แม้โลกการทำงานในปัจจุบันจะมีรูปแบบการสื่อสารที่ง่าย ไม่กี่คลิกก็สามารถเจอคนใหม่ๆ ได้ในโลกออนไลน์ แต่ไม่ใช่สำหรับการหางาน เพราะตัวตนในโลกออนไลน์ของเราอาจไม่ได้บ่งบอกความสามารถ ประสบการณ์การทำงานใดๆ ดังนั้น Bio จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรมีเป็นของตัวเองและอัปเดตอยู่เสมอ
Professional Bio คืออะไร?
ประวัติแบบมืออาชีพแตกต่างจากประวัติโดยทั่วไป โดยจะสั้นและกระชับ บ่งบอกถึงความสามารถ แสดงความโดดเด่น โชว์ประสบการณ์เพื่อให้ง่ายต่อการสื่อสารไปยังคนรู้จัก เพื่อนร่วมอาชีพ และที่สำคัญทรัพยากรบุคคลหรือ HR นั้นเอง
ควรใส่ Professional Bio ที่ไหนบ้าง?
ปัจจุบันมีหลายแพลตฟอร์ม แต่ที่นิยมคือการใส่ไว้ในเว็บไซต์, บล็อก, โปรไฟล์ LinkedIn, Instagram และ Facebook Page ทั้งนี้ต้องปรับโทนและความยาวของประวัติให้เหมาะสมกับแพลตฟอร์มด้วย มาดูกันครับเช็กลิสต์ Bio ที่ดีต้องมีอะไรบ้าง
- ชื่อและนามสกุล
อาจดูเป็นเรื่องปกติทั่วไป แต่บ่อยครั้งที่เรามักมองข้ามรายละเอียดที่ธรรมดาที่สุดนั่นคือชื่อและนามสกุล นอกจากนี้หากมีนามแฝง นามปากกา ธุรกิจ หรือชื่อที่เป็นที่รู้จักก็สามารถใส่ไว้ในวงเล็บด้านหลังชื่อได้
- ตำแหน่งและความรับผิดชอบ
นอกเหนือจากตำแหน่งงานแล้ว ลองใช้พื้นที่ประมาณหนึ่งถึงสองบรรทัดในการอธิบายความรับผิดชอบหลัก ซึ่งในส่วนนี้เราสามารถแสดงความเชี่ยวชาญให้คนอ่านเห็นได้
- พูดถึงความสำเร็จ
สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคนอ่านมาก เพราะเป็นรูปธรรม สามารถนึกภาพตามได้ ลองแชร์ประสบการณ์ความสำเร็จ หรือหมุดหมายสำคัญของเส้นทางอาชีพให้คนอื่นได้เห็น เช่น ความสำเร็จของแคมเปญการตลาด หรือการจัดอีเวนต์สำคัญ
- ระบุเป้าหมายและคุณค่า
หากฝ่ายทรัพยากรบุคคลต้องการเฟ้นหาคนที่มีเป้าหมายเดียวกัน คงเป็นเรื่องง่ายที่เราจะระบุไว้ใน Bio อะไรคือเป้าหมายในอาชีพ? อะไรคือแรงผลักดัน? ความเชื่อ/คุณค่าในเส้นทางอาชีพของเราคืออะไร? สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้องค์กรที่มีคุณค่าตรงกับเราค้นพบเราได้ง่ายยิ่งขึ้น
- อย่าลืมที่จะเพิ่มความเป็นมนุษย์
หากพูดถึงเรื่องการทำงานทั้งหมดคงไม่ผิด แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราเพิ่มองค์ประกอบด้านอื่นๆ เพราะมนุษย์ไม่ได้มีการทำงานเพียงด้านเดียว เรายังมีความชอบ ความสนใจ งานอดิเรก เช่น กีฬา ดนตรี สัตว์เลี้ยง เป็นต้น