บางครั้งในแวดวงคอนเทนต์ครีเอเตอร์ก็อาจไม่ต้องสร้างสิ่งใหม่เสมอไป แต่ต้องรู้ว่าอะไรควรนำมาประยุกต์ใหม่เพื่อเลี้ยงเอ็นเกจเมนต์ได้บ้างด้วย RAiNMaker เลยอยากมาแชร์เทคนิค Evergreen Content ที่จะทำให้คอนเทนต์ที่มีสร้างอิมแพค และนำมาลงซ้ำได้อย่างยั่งยืนเพิ่มกัน
Evergreen Content คือ การสร้างคอนเทนต์เรียกทราฟฟิก (Traffic) และนำมาลงซ้ำเพื่อรันยอดเอ็นเกจเมนต์ต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งไม่สำคัญว่าคอนเทนต์นั้นจะลงมานานแค่ไหน แต่ใจความสำคัญ และประโยชน์ของคอนเทนต์นั้น ๆ ยังคงใช้ได้กับทุกยุคเสมอ
เพราะแม้เราจะเป็นผู้สร้างคอนเทนต์ในฐานะครีเอเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์ แบรนด์และเอเจนซี หรือครีเอทีฟก็ตาม ก็ควรเรียนรู้วิธีการทำคอนเทนต์ที่ยั่งยืนในระยะยาวเอาไว้ด้วย
การเลือกคอนเทนต์
ทุกคอนเทนต์ที่ทำอาจจะมีประโยชน์หมด แต่จะมีแค่บางคอนเทนต์เท่านั้นที่ยังคงตามเทรนด์ และนำมาอ่านวนซ้ำ ๆ ได้ทุกยุคทุกสมัย ดึงความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้เสมอ ฉะนั้นเทคนิคการเลือกคอนเทนต์จึงสำคัญมาก เพราะต้องสร้างเอ็นเกจเมนต์ และทราฟฟิกให้ดีขึ้นได้เหมือนอย่างเคย
- คอนเทนต์ที่เนื้อหามีประโยชน์กับทุกยุค
- คอนเทนต์ที่แนวโน้มการเสิร์ชเพิ่มขึ้น
- คอนเทนต์ที่สดใหม่ตลอดเวลา
ประเภท Evergreen Content
เพราะคอนเทนต์มีประโยชน์อย่างเดียวอาจไม่พอ แต่ควรมีทริก ทิป หรือเคล็ดลับเป็นเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับกลุ่มเป้าหมายของเราได้ตักตวงประโยชน์จากคอนเทนต์ให้มากที่สุดด้วย ซึ่งไม่จำกัดประเภทว่าต้องเป็นภาพ หรือ แค่ข้อความเท่านั้น เพราะวิดีโอที่ดีก็สามารถเป็น Evergreen Content ได้เหมือนกัน
- How-to, Tips, Guide
คอนเทนต์ที่เป็นทิป ไกด์ หรือสเต็ปขั้นตอนในการปฏิบัติต่าง ๆ มักจะเรียกยอดเอ็นเกจได้เยอะ เพราะทำให้กลุ่มเป้าหมายได้รู้ว่าควรมี Action ยังไง
- FAQs
การสำรวจ (Survey) คำถามหรือข้อสงสัยของกลุ่มเป้าหมายที่มีต่อเราก่อนนั้น จะช่วยไกด์แนวทางให้รู้ว่าเราควรโฟกัสคอนเทนต์ไปทางไหน ถึงจะตอบโจทย์ต่อพวกเขามากที่สุด โดยแนะนำตัวช่วยเข้าเสริมด้วย
- Case Studies
กรณีศึกษาต่าง ๆ เป็นคอนเทนต์ที่ทำสร้างแรงบันดาลใจ และเห็นกระบวนการ แนวคิดครีเอทีฟของทุกอย่างได้มากที่สุด ฉะนั้นการมีคอนเทนต์ประเภทนี้จึงช่วยให้กลุ่มเป้าหมายได้เรียนรู้ และได้รับจากประโยชน์เคสต่าง ๆ เพื่อนำไปต่อยอดเอง
- Product Reviews
เมื่อเรามีสินค้า บริการหรือเรื่องราวต่าง ๆ ที่ต้องการเปรียบเทียบ หาข้อดีข้อเสีย หรืออยากชี้แจงข้อดีที่กลุ่มเป้าหมายควรรู้ คอนเทนต์การรีวิวจึงเหมาะสมมาก เพราะหากมีสินค้าอะไรที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้มาหมายของเรา ก็จะทำให้ได้รับเอ็นเกจเมนต์มากขึ้น
- List Content
คอนเทนต์ที่เป็นเช็กลิสต์ มักจะได้รับความนิยมเสมอ เพราะอ่านง่าย ย่อยง่าย และเข้าใจง่ายด้วย โดยส่วนใหญ่จะใช้กับคอนเทนต์ที่มีข้อปฏิบัติ หรือข้อที่ควรรู้แบบสรุปได้ และสามารถประยุกต์ใช้กับ How-To คอนเทนต์ด้วย
รวม Keyword หัวข้อคอนเทนต์
นอกจากประเภทของคอนเทนต์ที่สามารถนำมาลงใหม่เพื่อเอ็นเกจเมนต์ที่ยั่งยืนแล้ว การเลือกใช้คีย์เวิร์ดสำหรับตั้งชื่อหัวข้อคอนเทนต์ก็สำคัญนะ เพราะจะเป็นตัวดึงดูดให้ทั้งกลุ่มเป้าหมายของเรา และกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ เข้ามาอ่าน หรือดูคอนเทนต์ด้วย
ฉะนั้นชื่ออาจจะเน้นไปที่การแนะนำ หรือตั้งคำถามที่ทุกคนอยากได้คำตอบเหมือนกันไว้ก่อน เพราะเกริ่นไว้ให้รู้ว่าในคอนเทนต์ของเราถ้าเข้ามามีส่วนร่วมด้วย จะหาคำตอบเรื่องนั้น ๆ และได้ทริกกลับไปแน่นอน
- ทำไม…ถึง…
- ควรทำ…ตอนไหน
- รวม…
- แจก…
- แชร์…
- เช็กลิสต์…
- Do and Don’t
- อัปเดต…
- รีวิว…
- กรณีศึกษาของ…
- รวม xx ทิปสำหรับ…
6 Steps การทำ Evergreen Content
สำหรับครีเอเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์ แบรนด์และเอเจนซีไหนเป็นหน้าใหม่ในการทำ Evergreen Content ก็ไม่เป็นไร เพราะเรามีขั้นตอนมาให้แล้วว่าควรเริ่มจากตรงไหน โดยสามารถทำตาม 6 ขั้นตอนด้านล่างนี้ได้เลย
เสิร์ชหาคอนเทนต์ด้วยคีย์เวิร์ดที่ SEO ดี
คอนเทนต์ที่ดีต้องมีทราฟฟิกที่ดีด้วย โดยเฉพาะคำที่กลุ่มเป้าหมายของเรามักจะเสิร์ชบนเว็บไซต์ หรือหน้า Google บ่อย ๆ เพราะจะพิศุจน์ได้ว่าคอนเทนต์นั้นไม่เคยเก่า และมีคนค้นหาอยู่เสมอ ฉะนั้นคอนเทนต์ที่ SEO ดีอยู่แล้วจึงเหมาะนำมาทำ Evergreen Content มาก ๆ
เลือกหัวข้อที่รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายชอบ หรือสนใจ
แม้คอนเทนต์จะมีหลากหลายรูปแบบ และหลากหลายประเภทอยู่ในที่เดียวกัน แต่ต้องมีสักแบบที่กลุ่มเป้าหมายของเราชอบ และลงไปเท่าไหร่ก็สร้างเอ็นเกจเมนต์ได้ดี และหากจะคงไว้ซึ่งความสม่ำเสมอ ก็ควรเลือกหัวข้อนั้น ๆ มาลงซ้ำใหม่ได้
แตกย่อยหัวข้อจากคอนเทนต์แล้วนำมาเรียบเรียงใหม่
การลง Evergreen Content ไม่ใช่การ Reuse คอนเทนต์ เป็นการเรียบเรียง และ Re-write ใหม่เพื่อสร้างคุณค่าให้คอนเทนต์นั้นมากกว่าเดิม ซึ่งสามารถแตกประเด็นจากหัวข้อคอนเทนต์ออกมาประยุกต์ให้เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบันได้นั่นเอง
ส่วนคอนเทนต์ประเภทวิดีโอที่ยังคิดว่าไม่เคยเอาท์ ก็สามารถนำมาลงใหม่ แต่สร้างคุณค่าด้วยแคปชัน หรือตัดต่อเพิ่มเติมให้เข้ากับสถานการณ์ในตอนนั้น ๆ มากขึ้นก็ได้เช่นกัน
คัดกรองส่วนที่เป็นข้อมูลเก่าออก
โดยปกติในการทำคอนเทนต์มักจะมีเรื่องของช่วงเวลา และเหตุการณ์ในตอนนั้นที่ถ่ายทอดผ่านการเขียน หรือคอนเทนต์วิดีโอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ฉะนั้นการนำมาแปลงเป็น Evergreen Content จะต้องนำข้อมูลเก่าออกไป และแทนที่ด้วยข้อมูลที่อัปเดตแล้ว
ปรับคอนเทนต์ให้เข้ากับเทรนด์ปัจจุบันมากขึ้น
การปรับคอนเทนต์ให้เข้ากับเทรนด์ปัจจุบัน อาจจะเพิ่มเติมในส่วนของการยกตัวอย่าง มีกรณีศึกษา (Case Study) หรือเพิ่มสีสันให้กับคอนเทนต์มีคุณค่ามากขึ้น เพราะไม่ควรลงคอนเทนต์แบบเดิมซ้ำ ๆ เพราะอาจทำให้การเสิร์ชเพื่อดูคอนเทนต์ย้อนหลังจำเจได้
แชร์คอนเทนต์พร้อมแฮชแท็กที่เกี่ยวข้อง
แฮชแท็กเปรียบเสมือนบ้านของคอนเทนต์ โดยเราจะต้องเลือกบ้านให้กับคอนเทนต์แต่ละประเภทให้ถูกต้อง เพื่อที่กลุ่มเป้าหมายจะได้มองเห็นมากขึ้น และอยู่ในคอมมูนิตี้ที่ต้องการด้วย เพราะผู้คนมักจะใช้การเสิร์ชในการค้นหาคอนเทนต์ใหม่ ๆ เป็นทุนเดิมอยู่แล้วนั่นเอง
อ้างอิง: SOCIALCHAMP
