News

Avatar

Thesky October 12, 2022

อัปเดตเทรนด์ Nano Influencer 2022 สำหรับแบรนด์ ! พร้อมการใช้ Affiliate Marketing บนโซเชียล

ในยุคที่การตลาดขับเคลื่อนด้วยเหล่า Nano Influencer และการทำการตลาดแบบ Affiliate Marketing ทำให้หลายแบรนด์ต่างต้องปรับตัว เพื่อที่จะเจาะกลุ่มเป้าหมาย และเข้าใจความต้องการของพวกเขาได้มากขึ้น วันนี้ทาง RAiNMaker เลยมาอัปเดตเทรนด์การตลาดสำหรับแบรนด์ให้นำไปประยุกต์ใช้กัน!

การใช้ Nano Influencer พร้อม Affiliate Marketing 

แม้การใช้ Nano Influencer ในการโปรโมตแบรนด์ก็อาจจะคุ้มค่า และตกกลุ่มเป้าหมายมาได้บ้าง แต่หากมีการควบรวม Affiliate Marketing เข้ามาด้วย ก็ยิ่งส่งผลให้กลุ่มเป้าหมายของเราเข้าถึงแบรนด์ได้โดยตรงมากขึ้นด้วย

  • Friendly – เน้นความเป็นกันเอง และจริงใจ 

ความเฟรนด์ลี่เป็นสิ่งที่ทำให้ดึงดูดผู้คนในโพสต์มากที่สุด เพราะผู้คนมักจะชอบอ่านการแนะนำ หรือรีวิวจากเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ที่ใช้จริง และรู้จริง

ฉะนั้นโพสต์ไหนที่มีคำแบบกันเอง ชวนมาอ่าน หรือแนะนำก็ยิ่งทำให้ยอดเอ็นเกจเมนต์โพสต์สูงขึ้นด้วย

  • Various – รีวิวหนึ่งครั้งมีหลายแบรนด์ให้ติดตาม 

ในยุคนี้การรีวิวของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์จะไม่ได้มีแค่แบรนด์เดียวแล้ว เพราะผู้คนชอบความหลากหลายมากขึ้น โดยไม่ยึดติดกับแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง

โพสต์ที่มีการรีวิวหลากหลาย จึงมักจะได้ยอดเอ็นเกจเมนต์ดีเสมอ เพราะทำให้เกิดการเสพต่อไปยังรีวิวแบรนด์สุดท้ายเลยนั่นเอง นอกจากนี้ยังทำให้ค้นพบแบรนด์ใหม่ ๆ มากขึ้นด้วย เป็นผลดีต่อทั้งผู้บริโภค และแบรนด์เลย

  • Get along – สร้างเรื่องราวให้เข้าถึงง่ายกับกลุ่มเป้าหมาย 

ผู้คนชอบอะไรที่เข้าถึงง่าย และย่อยง่ายด้วยในเวลาเดียวกัน นี่จึงเป็นเหตุผลที่ฟอร์แมตคอนเทนต์วิดีโอสั้นเริ่มมาบูมมากขึ้นในช่วงปีนี้ เพราะคนไม่ใช้เวลาเสพคอนเทนต์นาน 

แบรนด์จึงต้องปรับตัวตรงที่รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายชอบอะไร ก็ต้องทำคอนเทนต์ หรือสินค้าแบบนั้นเสิร์ฟให้ตลอด ตั้งแต่ช่วงก่อนเปิดตัวสินค้า ช่วงเปิดตัว ช่วงจำหน่าย ไปจนถึงช่วงหลังจำหน่าย

ฉะนั้นต้องมีการวางแผน Customer Journey ให้ดีว่าจะรักษากลุ่มเป้าหมายตลอดการขายอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ 

สูตรการใช้ Nano Influencer และ Affiliate Marketing 

แม้การใช้อินฟลูเอนเซอร์ประกอบกับ การทำการตลาดแบบ Affiliate Marketing จะดูง่าย และเป็นสิ่งที่คู่กันได้อยู่แล้วก็ตาม แต่สิ่งที่ทำให้วิธีการใช้ต่างกันคือแพลตฟอร์ม เพราะมีคนละกลุ่มเป้าหมาย สไตล์การเล่าเรื่องก็เลยต่างกันไปด้วย ทาง RAiNMaker เลยสรุปสูตรมาให้แต่ละแพลตฟอร์มเพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับแบรนด์ได้ง่ายขึ้น ดังนี้

Facebook  

แพลตฟอร์มโซเชียลที่เป็นแหล่งคอมมูนิตี้ ฉะนั้นการจะทำแบรนด์ต้องเน้นไปยังกลุ่มเป้าหมายที่มีการรวมตัวกันอยู่แล้ว ทั้ง Facebook Group หรือจะเป็นการโพสต์ลักษณะยาว ๆ เพื่อเรียกยอดเอ็นเกจเมนต์ใหคนมาอ่านต่อก็ได้เช่นกัน

  • Group Community – เจาะจงกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะ 
  • Long Post – สร้างเรื่องราวในโพสต์ให้น่าติดตาม 

Instagram 

แพลตฟอร์มโซเชียลที่ใช้รูปภาพเล่าเรื่อง แต่ในตอนนี้มี Reels เข้ามาด้วย ดังนั้นแบรนด์สามารถเลือกได้เลยว่าอยากสื่อสารด้วยมู้ดโทนของแบรนด์แบบไหน พร้อมคิดมุมกลับว่าอยากให้กลุ่มเป้าหมายของเรามองเราเป็นอย่างไร

และเพราะ Instagram มีทั้งรูปภาพ, คลิปวิดีโอ และสตอรี่ เลยส่งผลให้แบรนด์ต้องสร้างสรรค์คอนเทนต์แต่ละแบบให้หลากหลาย และตอบโจทย์ทุกช่องทางเอาไว้ด้วย เพราะกลุ่มเป้าหมายมีจุดประสงค์ในการเลนไอจีต่างกัน

  • Reels Mood – ใช้มู้ดโทนในการดึงดูดความน่าสนใจ 
  • Multi Photos / Clip – สร้างคอนเทนต์ให้หลากหลาย 

YouTube 

อีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ผู้คนมักจะใช้เวลาดูคลิปวิดีโอยาวมากขึ้น แม้จะมี Shorts ก็ตาม ฉะนั้นการตั้งหัวข้อบนปกคลิป หรือการพูดคุยในคลิปเป็นสิ่งสำคัญมาก

เพราะจะเป็นตัวชี้วัดได้ว่ากลุ่มเป้าหมายชอบหรือไม่ และดูจนจบคลิปหรือเปล่า แต่หากยังไม่สามารถวัดผลได้ชัดพอ ต้องมีการทดลองใส่เรื่องของแบรนด์ตามระยะเวลาคลิปไปเรื่อย ๆ ว่าแบบไหนได้ผลลัพธ์ดีที่สุด ทั้งเริ่ม กลาง และจบคลิป เป็นต้น

  • Review Clip – รีวิวจากการใช้จริงพร้อมอธิบายรายละเอียด 
  • Pain Point Clip – ตั้งชื่อคลิปจากปัญหาที่เจอร่วมกัน 

Twitter 

แพลตฟอร์มโซเชียลที่ข่าวสาร และบทสนทนามีความแอ็กทีฟตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน แถมเทรนด์ และการอัปเดตสถานการณ์ต่าง ๆ ก็มักจะมาจาก Twitter ด้วย

ซึ่งสิ่งที่ฮิตที่สุดที่แบรนด์จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ในแพตฟอร์มนี้ต้องเป็นเธรดป้ายยา หรือรีวิว Before และ After เพื่อให้เกิดการแชร์ และบทสนทนายังคงแอ็กทีฟต่อไปเรื่อย ๆ เมื่อมีคนรี หรือเฟบทวีต

  • Thread – สร้างเธรดป้ายยาหน้าฟีด 
  • Review Tweet – รีวิวแบรนด์ด้วย Before และ After 

TikTok

เอ็นเตอร์เทนเมนต์แพลตฟอร์มที่ผู้คนในยุคนี้ชอบเสพเทรนด์ และคอนเทนต์ ฉะนั้นหากแบรนด์อยากเข้าไปจอย และเป็นหนึ่งเดียวกันกับกลุ่มเป้าหมายในแพลตฟอร์มนี้

แบรนด์จะต้องกลมกลืนไปกับคลิปรูทีน และสร้างเรื่องราวแบบกันเองให้มากที่สุด โดยไม่ต้องคำนึงถึงโปรดักชัน เพราะความเรียลมักจะขายได้เสมอ

  • Review Clip – สร้างคลิปที่มีการรีวิวแบบกันเอง 
  • Routine Clip – สร้งเรื่องราวให้เหมือนชีวิตประจำวัน 

 ประโยชน์ที่จะได้รับ 

  • ต้นทุนต่ำ แต่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเร็วด้วยลิงก์ 
  • โพสต์ผ่านไปนานแล้วแต่ก็มีการมองเห็นได้ตลอด 
  • เจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง 

รู้อินไซต์ Nano Influencer และ Live Commerce! จากงาน “iCreator Conference 2022 Presented by SUPALAI” 

  • What’s Next for E-commerce & Live Commerce in Thailand? 

สูตรสำเร็จการสร้างยอดขาย และคอนเทนต์ Live ให้ตอบโจทย์ 

Lazada Thailand 

เมื่อ Live กลายเป็นส่วนสำคัญในตลาด E-commerce แต่คู่แข่งที่เพิ่มมากขึ้นในทุกวัน จะทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ และสร้างยอดขายให้ทะลุเป้า? เตรียมจดสูตรสำเร็จจากแพลตฟอร์ม E-commerce ชื่อดัง ‘Lazada’ ที่จะพามาไขทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับการสร้างคอนเทนต์ Live ให้ปัง

  • How to maximize Micro-Influencers, leverage longtail marketing impact 

กระตุ้นแบรนด์  เขย่ายอดขาย ด้วยเทคนิค Longtail Micro-influencers 

ปู – สุวิตา จรัญวงศ์ (Tellscore)

ชวนมาอัปเดต The Next Trend ของ ‘Influencer Marketing’ และการใช้อินฟลูเอนเซอร์ในการทำแคมเปญให้มีประสิทธิภาพ จากคุณปู – สุวิตา จรัญวงศ์ ผู้บริหาร Tellscore บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านอินฟลูเอนเซอร์ของไทย ที่จะมาเผยอินไซต์ในตลาดอินฟลูเอนเซอร์กันแบบเจาะลึกถึงใจ

Copyright © 2024 RAiNMaker. All rights reserved.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save