ในช่วงที่แต่ละประเทศต่างเจอพิษเศรษฐกิจแตกต่างกันไป ก็ทำให้มีปัญหาการ Layoff พนักงานครั้งใหญ่เกิดขึ้นมากมาย เพื่อปรับโครงสร้างให้บริษัทสามารถไปต่อได้ เนื่องจากมีรายจ่ายมากกว่ารายรับ ซึ่งช่อง 3 ของไทยก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่แก้ปัญหาด้วยวิธีนี้อยู่
ซึ่งหากเทียบความนิยม และพฤติกรรมของผู้คนในตอนนี้ ก็จะหันไปเสพสื่ออนไลน์บนโทรศัพท์ หรือแล็ปท็อปต่าง ๆ มากกว่าโทรทัศน์แล้ว และเพราะการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้น ก็เลยทำให้มูลค่าของสื่อโทรทัศน์ลดลงไปด้วย
ฝ่ายบริหารองค์กรก็เลยได้มีการเรียกประชุมพนักงานเพื่อแจ้งการปรับโครงสร้างของบริษัท หลังจากไม่เคยทำรายได้ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ ในขณะที่รายจ่ายสูงกว่ารายได้ที่ควรจะได้รับ จึงต้องทำการปรับลดพนักงานเพื่อปรับลดค่าใช้จ่าย 30% ด้วย
โดยผลการดำเนินงานของ บมจ.บีอีซีเวิลด์ ที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คืองวดไตรมาส 2/2567 มีผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทอยู่ที่ 71.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 403.8% จากไตรมาส1/2567 แต่ลดลง 4.6% จากไตรมาส 2/2566 และในงวด 6 เดือน ปี 2567 มีกำไรสุทธิ 85.62 ล้านบาท ขณะที่งวดปี 2566 มีกำไรสุทธิ 210.01 ล้านบาท งวดปี 2565 กำไรสุทธิ 607.03 ล้านบาท และปี 2564 มีกำไรสุทธิ 761 ล้านบาท
แต่การปรับลดพนักงานครั้งนี้เป็นการคำนวณมาจากผลประเมินงานของแต่ละแผนก มากกว่าจะเป็นการให้ยื่นออกโดยสมัครใจ หรือรีไทร์ด้วยตัวเอง โดยหัวหน้าแต่ละแผนกจะส่งชื่อพนักงานที่ถูก Layoff ภายในสิ้นเดือนนี้ ส่วนการ Layoff จะมีผลทันทีในปี 2568
ฝั่งผู้บริหารระดับสูงของ บมจ. บีอีซี เวิลด์ก็กล่าวกับพนักงานผ่าน Townhall เช่นกัน ว่าการตัดสินใจ Layoff พนักงานครั้งใหญ่นี้ ไม่ได้หมายความว่าพนักงานไม่มีความสามารถ แต่เป็นความจำเป็นต่อองค์กรในภาพรวม พร้อมแสดงความเสียใจต่อการตัดสินใจครั้งนี้
ส่วนจำนวนการ Layoff พนักงานยังไม่ได้ระบุว่าจะต้องปรับลดกี่คน หรือค่าตอบแทนสำหรับพนักงานที่ถูก Layoff ก็ยังไม่ชัดเจนนักว่าจะมีการจ่ายเพื่อชดเชยกี่เดือน แต่จะดำเนินการทุกอย่างให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้เพื่อให้พนักงานที่ถูก Layoff มีเวลาเตรียมตัว และตัดสินใจในเส้นทางของตัวเองต่อไป
แต่สรุปในภาพรวมแล้ว คาดว่าเม็ดเงินโฆษณาในสื่อโทรทัศน์ในไตรมาสที่ 2/2567 จะมีการฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ท่ามกลางพิษเศรษฐกิจที่มีทั้งบริษัทรับพนักงานใหม่ หรือ Layoff พนักงานออกไป ซึ่งแต่ละภาคส่วนก็มีการใช้จ่ายที่จำกัดทั้งเรื่องเม็ดเงินโฆษณา หนี้ครัวเรือน และเงินเฟ้อด้วย ซึ่งหลาย ๆ บริษัทก็ต้องแก้ไขปัญหาเพื่อให้ตัวเองยังคงดำเนินธุรกิจไปท่ามกลางสภาวะเหล่านี้
ที่มา: https://www.matichon.co.th/economy/news_4886093?#m36j58af3ek5szxznll