ไม่แปลกใจที่ทุกคนจะรู้จักเว็บหรือเพจของตัวเองเป็นอย่างดี ก็แน่หล่ะ เนื่องจากเราเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง เราย่อมรู้อยู่แล้วว่าเว็บของเรามีคนเข้าเท่าไหร่ เพจของเรามี Engagement มากแค่ไหน หรือเราทำอะไรที่เป็นผลดีต่อ SEO บ้าง
แต่อย่าลืมว่า ในสนามรบแล้ว การรู้เขารู้เรา ยังคงเป็นสำนวนที่ใช้ได้เสมอ “อย่ารบ ถ้าเราไม่รู้ว่าเรากำลังรบกับอะไร” ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่สำคัญเลยก็คือ เราต้องรู้ว่าคู่แข่งของเราเป็นใคร มีเว็บไหน และเพจไหนบ้าง (แต่อย่าลืมมองคู่แข่งอื่น ๆ ด้วยบางอย่างเช่นคู่แข่งของ Netflix คือเวลานอน) ซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าคู่แข่งของเราทำอะไรบาง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นที่อยู่หลังบ้านเราไม่อาจรู้ได้ เช่น
- ยอด Engagement
- ยอดการเข้าชมหน้าเว็บ, สถิติการเข้าชม มากกว่าหรือน้อยกว่าของเรา
- ติด SEO ง่ายหรือเปล่า Performance ดีไหม
ไม่ต้องห่วง ทีมงาน RAiNMAKER ไม่ได้จะมาสอนการไปแอบล้วงความลับอะไร แต่ในบทความนี้เ่ราจะพามาดูเคล็ดลับและเทคนิคการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ในการแอบส่องคู่แข่งว่า Performance ของเขาดีแค่ไหน
แอบส่องเพจคู่แข่งด้วย Facebook Pages to Watch
สำหรับวิธีการแรกนี้คนที่ทำเพจก็อาจจะรู้อยู่แล้วว่า Facebook อนุญาตให้เราเลือกเพจที่เราต้องการจะจับตาดู ให้มาอยู่ใน List “Pages to Watch” ได้ โดยเราจะสามารถติดตามยอด Engagement ในแต่ละอาทิตย์ได้
- สำหรับวิธีการก็คือให้เราเข้าไปที่หน้าจัดการเพจของเราบน Web Desktop
- จากนั้นไปที่ Insight ลงมาล่างสุด
- เลือก Add Pages จากนั้นทำการเลือกเพจที่เราอยากจะจับตามอง
โดย Facebook จะทำการจัดลำดับตามจำนวนคนกดไลค์ แต่ก็จะมีตัวเลขที่สำคัญได้แก่
- คนไลค์เพจเพิ่มขึ้นมาแค่ไหน
- อาทิตย์ที่ผ่านมาโพสไปกี่โพส
- มี Engagement เท่าไหร่
- โพสต์ที่ดีที่สุดในสัปดาห์นี้ (This week’s top posts)
ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการติดตามเพจที่เรารู้สึกว่าต้องแข่งกับเขา ซึ่งการรู้นี้น่าจะช่วยให้เราจับเอาวิธีการ, แนวทางต่าง ๆ มาพัฒนาตัวเองได้ อาจจะฟังดูโกงนิด ๆ แต่เอาจริง ๆ ข้อมูลที่ Facebook นำมาแสดงมันก็ Public อยู่แล้ว ไม่ได้เอา Reach หรือเงินที่ใช้ในการ Boostpost มาแสดง ดังนั้น ใช้เถอะ มันเป็นประโยชน์จริง ๆ
SimilarWeb เว็บนี้คนดูเยอะแค่ไหน
ดูฝั่ง Facebook ไปแล้ว ที่นี้มาดูสำหรับคนทำเว็บบ้าง หลายคนอาจจะรู้จัก Google Analytic อยู่แล้ว ซึ่ง Google Analytic จะคอยบอกยอดผู้ใช้, สถิติ รวมถึงกลุ่มผู้เข้าชมของเราว่ามีพฤติกรรมเป็นอย่างไร ทีนี้คงจะดีถ้าเราสามารถดู Analytic ของเว็บคู่แข่งได้
SimilarWeb เป็นเครื่องมือแนว ๆ Google Analytic ที่นอกจากจะเป็นการแสดง Analytic ของเว็บเราแล้วยังแสดงข้อมูลของเว็บอื่น ๆ ด้วย (โห) ซึ่งระดับเลเวลของการรับรู้ก็จะแบ่งออกเป็น 2 ระดับคือ แบบฟรี กับแบบเสียเงิน
- ถ้าแบบฟรี เราจะดูข้อมูลคร่าว ๆ ยอดการเข้าชม Ranking, และ Keyword เด่นต่าง ๆ
- ถ้าแบบเสียเงินจะดูได้ละเอียดมาก รู้ไปยันว่าคนที่เข้ามาดูเป็นคนพวกไหน กลุ่มไหน Keyword เด่นหลายตัว, Referrals และอีกมากมาย
ซึ่งตรงนี้จะไม่อธิบายอะไรมาก เพราะ SimilarWeb เป็น Tools ที่มี Interface ใช้ง่ายพอสมควรอยู่แล้ว รวมถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่มากกว่าแค่การดูข้อมูลคร่าว ๆ ก็จะเป็นแบบเสียเงิน ดังนั้นสามารถไปลองเล่นเองได้ที่ SimilarWeb ส่วนจะซื้อหรือไม่ซื้อหรือจะใช้แค่ฟีเจอร์ฟรี ก็ขึ่นอยู่กับความจำเป็น
Google, Timeline ของเรานั่นแหละ มองในมุมของผู้ใช้
จริงอยู่ที่ว่าการรู้เรื่องราวเบื้องหลังต่าง ๆ จะทำให้เรามองเกมคู่แข่งออก แต่สุดท้ายแล้วอย่าลืมว่า เราอาจจะโฟกัสในมุมมองของคนทำคอนเทนต์มากเกินไป อยากให้มาลองในมุมของคนเสพคอนเทนต์บ้าง
- ในวันนึงเราเห็นโพสต์ของคู่แข่งในลักษณะไหน แบบไหนบ้าง เห็นกี่ครั้ง เพื่อนคนไหนแชร์บ้าง
- เวลา Search Google เว็บคู่แข่งขึ้นมาก่อนเราไหม Keyword ใครดีกว่ากัน
- ในฐานะที่ในเมื่อเราทำเว็บที่มีความคล้ายกับของคู่แข่ง ถ้าไม่นับว่าเป็นเว็บคู่แข่ง เราจะอยากเข้าไปอ่านเว็บเขาไหม ถ้าอยากเพราะอะไร ถ้าไม่อยากเพราะอะไร
- คำถามอีกมากมายที่เกิดจากการสังเกตและมองในมุมมองของคนเสพคอนเทนต์
โดยอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจก็คือ การเอาชื่อเว็บหรือเพจคู่แข่งไป Search ใน Google หรือ Facebook เอง โดยเฉพาะ Facebook ซึ่งจะทำให้เรารู้ว่าคนคิดยังไงกับเพจหรือเว็บของคู่แข่ง ใครแชร์บ้าง
หรือแม้กระทั่งวิธีอย่าง
- การตั้ง Notification ของโพสจากเพจคู่แข่ง
- การตั้งรับ RSS Feed จากเว็บคู่แข่ง
- การรับสมัคร Email Letter
รวมเครื่องมือนักส่องมือโปร
นอกจากมองในมุมของผู้ใช้กันแล้ว ก็มาลองมองในมุมของ Agency ดูบ้าง ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้เป็นเพียงบางตัวที่ถูกเลือกมาใช้เท่านั้น
- Google Alerts เอาไว้แจ้งเตือนเวลาชื่อของคู่แข่ง (หรือเรา) ถูกพูดถึงออนไลน์
- ZocialEye Social Monitoring Tools ที่นำมาประยุกต์ใช้ในการส่องคู่แข่งได้
- ZocialRank ไว้ดู Rainking ในฝั่ง Social ต่าง ๆ
ทั้งหมดนี้ก็จะช่วยให้เราสามารถติดตามการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ได้โดยเฉพาะใครที่ทำเว็บที่ต้องลงคอนเทนต์ค่อนข้างเร็ว ก็สามารถใช้เป็นแจ้งเตือนได้ เช่น “โห เว็บคู่แข่งลงแล้ว แต่เรายังเขียนไม่เสร็จเลย” หรือ “เว็บคู่แข่งลงหลังเรา แต่ทำไมคนแชร์เยอะกว่า”
สุดท้ายแล้วทั้งหมดอยู่กับเราเอง
แน่นอนว่าการเฝ้าติดตามคู่แข่งจะทำให้เรารู้แนวทางต่าง ๆ แต่สุดท้ายแล้ว อยากให้เรามองย้อนกลับไปตั้งแต่วันแรกที่เราทำเว็บนี้ขึ้นมาหรือทำเพจนี้ขึ้นมาว่า เราทำขึ้นมาเพื่ออะไร แล้วสรุปเป้าหมายหรือหน้าที่ของเราคืออะไร อย่างที่ยกตัวอย่างไปตั้งแต่แรก คู่แข่งที่ร้ายกาจที่สุดไม่ใช่ เว็บ หรือเพจ หรือแชแนลที่เหมือนเรา แต่มันคือปัญหาที่เราต้องการอยากจะแก้ตั้งแต่ตอนแรกต่างหาก เราอาจจะทำเพจเพราะอยากแชร์ความรู้, อาจจะทำเพจเพราะอยากให้คนได้สนุกสาน อาจจะทำเว็บเพื่อให้คนหันมาสนใจในเรื่องที่เราอยากจะเล่ามากขึ้น แล้วศัตรูของเราคืออะไรเมื่อเราสามารถ Define สิ่งนี้ได้อย่างแน่ชัดแล้ว ที่เหลือ ก็คงเป็นแค่เรื่องรอง
เรียบเรียงโดย ทีมงาน RAiNMAKER
