ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเครื่องหมายถูกยืนยันตัวตน (Verified Badge) บนโซเชียลมีเดีย เป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อย เพราะมันสามารถช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แบรนด์และองค์กรได้เป็นอย่างดี แต่การจะทำให้บัญชีของแบรนด์และองค์กรมีมูลค่ามากขึ้นอาจต้องแลกมากับเงิน เพื่อรักษาเครื่องหมายนั้นไว้
อย่างที่ตอนนี้ Twitter ได้พิจารณาแพ็กเกจใหม่สำหรับแบรนด์และองค์กร ที่จะเรียกเก็บเงินจำนวน 1,000 ดอลลาร์ เพื่อแลกกับเครื่องหมายถูกสีทอง (Gold Checkmark) รวมถึงให้แบรนด์สามารถยืนยันตัวตนพนักงานที่เกี่ยวข้องได้โดยโลโก้ของแบรนด์ที่จะขึ้นอยู่บนหน้าโปรไฟล์ แต่แบรนด์จะต้องจ่ายเงินเพิ่ม 50 ดอลลาร์ต่อจำนวนพนักงานที่เพิ่มเข้ามา
ซึ่ง Twitter ยังไม่ได้ล็อกราคาแพ็กเกจอย่างแน่ชัด และนี่อาจเป็นเพียงการทดลองตลาดเพื่อสังเกตปฏิกิริยาของเหล่าแบรนด์และองค์กรก็เป็นได้ แต่ในราคา 12,000 ดอลลาร์ต่อปี อาจฟังดูเป็นเงินที่มากเกินไปเมื่อเทียบกับเครื่องหมายถูกที่ได้รับ และคาดว่าหลายแบรนด์และองค์กรเองอาจไม่สู้กับราคานี้
ก่อนหน้านี้ก็มีกรณีของ Twitter Blue ที่เรียกเก็บค่าสมาชิกรายเดือในราคา 20 ดอลลาร์เพื่อให้ได้เครื่องหมายถูกสีฟ้า (Blue Checkmark) ซึ่งก็มีเสียงวิจารณ์มากมายเห็นด้วยว่าไม่เหมาะสม หลังจากนั้น อีลอน มัสก์ จึงลดปรับราคาเหลือเพียง 8 ดอลลาร์ พร้อมแนบมีมว่าราคาเท่ากับกาแฟ Starbucks แก้วเดียวที่กินหมดภายใน 30 นาทีเสียอีก
แต่สำหรับเครื่องหมายถูกสีทองที่ต้องจ่ายถึง 1,000 ดอลลาร์ต่อเดือน ถือว่าเป็นเงินจำนวนไม่น้อย แถมมัสก์เองก็ไม่ได้มีการระบุชัดเจนว่าผลประโยชน์อื่น ๆ ที่แบรนด์และองค์กรจะได้จากการจ่ายเงินจำนวนเท่านี้คืออะไรบ้างนอกจากเครื่องหมายถูกสีทอง
เดิมทีเครื่องหมายยืนยันตัวตนจะค่อนข้างมีความเอ็กซ์คลูซีฟ เพราะไม่ใช่ว่าใครก็ได้ที่จะสามารถมีเครื่องหมายดังกล่าว แต่สำหรับตอนนี้กลายเป็นทุกคนที่มีเงินก็สามารถจ่ายเพื่อเอามาได้แล้ว เพราะฉะนั้นตอนนี้คุณค่าที่แท้จริงของเครื่องหมายถูกคืออะไรกันแน่?
ดีไม่ดีอาจได้เห็นบางองค์กรที่เกี่ยวข้องกับธรกิจสีเทาแอบแฝงตัวอยู่ภายใต้เครื่องหมายถูกสีทองก็เป็นได้ ในขณะนี้ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าฟีดแบ็กจะเป็นไปในทิศทางใด แต่คาดว่าแบรนด์และองค์กรส่วนใหญ่คงเลือกที่จะเบรกไว้ก่อนมากกว่า
ที่มา: SocialMediaToday