หลังจากที่ทวิตเตอร์ได้ปล่อยฟีเจอร์ใหม่อย่าง Twitter Spaces ออกมา ก็เป็นที่ฮือฮาว่าจะมาเป็นคู่แข่งตัวจริงของ Clubhouse หรือไม่ แต่เนื่องจากตอนนี้ Spaces ยังไม่ได้เปิดให้ใช้งานแบบเต็มรูปแบบ แถมทางด้าน Clubhouse เองก็ยังมีข้อจำกัดตรงยังไม่เข้าถึงผู้ใช้แอนดรอยด์
วันนี้ทาง RAiNMaker เลยลองรวบรวมฟีเจอร์เท่าที่เห็นในตอนนี้มาลองเทียบให้เห็นกันให้เห็นชัดๆ เพื่อให้ทุกคนได้ลองไปเล่น หรือเลือกใช้ให้ตอบโจทย์ตามสไตล์ของตัวเองกันค่ะ
Twitter Spaces
- สามารถใช้งานได้ทั้งบน iOS และ Android
- เข้าถึงได้จากแอปพลิเคชัน Twitter โดยสามารถกดสร้างห้องโดยการกดปุ่มทวีตค้างไว้แล้วเลือก Spaces
- แสดงคนที่กำลังใช้งาน Spaces อยู่ในส่วนของ Fleets
- มีลิงก์แชร์ห้องได้
- กดปุ่ม Request เพื่อส่งคำขอให้ Host รับขึ้นไปเป็นสปีกเกอร์ แต่ไม่มีแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาชัดเจนเมื่อมีคน Request ขอขึ้นมาเป็นสปีกเกอร์ เพียงแค่ขึ้นจุดสีฟ้าหน้ารูปโปรไฟล์เท่านั้น
- เชิญสปีกเกอร์ได้สูงสุด 10 คน
- แสดงฟีดแบ็กได้โดยการส่งอีโมจิ บนรูปโปรไฟล์ขณะที่ฟังอยู่ มี 6 อีโมจิ
- สามารถเลือกสร้างห้องและเชิญคนเข้าร่วมจาก ทุกคน (Everyone), คนที่คุณติดตาม (People you follow) หรือ เฉพาะคนที่คุณเชิญให้เป็นสปีกเกอร์เท่านั้น (Only people you invite to speak) โดยสามารถส่งคำเชิญผ่านทาง Direct Message
- มีฟีเจอร์ Live Transcriptions ที่สามารถถอดคำพูดเป็นตัวหนังสือได้ แต่ยังรองรับแค่ภาษาอังกฤษเท่านั้น
- เหมาะกับ Q&A เพราะ Host สามารถเลือกปักหมุดทวีตไว้ด้านบนสุดของห้องได้
- ไม่จำกัดจำนวนผู้ฟังในห้อง
- ตอนนี้ Host หรือคนที่สามารถสร้างห้องได้ ยังเป็นคนที่ทางทวิตเตอร์เชิญเท่านั้น แต่ทุกคนสามารถเป็นคนฟังได้
- ไม่มีการแบ่งส่วนของ Host, Speakers และ Listener อย่างชัดเจน ทำให้ดูภาพรวมค่อนข้างยากว่าใครกำลังพูดอยู่ และไม่มีเรียงคนเข้าห้องก่อน-หลัง
- กดปิดไมค์ได้ แต่ไม่แสดงปุ่ม Mute
Clubhouse
- สามารถใช้งานได้แค่บน iOS
- ต้องโหลดแอปพลิเคชัน และได้รับ Invite ถึงจะใช้งานได้
- สามารถเห็นว่าคนที่เราติดตามกำลังฟังห้องไหนอยู่
- มีแจ้งเตือนเมื่อคนที่เราติดตามสร้างห้อง เป็นสปีกเกอร์ และเห็นบนหน้าฟีดว่ากำลังฟังห้องไหนอยู่
- มีลิงก์แชร์ห้องได้
- กดยกมือ เพื่อส่งคำขอให้ Moderator รับขึ้นไปเป็นสปีกเกอร์ และมีแจ้งเตือนขึ้นชัดเจนเมื่อมีคนยกมือ
- ไม่จำกัดสปีกเกอร์
- ไม่สามารถแสดงฟีดแบ็กได้
- สามารถเลือกสร้างห้องและเชิญคนเข้าร่วมจาก แบบเปิดให้ทุกคน (Open), เฉพาะคนที่ติดตาม (Social) และปิดให้เฉพาะคนที่เชิญ (Closed)
- มีความ Exclusive มากกว่า
- ทุกคนสามารถเป็น Moderator ได้
- จำกัดจำนวนผู้ฟังในห้องอยู่ที่ประมาณ 8,000 คน
- มีการแบ่งส่วนของ Moderator/Speaker, Followed by Speakers และ Others in the room ในห้องชัดเจน และเรียงลำดับคนเข้าห้องก่อน-หลัง
- ขึ้นปุ่ม Mute เมื่อกดปิดไมค์
- Ping ให้เพื่อนเข้ามาฟังได้
- เห็นห้องที่กำหนดเวลาไว้
- สร้างคลับได้
ที่มา : Ad Addict