ในโลกของครีเอเตอร์ตอนนี้ ‘iPhone’ นับว่าเป็นอีกอุปกรณ์สำคัญสำหรับการถ่ายทำ และตัดต่อภายในเครื่องเดียวไปแล้ว ซึ่งไม่ได้เป็นเพราะเรื่องของคุณภาพที่ได้มาเพียงอย่างเดียว แต่ต้องยอมรับว่าฟังก์ชันที่หลากหลาย และแอปพลิเคชันที่มีให้สนุกนั้นตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียว ในปีนี้จึงมีการรวบรวม ‘สุดยอดแอปพลิเคชัน’ สำหรับเหล่าครีเอเตอร์มาให้ลองกัน!
FiLMiC Pro
แอปที่เหมาะกับคนที่จริงจังในเรื่องของการถ่ายวิดีโอด้วย iPhone เพราะการควบคุม และตั้งค่าด้วยระบบ Manual แบบมัลติเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการ Focus, Exposure, ISO, Frame Rate, Zoom และอีกมายมายให้ได้ลอง
นอกจากนี้ยังสามารถเลือกสลับแบบรวดเร็วระหว่างโหมด color profiles, HDR modes, ProRes codecs ได้อีกด้วย โดยใครที่ได้ใช้จนโปรแล้วก็คงจะสนุกไม่น้อย ซึ่งมีให้ดาวน์โหลดที่ App Store ในราคา $14.99 เพื่อปลดล็อกฟีเจอร์พิเศษแบบเสียเงินนั่นเอง
DoubleTake
เป็นแอปที่สร้างจากผู้ที่อยู่เบื้องหลังของแอป ‘FiLMiC Pro’ แต่จะแตกต่างตรงที่ให้ผู้ใช้โฟกัสกับการถ่ายด้วย iPhone แบบ 2 เลนส์กล้องในหน้าจอเดียว ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ Apple ไฮไลท์ในการนำเสนอเอาไว้ช่วงที่ปล่อย iPhone 11 Pro ในอีเว้นต์ปี 2019 ด้วย
โดยผู้ใช้สามารถเลือกเลนส์ที่จะใช้ได้ในเวลาเดียวกัน สำหรับโปรเจกต์ที่ต้องใช้ระบบกล้องแบบมัลติ และสามารถดาวน์โหลดได้ใน App Store ราคา $3.99 แบบไม่ต้องจ่ายเพิ่มภายในแอป
Carousel Camera
หากใครอยากใช้งานแอปที่สามารถถ่ายวิดีโอแนวตั้ง และแนวนอนให้ออกมาดูดีได้ในเวลาเดียวกัน สำรหับลงบนโซเชียลมีเดีย ‘Carousel Camera’ นับว่าตอบโจทย์สุด ๆ เพราะสามารถถ่ายวิดีโอทั้ง 2 แนวได้ในครั้งเดียว
โดยแอปนี้ผู้ใช้สามารถเช็คเฟรมจากกรอบสี่เหลี่ยมขนาด 16:9 และ 9:16 ให้เช็คไปด้วยขณะถ่ายได้เลย แถมแอปนี้ยังเปิดให้ดาวน์โหลดฟรีด้วย แต่ถ้าใครอยากได้ฟีเจอร์อื่น ๆ เพิ่มก็จ่ายเพียง $0.99 เท่านั้น
Focos Live
iPhone 13 และ iPhone 13 Pro นั้นมี ‘Portrait Mode’ แต่รุ่นหลังจากนี้ไปไม่มีก็ไม่เป็นไร เพราะ ‘Focos Live’ มีโหมดนี้ให้ดาวน์โหลดมาใช้กันได้ ซึ่งจะมีข้อมูลเชิงลึกของเลนส์กล้องแรร์ของ iPhone รุ่นนั้นด้วย ทำให้สามารถเล่นเอฟเฟ็กต์ blurred background ได้อย่างลื่นไหล เพราะผู้ใช้เลือกฟิลเตอร์ และสีกับเอฟเฟ็กต์ที่หลากหลายมาใช้ได้เลย
แถม Focus Lens ยังทำงานได้ดีกับ TrueDepth camera และ the LiDAR scanner ของ iPhone 12 Pro และ iPad Pro รุ่นล่าสุดด้วยนะ โดยมีให้ดาวน์โหลดฟรี แต่บางฟีเจอร์อาจจะต้องเสียเงินซื้อมาใช้
LumaFusion
ถือว่าเป็นแอปที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในสายตัดต่อคลิป iOS เลยก็ว่าได้ เพราะ ‘LumaFusion’ กลายเป็นแอปที่ต้องมีไปแล้วใน iPad ด้วย แต่เวอร์ชันของ iPhone ก็ยังคงใช้ได้ดีเช่นกัน
โดยแอปนี้สามารถทำงานได้อย่างมัลติ ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอ, เสียง, ภาพ หรือไตเติ้ลแทร็ก ซึ่งจะมีฟีเจอร์ที่แอดวานซ์ให้ได้ลองกันด้วย เสมือนกับกำลังตัดต่อวิดีโอเวอร์ชันเดสก์ท็อปเลยทีเดียว ซึ่งจะมีการ Export สัดส่วนคลิปที่หลากหลายเฟรมเรตด้วย
iMovie
หากใครกำลังมองหาแอปที่ใช้งานง่าย และมีให้เลือกใช้แทบทุกอย่าง ‘iMovie’ ก็นับว่าตอบโจทย์พอสมควร เพราะมีอินเตอร์เฟสที่ใช้งานง่ายมาก เลยสามารถตัดต่อได้ครบจบในที่เดียวบน iPhone นั่นเอง
ไม่ว่าจะเป็นการ crop, cut, adjust speed, และใส่เอฟเฟ็กต์ในวิดีโอโดยมีหลายตัวเลือกให้ใส่ไตเติ้ล, เพลง, ซาวด์เอฟเฟ็กต์ หรือจะเรคอคร์ดเสียงด้วยโหมด ‘Cinematic’ บน iPhone 13 ก็ได้
แอปทั้งหมดที่เลือกมานั้นเป็นเพียงความเห็นหนึ่งจากผู้ที่ใช้งานสำหรับถ่าย และตัดต่อบน iPhone อยู่แล้ว แต่แอปที่ดีก็ยังคงเป็นแอปที่เหมาะมือ และเหมาะกับการใช้งานของคุณมากที่สุด แม้จะไม่ได้มีชื่อติดอยู่ในเช็คลิสต์นี้ก็ตาม
ที่มา และเครดิตภาพ: 9TO5Mac
