ปัจจุบันการสร้างคอนเทนต์ไม่ใช่งานอดิเรกอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบทความ การถ่ายรูป การพูดหน้ากล้อง หรือการนำเสนอเนื้อหาในมุมมองที่แปลกใหม่ สิ่งเหล่านี้กลายเป็นธุรกิจที่เป็นแหล่งรายได้หลักของเหล่าครีเอเตอร์ รวมถึงหลายธุรกิจ
แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราจะเห็นว่าหลายแพลตฟอร์มเริ่มปรับให้ครีเอเตอร์สามารถรับการสนับสนุนจากผู้ติดตามได้โดยตรง จากเดิมที่ต้องพึ่งพารายได้จากโฆษณา ซึ่งเราเรียกโมเดลนี้ว่า Subscription Model (ธุรกิจแบบสมัครสมาชิก)
โดยตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดคือธุรกิจครีเอเตอร์ยักษ์ใหญ่อย่าง Netflix และ Spotify โดยผู้ใช้จ่ายค่าบริการรายเดือนเพื่อแลกกับคอนเทนต์คุณภาพสูงและไม่มีโฆษณารบกวน
ทำไม Subscription Model ถึงดีต่อวงการครีเอเตอร์
บริษัทวิจัยด้านการตลาดระดับโลกได้ประมาณการว่า ในปี 2021 ผู้ใช้โซเชียลมีเดียเห็นโฆษณาเฉลี่ยมากถึง 6,000 – 10,000 รายการ เพิ่มขึ้นจากปี 2007 มากถึง 2 เท่า ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเมื่อยอดใช้จ่ายโฆษณาในทุกแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นทุกปี และนักการตลาดก็เก่งมากขึ้นทุกวัน
แต่ผลลัพธ์ของจำนวนโฆษณาที่มหาศาลส่งผลกระทบต่อประสบการณ์ของผู้ใช้อย่างหนัก โฆษณาเข้าไปแทรกในทุกส่วนของวิดีโอ ส่วนท้ายบทความ ตามมุมของรูปภาพ และหากเลวร้ายกว่านั้นคืออาจกระทบเนื้อหาหลักที่ครีเอเตอร์ต้องการสร้างสรรค์
โมเดลแบบสมัครสมาชิกจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างมาก ทั้งเนื้อหาที่คุณภาพสูง ประสบการณ์ที่เป็นมิตร ไม่มีโฆษณารบกวน ทั้งได้สนับสนุนครีเอเตอร์และเนื้อหาที่ตัวเองชื่นชอบ
สำหรับครีเอเตอร์โมเดลสมัครสมาชิกทำให้รายได้สามารถคาดการณ์ได้ จากเดิมต้องคอยลุ้นงานจากเอเจนซี่และธุรกิจ ได้ทดลองสร้างสรรค์เนื้อหาที่คุณภาพสูงขึ้น ได้ลองอัดวิดีโอหรือเขียนบทความยาวๆ ได้ลองมิกซ์แอนด์แมทช์เนื้อหารูปแบบใหม่ โดยมีกลุ่มคนที่พร้อมสนับสนุนและติดตาม
ด้านแพลตฟอร์มก็สนับสนุนระบบสมัครสมาชิกโดยการเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถรับชมเนื้อหาพิเศษจากครีเอเตอร์ได้มากขึ้น
- YouTube เพิ่มระบบ membership
- Twitter เพิ่มฟีเจอร์ Super follow
- Twitch ใช้ระบบ Subscription และ Bits
นอกจากนี้เว็บไซต์ระดับโลกอย่าง Forbes, CNBC, The New York Times ก็ปรับตัวด้วยโมเดลสมัครสมาชิกเช่นกัน
สำหรับ Facebook และ Instagram ที่ได้รับความนิยมลำดับต้นๆ นั้นยังไม่มีระบบสมัครสมาชิก แต่จะเห็นได้ว่าทั้งสองแพลตฟอร์มมีเนื้อหาจำนวนที่มากเกินไปในช่วงที่ผ่านมา ทั้งเนื้อหาจากเพื่อน เพจที่ติดตาม สำนักข่าว ยังไม่รวมถึงโฆษณาที่เข้ามาแทรกหน้าฟีดทุกๆ การเลื่อนหน้าจอลงสองครั้ง
เชื่อว่าอีกไม่นานแพลตฟอร์มทั้งหลายจะต้องเพิ่มตัวเลือกให้ผู้ใช้เลือกโมเดลที่เหมาะกับตัวเองได้ เลือกใช้งานฟรีก็ต้องแลกมาด้วยเนื้อหาทั่วไปและคอนเทนต์โฆษณา แต่หากยอมจ่ายก็จะได้รับเนื้อหาพิเศษจากครีเอเตอร์และประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่า
และสุดท้ายสำหรับครีเอเตอร์ คำถามที่ต้องถามตัวเองก่อนคือ คอนเทนต์ของเรามีคุณค่าและประโยชน์ต่อผู้ติดตามมากแค่ไหน เราสามารถสร้างสรรค์ได้สม่ำเสมอและต่อเนื่องหรือไม่ และผู้ติดตามของเรายอมจ่ายเพื่อสิ่งเหล่านั้นหรือไม่ หากใช่โมเดลสมัครสมาชิกอาจเป็นอนาคตที่ดีสำหรับคุณ
อ้างอิง