เมื่อวันจันทร์ (16 ส.ค.) ที่ผ่านมาทินเดอร์ได้ประกาศว่าจะมีการพัฒนาการยืนยันตัวตนในแบบ ‘ID Verification’ ที่สามารถใช้งานได้ทั่วโลก และพร้อมใช้งานในไตรมาสหน้า หลังจากที่เคยเปิดตัวฟีเจอร์นี้ไปที่ญี่ปุ่นเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา
โดยทินเดอร์จะพิจารณาคำแนะนำจากทั้งผู้เชี่ยวชาญและสมาชิก ตลอดจนเอกสารที่เหมาะสมในการใช้ยืนยันตัวตนในแต่ละประเทศ รวมไปถึงกฎหมาย และข้อบังคับในท้องถิ่น เพื่อกำหนดการทำงานของฟีเจอร์ดังกล่าว
ทั้งนี้จะเปิดให้ลองใช้งานตามความสมัครใจก่อนในช่วงแรก ยกเว้นในกรณีที่ประเทศนั้น ๆ มีกฎหมายบังคับใช้การยืนยันตัวตนในทันที เพื่อให้แน่ใจว่าวิธีการตรวจสอบนี้จะไม่รุกล้ำความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้แอปพลิเคชันได้มากที่สุด
ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน แต่เรื่องการยืนยันตัวตนค่อนข้างเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและมีรายละเอียดมาก ทินเดอร์จึงทำการทดสอบฟีเจอร์นี้ไปพร้อม ๆ กับการพัฒนา เพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกปลอดภัยและได้รับประโยชน์จากฟีเจอร์ดังกล่าวมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ทินเดอร์ได้พัฒนามากกว่า 10 ฟีเจอร์หลัก ที่ใช้การลงทุนเชิงลึกด้านเทคโนโลยี สนับสนุนให้ผู้ใช้ยืนยันตัวตนเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ และความปลอดภัยในการใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น การยืนยันตัวตนด้วยภาพถ่าย (Photo Verification) และวิดีโอแชต (Face to Face video chat)