช้ Recommend by AI หรือการแนะนำคอนเทนต์ให้แตกต่างไปตามความชอบของผู้ใช้ ก็เริ่มบูมตั้งแต่ TikTok เริ่มทำมา แถม Facebook จะดัน Reel ให้กับกลุ่มคนที่ไม่ใช่ผู้ติดตามให้คอนเทนต์ของเรามีโอกาสไปเจอผู้คนใหม่ ๆ มากขึ้น และเพิ่มคอนเทนต์ที่เอ็นเตอร์เทนมากกว่าคอนเทนต์ข่าวด้วย
รวมถึงความหลงใหลใน Generative AI ของ Mark Zuckerberg ก็น่าจะทำให้ในอนาคตของ Facebook มีเครื่องมือ หรือฟีเจอร์ AI เพิ่มขึ้นอีกแน่นอน
Celebrity-influenced AI chatbots
เพราะ Meta มี Generative AI แชตบอทเป็นเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ และเซเลบไว้ถามตอบกับผู้ใช้ผ่านทั้ง WhatsApp, Messenger และ Instagram ได้ แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยเวิร์กนัก เพราะสุดท้ายแล้วการมีโปรไฟล์หน้าเหล่าคนดังก็อาจจะไม่สำคัญเท่ากับข้อมูลที่ได้มา และปีนี้ก็อาจจะพัฒนากระบวนการทาง AI และความแม่นยำมากขึ้นมากกว่าจะหาหน้าหรือโทนเสียงเหล่าคนดังแทน
3D Avatar
ดูเหมือนการสร้างอวตาร 3D จะกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ Meta กำลังระดมให้เกิดขึ้นกับทั้ง Facebook และ Instagram อยู่ เพื่อให้คนเริ่มชินกับโลก VR หรือ Metaverse มากขึ้น เพราะนอกจากการสร้างโปรไฟล์ให้เป็นอวตาร 3D ก็มีเกมแบบที่ใช้อวตารสร้างมาสู้ยิงสู้กันได้ด้วย ซึ่งในอนาคตเราก็อาจจะได้เห็นอวตารที่สร้างแล้วสมจริง มีคุณภาพมากขึ้นกว่าตอนนี้
AR Glasses
Meta กำลังพัฒนาแว่น AR อีกระดับหนึ่งที่คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2027 อย่างเป็นทางการ และโปรดักที่คอลแลปกับ Ray-Ban ก็ได้รับฟีดแบ็กเชิงบวกมาก ๆ เช่นเดียวกับ VR Headset Quest 3 เลย ทำให้แว่น AR ของ Meta ก็น่าคาดหวังไม่แพ้กัน ว่าน่าจะเพิ่มประสบการณ์ในหลาย ๆ แบบให้กับผู้ใช้ได้
Messenger Tools
แอป Messenger ของ Facebook ได้กลายเป็นเครื่องมือสำหรับทำธุรกิจไปแล้ว เพราะผู้คนในแวดวงธุรกิจส่วนใหญ่เริ่มหันมาใช้ Messenger เพื่อส่งข้อความส่วนตัว และส่งแบบกลุ่มกันมากขึ้นแทนที่จะโพสต์แบบสาธารณะเลย
ทาง Meta จึงคอยมองหาโอกาสใหม่ ๆ ทั้งการเพิ่มโฆษณาอย่าง “Click To Message Ads” ให้กลายเป็นเครื่องมือการโฆษณาที่กว้างมากขึ้นนอกจากหน้าฟีด และจะหาทางให้แบรนด์มีการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นทางการส่งข้อความบน Messenger ด้วย
More AI, more tools
ในตอนนี้ Instagram มีการแนะนำคอนเทนต์ และโพสต์หน้าฟีดด้วยการเลือก และตัดสินใจด้วย AI มากขึ้น ซึ่งมีทั้งคนที่ชอบ และไม่ชอบเมื่อ AI แนะนำ แต่จากสถิติแล้ว AI กลับช่วยให้ผู้คนใช้เวลาในแอป Instagram นานขึ้น ซึ่งทำให้แน่ใจได้เลยว่า Meta จะเพิ่มการทำงานของ AI เข้ามาช่วยในฟีเจอร์ต่าง ๆ อีกแน่นอน
โดยตอนนี้ Instagram ก็เริ่มมีการทดสอบสติ๊กเกอร์ และเครื่องมือแก้ไขภาพด้วย AI บ้างแล้ว ตามมาด้วยการสรุปข้อความสำหรับการตอบ Direct Messge (DM) ในอนาคตด้วย
Threads
แม้ Threads จะอยู่ภายใต้ Instagram และหลาย ๆ คนอาจจะไม่ได้โฟกัสกับแพลตฟอร์มนี้มากนัก แต่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาก็นับว่า Threads เริ่มแอ็กทีฟมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงสงครามระหว่างอิสราเอล และฮามาสที่ยิ่งตอกย้ำถึงการกลั่นกรอง และตรวจสอบคอนเทนต์ของ X ว่ามีการคัดกรอง และลดความสำคัญของคอนเทนต์ข่าวหนักลงแบบเดียวกับ Meta
และพร้อมความต่างนี้ก็ทำให้ Threads ยังคงเป็นคู่แข่งของ X อยู่ดี ซึ่งหากไปถึงจุดหนึ่งที่คนเริ่มหันไปใช้มากขึ้น โฆษณาก็จะตามมาด้วย แต่คงต้องจับตากันต่อไป
AR Shopping
เพราะ Meta ยังคงพัฒนาแว่น AR และให้ความสำคัญกับอวตารแบบ 3D อยู่ ก็มีความเป็นไปได้มาก ๆ ที่ไลฟ์สไตล์ของผู้คนในการชอปปิงแบบมี AR ด้วยจะเกิดขึ้น และสามารถทดลองสินค้าได้โดยไม่ต้องออกจากบ้านเพื่อไปลอ แต่ Meta ก็คงต้องกาวิธีอะแดปให้เข้ากับชีวิตประจำวันของผู้คนมากขึ้นอยู่
X (Twitter)
Elon Musk Plan
หลังจาก Elon Musk ขึ้นแท่นเป็นซีอีโอที่เข้ามารีแบรนด์เปลี่ยนโลโก้ใหม่ จนกลายเป็นอดีตซีอีโอในปัจจุบัน และให้ Linda Yaccarino มารับหน้าที่แทน ก็ทำให้ทิศทางของ X เปลี่ยนไปอย่างมาก ทั้งการโฟกัสการเป็น “Everything App” และ “Video First Platform”
นอกจากนี้ยังมีการผลักดันให้ผู้ใช้ไปสมัคร X Premium และจ่ายเงินเพิ่มมากขึ้น ต่างจากแอปอื่น ๆ ที่แข่งกันจากการพยาพยามหาฟีเจอร์ฟรีมาให้ผู้ใช้เข้าถึงได้มากขึ้น แต่ X ก็ต้องทำเพื่อหารายได้เข้าบริษัทเพื่อมาทดทานรายได้จากโฆษณาที่หายไปตั้งแต่ Elon Musk เข้ามามีบทบาท แต่ก็อาจจะมีการปรับแพลนการสมัครสมาชิกในกลางปีก็เป็นได้
Everything App
การเป็นแอปที่ทำได้ทุกอย่างในความหมายของ Elon Musk ไม่ใช่แค่การเป็นแอปที่ตามเรียลไทม์ ดูคลิปได้ หรือแชตเพื่อสร้างคอมมูนิตี้เพียงเท่านั้น แต่ X จะเปรียบเสมือนแพลตฟอร์มที่เอื้อต่อการชอปปิง และโอนเงินผ่านธนาคารแบบที่ใช้ต้นทุนต่ำได้ด้วย
แต่ X ก็คงต้องใช้เวลานานเป็นปีเพื่อให้ผ่านการอนุมัติ รวมถึงได้รับใบอนุญาตในเรื่องนี้จากรัฐบาลด้วย แต่โดยหลักแล้วเรื่องการที่เขายังคงโดนวิพากษ์วิจารณ์ก็อาจจะทำให้รัฐบาลไม่อนุญาตให้ผ่าน รวมถึงพนักงานที่น้อยลงจากเดิม 80% ก็อาจจะทำให้การพัฒนาหลาย ๆ อย่างล่าช้า
Verification
จากเดิมที่เครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้าจะใช้ยืนยันสำหรับบุคคลที่มีชื่อเสียง นักการเมือง หรือบริษัทและองค์กรต่าง ๆ ที่แสดงถึงความน่าเชื่อถือของแอคเคานท์ แต่ตอนนี้เครื่องหมายนั้นของ X กลับถูกมองว่าเป็นเครื่องหมายสำหรับคนที่มีเงินจ่ายไปแล้ว
ทำให้ X อาจจะต้องมาทำความเข้าใจ และแก้ไขโปรแกรม Verified ของตัวเองใหม่ ซึ่งกว่า 80% ของผู้ใช้ X มักจะไม่โพสต์อะไรมากอยู่แล้ว เลยอาจทำให้การสมัครสมาชิก X Premium ไม่ได้จำเป็นเท่าไหร่นักที่จะต้องรับสิทธิพิเศษ หรือยอดเอ็นเกจเมนต์ต่าง ๆ เพิ่ม แต่ในมุมครีเอเตอร์เองก็ไม่คุ้มที่จะลงทุนใน X เช่นกันในเรื่องค่าตอบแทน
News re-focus
บางที X อาจจมีการรีโฟกัสใหม่กับพฤติกรรมของผู้ใช้ และความเป็น Twitter แบบเก่ามากขึ้น เพราะ X ในปัจจุบันก็ยังคงมีความเร็ว และสดใหม่ในการอัปเดตข่าวสาร เหตุการณ์ หรือเรียลไทม์ต่าง ๆ อยู่ แต่ X ในตอนนี้ที่พยายามจะเป็นแอปที่ทำได้ทุกอย่างอาจจะทำให้หลุดโฟกัสของตัวเองไป ซึ่งคงจะดีไม่น้อยถ้ามีแท็บไฮไลท์หน้าฟีด “For You” เพื่อเน้นเทรนด์ หรือความสนใจ และข่าวต่าง ๆ มากขึ้น
Creator payments
Creator Ad Revenue นับเป็นโปรแกรมที่น่าสนใจที่สุดสำหรับ X ในปีนี้เลยก็ว่าได้ เพราะครีเอเตอร์จะได้รับรายได้ก็ต่อเมื่อโพสต์นั้นได้รับยอดเอ็นเกจเมนต์ หรือมีโฆษณาลงเยอะที่สุด แต่ X ก็อาจจะต้องแก้ไขสำหรับการแสดงโฆษณาสำหรับ X Premium ด้วย เพราะยังคงคลุมเครืออยู่
TikTok
In-stream shopping
หากเทียบกับแอปจีนอย่าง Douyin ที่การชอปปิงแบบ In-stream มีความแมส และสร้างรายได้ให้กับพ่อค้าแม่ค้าได้เยอะมาก TikTok ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่เด่นด้านคอนเทนต์แบบ Edutainment และเช็กเทรนด์อยู่ ซึ่งในปีนี้จะมีการเบนไปทางอีคอมเมิร์ซมากขึ้น
และเพื่อปรับพฤติกรรมของชาว TikToker ให้หันมาชอป และจ่ายเงินบนแพลตฟอร์มมากขึ้นที่ไม่ต่างอะไรกับ Shopee หรือ lazada ปีนี้ก็คงเป็นอีกปีที่ TikTok ต้องทำการบ้านมากขึ้น เพื่อเชื่อมโยงระหว่างคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มไปสู่การใส่ตะกร้า และชอปปิงต่อไป
TikTok AI
ในตอนนี้ TikTok เริ่มที่จะทดลองเครื่องมือ Generative AI กับกลุ่มเป้าหมายบางกลุ่มในแต่ละตลาดบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Text-to-video หรือ AI Profile ก็ตาม ปีนี้เราน่าจะได้เห็นภาพรวมที่มี AI เข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้นบน TikTok อย่าง AI-generative Video และ AI Chatbot ก็น่าจะได้เห็นกันแน่นอน
แต่แชตบอทของ TikTok จะต่างจากแชตบอทในโลกโซเชียมีเดีย เพราะมีการเชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับเทรนด์ คอนเทนต์ฮิต และแฮชแท็กบน TikTok ได้ เพื่อยังให้ผู้ใช้มีการถามตอบที่เกี่ยวข้องภายในแอปอยู่ รวมถึงจะเชื่อมต่อกับการเสิร์ชเพื่อค้นหาโปรดักต่าง ๆ ได้ด้วย ซึ่งหาก TikTok AI Chatbot ที่ประสบความสำเร็จ ก็นับเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งไม่น้อยกับโซเชียลมีเดีย
ที่มา: https://www.socialmediatoday.com/news/34-predictions-social-media-marketing-2024/697420/