AwardAwardsSocial

Avatar

Thesky March 11, 2024

สรุปไฮไลต์เทรนด์ และไวรัลจากงานภาพยนตร์โลก OSCARS ครั้งที่ 96 ปี 2024

สิ้นสุดการรอคอยผลประกาศรางวัลภาพยนตร์ที่ทั้งโลกจับตามองกันไปแล้วอย่าง “96th Oscars 2024” ซึงในปีนี้ก็มีภาพยนตร์หลากหลายแนวมาให้เลือกชมกัน แต่แน่นอนว่าถึงจะหลากหลายแค่ไหน แต่ Message ที่กลายเป็นเทรนด์ และสื่อสารให้กับคนทั่วโลกได้รู้ก็ทำให้น่าจดจำไม่แพ้กัน วันนี้ RAiNMaker จะมาสรุปให้ว่ามีเทรนด์ไหนน่าติดตามบ้าง

หากเวทีออสการ์เคยผลักดันรางวัลให้กับความหลากหลายทางเชื้อชาติที่ภาพยนตร์อย่าง “Parasite” ของบงจุนโฮ ผู้กำกับชาวเกาหลีใต้ และ “Everything Everywhere All at Once” ของ Daniel Kwan และ Daniel Scheinert ที่มีใจความสำคัญเกี่ยวกับครอบครัวชาวเอเชียน รวมถึงโชว์จาก Bollywood เพลง “NAATU NAATU” จากภาพยนตร์เรื่อง “RRR” ของอินเดีย

ปีนี้ก็คงเป็นปีแห่งการนำเสนอถึงภาพยนตร์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ และการยอมรับตัวเอง (Self-acceptance) ที่มีภาพยนตร์ และสารคดีแห่งปีหลายเรื่องเข้าชิงออสการ์ได้นำเสนอมา ไม่ว่าจะเป็น Oppenheimer, 20 Days in Mariupol, Killers of the Flower Moon, The Zone of Interest, Napoleon, Barbie หรือ Poor Things แต่จะมีเทรนด์ไหนจากภาพยนตร์ที่น่าจับตามองให้เป็นนอร์ม หรือเรื่องราวที่ฝากไว้ให้คิดกับสังคมยุคนี้ต่อไป มาดู!

History Film

  • Oppenheimer – Christopher Nolan
  • 20 Days in Mariupol – Mstyslav Chernov
  • Killers of the Flower Moon – Martin Scorsese
  • The Zone of Interest – Jonathan Glazer
  • Napoleon – Ridley Scott

เวทีออสการ์ในปีนี้นับเป็นปีแห่งภาพยนตร์ประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้ ซึ่ง “Oppenheimer” ภาพยนตร์ว่าด้วยเรื่องของ เจ. โรเบิร์ต ออปเพนไฮเมอร์ บิดาแห่งระเบิดปรมาณูของเสด็จพ่อโนแลนก็ได้คว้ารางวัล “Best Picture” ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปีไปครอง

แต่ไม่ได้มีแค่นั้นเพราะประวัติศาสตร์ที่ว่าก็มีไปถึงยุคนโปเลียนในภาพยนตร์เรื่อง “Napoleon” กับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในยุคปฏิวัติฝรั่งเศส หรือจะเป็น “Killers of the Flower Moon” กับภาพยนตร์ที่ทวงความยุติธรรมให้ชาวอินเดียนแดง

ตามมาด้วย “The Zone of Interest” ภาพยนตร์ที่แสดงให้เห็นถึงความคิดแบบนาซีที่ลดทอนความเป็นมนุษย์ด้วยกันเอง และสุดท้ายกับ “20 Days in Mariupol” สารคดีลงพื้นที่เมืองมารีอูปอลในยูเครนที่ถูกโจมตีจากรัสเซีย

ซึ่งแม้จะมีหลายเรื่องราวในประวัติศาสตร์ที่ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เยอะกว่าทุกปี แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเรื่องราวประวัติศาสตร์เหล่านี้ ทำให้ผู้ชมหวนนึกถึงความทรงจำที่สร้างความเปลี่ยนแปลงไว้มากมายกว่าจะมาถึงยุคนี้ เพราะบางประวัติศาสตร์ที่น่าถูกบันทึกมา ก็ไม่ได้น่าจารึกไว้อย่างที่ควรจะเป็นแล้ว

Peace for The World

  • 20 Days in Mariupol – Mstyslav Chernov
  • The Zone of Interest – Jonathan Glazer

ทั้ง 20 Days in Mariupol สารคดีที่ทั้งผู้กำกับอย่าง Mstyslav Chernov และทีมไปลงพื้นที่เมืองมารีอูปอลของยูเครนที่ถูกรัสเซียโจมตี และ The Zone of Interest ที่พาผู้ชมย้อนไปยังยุคประวัติศาสตร์นาซีที่เยอรมัน สะท้อนแนวคิดผู้นำแบบ ‘Heil Hitler’ กันอีกครั้ง

เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับยุคสงครามเหมือนกัน และแสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายของมันได้เป็นอย่างดีว่าส่งผลกระทบต่อความเป็นมนุษย์ โลก และทิ้งเป็นความทรงจำอันเลวร้ายให้กับใครไว้บ้าง ซึ่ง 20 Days in Mariupol ก็บันทึกภาพจากเหตุการณ์จริงที่ไปลงพื้นที่ถ่ายออกมาเป็นสารคดีให้ได้เห็นกัน

และแม้ The Zone of Interest จะใช้วิธีเล่าผ่านวิมานอันแสนสุขของครอบครัวนาซี โดยมีพื้นหลังเป็นเสียงกรีดร้อง และเสียงยิงปืนที่ทหารนาซีสังหารชาวยิวอยู่ทุกวัน เพราะความแตกต่างทางเชื้อชาติ

แต่ก็เป็นภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่องที่สะท้อนแนวคิดความโหดร้ายของสงคราม ทั้งสงครามที่กำลังปะทุอยู่ไม่ว่าจะเป็นสงครามรูปแบบไหน หรือความขัดแย้งระหว่างประเทศอย่างไร ก็หวังให้ภาพยนตร์เป็นอุทาหรณ์ว่าไม่ควรมีใคร หรือเชื้อชาติไหนต้องถูกลดทอนความเป็นมนุษย์อีก

อย่างที่ผู้กำกับ Mstyslav Chernov กล่าวไว้บนเวทีออสการ์หลังได้รับรางวัลครั้งแรกของยูเครนว่า “I’m honored, but I will probably be the first director on this stage to say I wish I’d never made this film.”

Self-acceptance

  • Barbie – Greta Gerwig (I’m Just Ken – Ryan Gosling, What Was I Made For – Billie Eilish)
  • Poor Things – Yorgos Lanthimos

ในโลกที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทั้งเทรนด์ เทคโนโลยี และผู้คนที่เติบโตและเปลี่ยนไปในทุกวัน แน่นอนว่าก็ต้องเจอกับความไม่แน่นอน และเสียความเป็นตัวเองกันบ้าง หรือไม่ก็อาจจะลืมความฝัน ทั้งสิ่งที่อยากทำ และสิ่งที่อยากจะเป็นออกไปด้วย

ภาพยนตร์ทั้ง “Barbie” และ “Poor Things” รวมถึงเพลงในภาพยนตร์เรื่อง Barbie อย่าง I’m Just Ken – Ryan Gosling, What Was I Made For – Billie Eilish จึงช่วยสะท้อนแนวคิดการโอบรับการเป็นตัวเองทั้งอารมณ์ และความรู้สึกที่อยากจะรู้สึก ทำในสิ่งที่อยากทำ ตั้งคำถามในสิ่งที่อยากรู้ และหาคำตอบในสิ่งที่สงสัย เพราะบางครั้งการใช้ชีวิตก็ต้องหยุดคิด และใช้หัวใจนำทางบ้าง

และแม้ทั้ง 2 เรื่องจะมีมู้ดโทน และการเล่าเรื่องที่สร้างโลกให้ผู้ชมเข้าไปสำรวจแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ Message สำคัญที่ถูกนำเสนอออกมาก็น่าจะพอให้ผู้ชมหลาย ๆ คนได้คิดทบทวน และหันกลับไปโฟกัสกับตัวเองมากขึ้น นี่จึงเป็นอีกเทรนด์ที่ถือว่าเข้าถึงกับผู้คนได้ไม่ยาก

Japan Effect

  • Godzilla Minus One – Takashi Yamazaki
  • The Boy and the Heron – Hayao Miyazaki

หากปีก่อนเป็นปีที่เวทีออสการ์ให้ความสนใจกับหลากหลายเชื้อชาติในการได้เป็นผู้ชนะรางวัล ปีนี้ก็คงเป็นปีที่ญี่ปุ่นมาแรงแซงทางโค้งอย่างม้ามืดเลยก็ว่าได้ อย่าง “Godzilla Minus One” ภาพยนตร์ที่นำเสนอถึงความพังพินาศของญี่ปุ่นที่มาจากการบุกของก็อตสิล่า และ “The Boy and the Heron” เรื่องของเด็กชายที่สูญเสียแม่ไปจากเหตุเพลิงไหม้กรุงโตเกียวช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้พบกับโลกใบใหม่หลังเจอกับนกกระสาพูดได้ที่บ้านใหม่ในชนบทของพ่อจาก Studio Gibli

ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารางวัลสาขา “Best visual effects” และ “Best animated feature” ก็มีตัวเต็งเป็นคู่แข่งที่คิดว่าจะได้รางวัลอยู่ แต่เพราะความสามารถอันโดดเด่นของญี่ปุ่นที่ตราตรึงใจผู้ชมได้ทั้งวิชวลเอฟเฟกต์ในงานภาพ และเรื่องราวที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้ง 2 เรื่องก็สามารถกลายเป็นผู้ชนะเวทีออสการ์ในปีนี้ได้

Streaming Media

  • Netflix: The Wonderful Story of Henry Sugar – Wes Anderson

เป็นอีกปีที่เวทีออสการ์ให้รางวัลกับภาพยนตร์บนสตรีมมิง ซึ่งปีก่อน “All Quiet on the Western Front” ก็ได้คว้ารางวัลทั้ง รางวัล Best International Feature Film, Best Cinematography, Best Production Design และ Best Original Score ไปครอง

ส่วนปีนี้ก็มี “The Wonderful Story of Henry Sugar” ภาพยนตร์สั้น 37 นาที การันตีงานภาพสีลูกกวาด และเรื่องราวสุดแปลกตามสไตล์ Wes Anderson จนคว้ารางวัลสาขา Best live action short หรือภาพยนตร์ขนาดสั้นยอดเยี่ยมไปครองได้ ซึ่งนับเป็นรางวัลออสการ์ครั้งแรกของเขาด้วย

โดยเป็นเรื่องราวของ Henry Sugar ที่แสดงโดย Benedict Cumberbatch มาสู่บทเศรษฐีนักพนันตลกหน้าตายที่เจอรายงานการแพทย์ และได้ฝึกฝนวิชามองทะลุสิ่งของเพื่อนำมาโกงไพ่ เรียกได้ว่าเป็นอีกงานคราฟต์ฝั่งสตรีมมิงที่ควรค่าแก่การได้รับรางวัล

ที่มา: https://www.yahoo.com/entertainment/oscars-2024-best-moments-oppenheimer-im-just-ken-emma-stone-john-cena-kimmel-trump-ceasefire-protests-040003378.html?guccounter=1&guce_referrer=aHR0cHM6Ly93d3cuZ29vZ2xlLmNvbS8&guce_referrer_sig=AQAAACv2NGrmsn0JSX_6einN7Y1VDRQyzRnUWmcfhSyWL9VkXT7CwbOcJktFieW5jQlK9bEqu4GTnke57FRqLeRR_r3vZBbo6ulT9oDc7_Gh4kbu2b8tiPxW4eMc7wtJfggbmsPBeT7zFMv7roRQ1MFEZhg9X0K_pk1NvpjGGks_vDEB

https://www.vulture.com/article/oscars-2024-full-winners-list.html

Copyright © 2024 RAiNMaker. All rights reserved.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save