การทำคอนเทนต์ในแบบปกติ หรือรูป เพลง วีดีโอ และตัวหนังสือทั่วไปนั้นอาจจะเป็นการแข่งขันที่เริ่มจะสู้กันยาก เนื่องจากพบเจอได้ทั่วไป เพราะฉะนั้นหลายบริษัทจึงเล็งเห็นช่องทางการทำคอนเทนต์แนวใหม่ๆ ที่มีลูกเล่นมากขึ้น ตื่นตาตื่นใจมากขึ้น ที่สำคัญที่สุดคือต้องเข้าถึงง่ายเหมือนเดิม
Camera Effect นำ AR มาทำให้เป็นเรื่องสนุก
หลายคนคงจำได้ว่าปีก่อนๆ Facebook เองได้มีลูกเล่นต่างๆ เกี่ยวกับกล้องเข้ามาในตัวแอป ไม่ว่าจะเป็นการใส่หน้ากากให้ผู้ใช้งานที่เป็นแบบ real time AR ติดตามหน้าของเรา ฟีเจอร์นี้จริงๆ แล้วเป็นแพลตฟอร์มที่มีชื่อว่า Camera Effect Platform โดยใน 18 เดือนที่ผ่านมามีผู้ใช้งานไปถึง 1,500 ล้านคน
ซึ่งในช่วงหลัง Facebook ก็ได้ออกมาแสดงความจริงจังมากขึ้นกับคอนเทนต์ทั้ง VR (Virtual Reality) และ AR (Augmented Reality) ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวอุปกรณ์ VR ใหม่อย่าง Oculas Quest หรืออัพเดทเพิ่มเติมลูกเล่นเพิ่มเติมในแอปที่มีอยู่แล้ว
เมื่อต้องจริงจังทั้งผู้ใช้งานและนักพัฒนา Spark AR จึงเกิดขึ้น
ล่าสุด Facebook ก็ได้เปิดตัว Spark AR ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเล่นและพัฒนา AR หรือ Augmented Reality อย่างเต็มรูปแบบ โดยเปลี่ยนชื่อมาจาก Camera Effect Platform เดิมนั่นเอง
และนอกจากน้ี Facebook ก็เพิ่มไลน์ AR ไปยัง Instagram อีกด้วย โดยยังมี Spark AR Studio for Mac OS เป็นโปรแกรมสำหรับพัฒนา AR บน Mac OS ซึ่งทั้งหมดยังคงเป็นเวอร์ชั่นเบต้าอยู่
สำหรับรายละเอียดอื่นๆ สามารถเข้าดูได้ที่เพจ SparkARcreators และกลุ่ม Spark AR Community สำหรับการแลกเปลี่ยนข่าวสารของนักพัฒนาอีกด้วย