ทุกวันนี้หลายคนคงคุ้นเคยกับการใช้งาน TikTok กันอยู่แล้ว แต่หลายคนรวมไปถึงแบรนด์ที่ต้องการใช้ TikTok เป็นช่องทางในการสร้างสรรค์คอนเทนต์อย่างจริงจัง ไปจนถึงการสร้างรายได้บนแพลตฟอร์ม หรือการโปรโมตแบรนด์

อาจยังคงจับทางไม่ถูกว่าจะต้องเริ่มอย่างไรบ้างในการจะสร้างสรรค์วิดีโอขึ้นมาสักตัว วันนี้ RAiNMaker เลยหยิบทิปส์จาก TikTok ที่จะมาไกด์การ Build คลิปวิดีโอสั้นบนแพลตฟอร์มทั้งสำหรับผู้ใช้ใหม่และเก่า

เพื่อให้ได้รู้ว่าบนแพลตฟอร์มมีเครื่องมืออะไรน่าสนใจที่สามารถนำไปใช้ต่อยอดในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้บ้าง ก่อนอื่นเรามาทวนสิ่งที่เป็นพื้นฐานของ TikTok ที่ทุกคนรู้อยู่แล้วกันก่อนดีกว่า

Nature of TikTok

วิดีโอแนวตั้งเต็มจอ

ขนาดวิดีโอบน TikTok คือวิดีโอแนวตั้งเต็มจอ อัตราส่วน 9:16 เท่านั้น! ถึงแม้บนแพลตฟอร์มจะเห็นขนาดวิดีโอที่ไม่พอดีบ้าง นั่นเป็นเพราะอาจจะนำวิดีโอมาจากแพลตฟอร์มอื่น ซึ่งถ้าพูดตามตรงก็ค่อนข้างไม่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายบนแพลตฟอร์มสักเท่าไหร่นัก เมื่อเทียบกับวิดีโอแบบเต็มจอ

วิดีโอกระชับแต่มีเรื่องราว

พยายามทำวิดีโอความยาวประมาณ 21-24 วินาที แต่ไม่ควรต่ำกว่า 10 วินาที

เพิ่มเสียงในวิดีโอเพื่ออรรถรส

เพิ่มเสียงไม่ว่าจะเสียงจากวิดีโอต้นฉบับ เสียงเพลงจากคลังแผ่นเสียงบน TikTok หรือตัดต่อซาวด์แยกใส่เองก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้ก็เพื่อยกระดับประสบการณ์ในการรับชมนั่นเอง ที่สำคัญควรเลือกเสียงให้เหมาะกับวิดีโอด้วย

เอาล่ะ! ทีนี้ก็จะเข้าขั้นตอนการสร้างสรรค์คอนเทนต์กันแล้ว สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ เพิ่งเข้ามาในตลาด TikTok ก็ไม่ต้องกลัว เราจะมาสร้างโลกง่าย ๆ ด้วย 3 ขั้นตอนหลัก เริ่มด้วย

Build a tower

TikTok เปรียบการสร้างคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มสำหรับผู้ใช้ที่เพิ่งเข้ามาใหม่เป็นการสร้างตึก แน่นอนว่ากรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว เพราะฉะนั้นเราเลยต้องค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากการสร้างตึกก่อน

อย่างแรกเมื่อเข้ามาบนแพลตฟอร์มแล้ว ก็ต้องฟังเสียงของผู้ใช้ ครีเอเตอร์ และแบรนด์อื่น ๆ บนแพลตฟอร์มว่าแต่ละส่วนเขาทำอะไร หรือมีธรรมชาติการใช้งานเป็นอย่างไรกันบ้าง เพื่อที่จะไดเเรียนรู้จากตรงนั้นและนำมาปรับใช้กับกลยุทธ์ของตัวเองได้

โดยสามารถเข้าไปดูที่เครื่องมือต่าง ๆ ทั้ง Creative Center เพื่อดูความคิดสร้างสรรค์ต่าง ๆ และเครื่องมือที่จะนำมาใช้ได้

นอกจากนี้ยังสามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องมือ Trend Discovery ในการเช็กว่าอะไรที่กำลังเป็นเทรนด์อยู่ตอนนี้ เพื่อที่จะได้คิดคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องได้นั่นเอง

หรือจะดู Top Ads ว่าแบรนด์อื่นเขาทำอะไรกันบ้างถึงประสบความสำเร็จได้ เพื่อที่จะได้นำมาเป็นกรณีศึกษา และต่อยอดคอนเทนต์ของตัวเองได้ หรือจะเข้าไปดูที่ Creative Insights เพื่อดูว่าแต่ละแบรนด์ใช้ Creative assets อะไรบ้างในกาารสร้างสรรค์คอนเทนต์

ในส่วนของเพลงที่แบรนด์สามารถใช้ได้ก็สามารถเข้าไปหาได้ใน Commercial Audio Library ที่มีเพลงให้เลือกมากกว่า 5 แสนเพลง! สามารถเข้าไปเช็กได้ว่าเพลงไหนที่กำลังเป็นเทรนด์บน TikTok จะได้ตามทันทุกกระแส ส่วนเครื่องมืออื่น ๆ ก็สามารถเข้าไปหาข้อมูลใน Creative Tools ได้เลย

Build a castle

เมื่อพร้อมจะอัปเกรดจากตึกแล้ว ก็มาเตรียมพร้อมสร้างปราสาทกัน! หากได้ลองใช้งาน TikTok มาระยะนึงแล้วก็ต้องมีการขยับขยายเริ่มหารายได้จากวิดีโอ ซึ่งบน TikTok ก็มี 2 ทางเลือกสำหรับแบรนด์ ดังนี้

TikTok Creator Marketplace

ให้แบรนด์ได้ทำงานร่วมกับครีเอเตอร์บนแพลตฟอร์ม ที่มากกว่าการคอลแลบ หรือเรียกว่าเป็นการเรียนรู้ธรรมชาติของ TikTok ว่าจะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจนสามารถเปลี่ยนพวกเขาให้ภักดีต่อแบรนด์ได้อย่างไร

ซึ่ง TikTok Creator Marketplace จะเป็นตัวช่วยให้แบรนด์ค้นหาครีเอเตอร์สำหรับการทำแคมเปญได้ง่ายขึ้น ด้วยความหลากหลายของครีเอเตอร์ ทำให้สามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ออกมาในสไตล์ที่แตกต่างกัน จึงเป็นโอกาสให้แบรนด์มีตัวเลือกมากขึ้นนั่นเอง

TikTok Creative Exchange

ขณะนี้ TikTok ได้ปล่อยโปรแกรม TikTok Creative Exchange เวอร์เบต้าออกมาให้ผู้ใช้บางคนได้ทดลองใช้ เป็นการจับคู่พาร์ตเนอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านครีเอทีฟบนแพลตฟอร์ม เพื่อให้สามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้เสมือนเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มอย่างแท้จริงโดยลดงบประมาณของแบรนด์ ในขณะที่ยังคงคุณภาพของผลงานไว้อยู่

Build a world

เมื่อสร้างตึก สร้างปราสาทกันไปแล้ว ตอนนี้ก็มาถึงขั้นตอนการสร้างโลกบน TikTok กันแล้ว

TikTok Video Editor

ใช้เครื่องมือการตัดต่อทั้งหมดบนแพลตฟอร์ม ผ่าน TikTok Video Editor เพื่อให้คลิปวิดีโอออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุด

Custom Video Templates

มีเท็มเพลตที่แบรนด์สามารถปรับแต่งเองได้มากกว่า 100 แบบ ซึ่งแบรนด์สามารถนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด และเพิ่มสีสันในวิดีโอผ่านเพลง ตัวหนังสือ สี และอื่น ๆ อีกมากมาย

Dynamic Scene

ไม่ใช่ทุกอย่างบน TikTok เริ่มต้นจากศูนย์ ด้วยฟีเจอร์ Dynamic Scene เวอร์ชันอัลฟาที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการทำงานเพื่อรวบรวม Asset ทั้งหมดที่แบรนด์มีให้เป็นรูปแบบใหม่กว่าหลายร้อยแบบ เพื่อให้ทดลองใช้และเลือกไว้ใช้งานในอนาคต

Interactive Add-Ons

ตัวเลือกเพิ่มเติมที่สามารถกดคลิกได้ในโฆษณาหน้าฟีด เช่น สติกเกอร์, Display Cards, การโต้ตอบ และอื่น ๆ เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมบนแพลตฟอร์มมากขึ้น

ที่มา: TikTok For Business