News
เมื่อ Video กลายเป็นส่วนสำคัญของ Facebook ตั้งแต่ปี 2007 จนกระทั่งมี Short-video และ Reels เติบโตขึ้นมา ก็ทำให้ Facebook ต้องหาทางสร้างแหล่งรวมคอนเทนต์วิดีโอหลายประเภทนี้ให้อยู่รวมกันมากที่สุด เพื่อแสดงให้เห็นถึงคอมมูนิตี้ของวิดีโออย่างแท้จริง
เพราะผู้คนกว่าพันล้านคนใช้ Facebook และ Instagram ทุก ๆ วันเพื่อแชร์เรื่องราวของตัวเอง และเชื่อมต่อกับผู้อื่น ฉะนั้นการได้เข้าใจหน้าฟีดที่อัลกอกริทึมของ AI เสิร์ฟเรา จะช่วยให้ทำงานกับมันง่ายขึ้น โดยไม่ต้องกดดันตัวเองกับยอดเอ็นเกจเมนต์ที่กำลังลดลงเรื่อย ๆ
หลังจากที่ Meta เริ่มปล่อยโปรแกรม Meta Verified เพื่อให้ครีเอเตอร์ได้มีเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้าหลังชื่อแอคเคาท์ของตัวเองทั้งบน Facebook และ Instagram ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ก็เริ่มขยายการใช้งานไปยังละตินอเมริกาก่อน ส่วนประเทศอื่นมาแน่เร็ว ๆ นี้ (ไทยเตรียมตัวเลย!)
ตั้งแต่ Meta (Facebook และ Instagram) หันไปโฟกัสคอนเทนต์วิดีโอสั้น และอัลกอริทึมของโพสต์ Text ก็ทำให้ยอด Reach และยอด Follower ผันผวนมากขึ้นทุกวัน เพราะต่อให้คอนเทนต์ดีแค่ไหน ถ้าอัลกอริทึมไม่จับก็จบ! ทำให้สื่อ และผู้ผลิตคอนเทนต์เริ่มโวยว่า Facebook บล็อกการมองเห็นข่าวจนลดการมองเห็นไปด้วย
ย้อนไปเมื่อปีที่แล้วที่ทุกแพลตฟอร์มต่างแข่งกันสร้างฟังก์ชัน Short Video หรือวิดีโอสั้นมาแข่งกับ TikTok พร้อมมีเสิร์ฟเครื่องมือ และโปรแกรมต่าง ๆ ช่วยสร้างรายได้ให้กับครีเอเตอร์ แต่สำหรับ Meta ดูจะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเตรียมยกเลิกโปรแกรม Reels Play bonus แล้ว
Facebook ได้เผยรีพอร์ตจาก Q4 ในปี 2022 ว่าผู้คนเห็นอะไรในฟีดบ้าง ซึ่งจะมีทั้งคอนเทนต์ที่ถูกแชร์มา และคอนเทนต์ที่อัลกอริทึมของ Facebook แนะนำ นี่จึงนำไปวิเคราะห์ได้ว่าครีเอเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์ แบรนด์และเอเจนซีควรปรับตัวอย่างไร เพื่อให้เป็นไปตามการเสิร์ฟคอนเทนต์หน้าฟีดของ Facebook
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า