TikTok แพลตฟอร์มเอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และกำลังจะกลายเป็นเครื่องมือ Search Engine ของคุนรุ่นใหม่ด้วย เพราะนอกจากจะนำเทรนด์คอนเทนต์วิดีโอสั้นแล้ว ยังเป็นแหล่งรวบรวมสิ่งที่ผู้คนใช้เวิร์ชกันอีด้วย ดังนั้นทาง RAiNMaker เลยจะมาแชร์กลยุทธ์เพิ่มการมองเห็นบน TikTok สำหรับปี 2023 กัน!
เพราะทุก ๆ แพลตฟอร์มในโลกโซเชียลมีเดียจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับกลุ่มเป้าหมาย และ TiKTok ก็เป็นหนึ่งในเอ็นเตอร์เทนเมนต์แพลตฟอร์มที่อยากจะก้าวนำทุกอย่างที่โลกโซเชียลมี ซึ่งตอนนี้มีผู้ใช้บนแพลตฟอร์มนี้มากถึง 755 ล้านยูสเซอร์แล้ว
ไม่ว่าจะเป็น TikTok Business, TikTok Shop ไปจนถึงการขับเคลื่อนให้ตัวเองเริ่มมีบทบาทของการเป็น Search Engine ดูเหมือน TikTok จะเป็นมากกว่า TikTok ไปแล้ว
ฉะนั้นก่อนที่จะเริ่มปีใหม่ เราจะพามาเช็กกันว่าอะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้อัลกอริทึมของ TikTok มองเห็นมากขึ้นบ้าง เพราะปีต่อไปการแข่งขันระหว่างคอนเทนต์ครีเอเตอร์ และแบรนด์จะต้องเข้มข้นมากขึ้นแน่นอน
Hashtags + Right Keyword
ใช้แฮชแท็กให้ถูกที่ ถูกคอมมูนิตี้
แฮชแท็ก และคีย์เวิร์ดนับเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญควบคู่กัน เพราะถ้าแฮชแท็กมี แต่คีย์เวิร์ดไม่ตรง คอนเทนต์ที่ลงไปจะต้องสูญเปล่าแน่นอน เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายเข้าถึงยาก ฉะนั้นการใช้แฮชแท็กจะต้องถูกที่ และถูกคอมมูนิตี้ด้วย
เริ่มจากการเข้าใจในคอนเทนต์ของตัวเองก่อนว่าทำมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย หรือคมมูนิตี้แบบไหน จากนั้นค่อยใส่แฮชแท็กที่เกี่ยวกับคลิปให้ตรงกันเพื่อง่ายต่อการค้นหา และอัลกอริทึมจับถูกคอนเทนต์ เมื่อมีชาว TiKToker เสิร์ชค้นหาคลิป
ซึ่งการใช้แฮชแท็กอาจเป็นคำง่าย ๆ ที่ผู้คนมักจะเสิร์ชกันอยู่แล้ว และไม่ควรเป็นประโยคที่ยาว หรือมีผู้ใช้น้อยเกินไป ซึ่งเมื่อเสิร์ชดูบน TikTok แต่ละแฮชแท็กจะมียอดจำนวนการเสิร์ชให้เห็นบนแท็บ “Hashtag” อยู่แล้ว
Create Right Content
เข้าใจกลุ่มเป้าหมายให้ดีก่อนสร้างคอนเทนต์
แม้จะมีเทคนิคมากมายที่ช่วยดันการมองเห็นบน TiKTok แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคอนเทนต์ที่ดี และมีคุณภาพนั้นยังไงก็สำคัญที่สุด หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “Content is still king” ก็ไม่ผิด
ซึ่งคอนเทนต์ที่ดีจะต้องแก้ปัญหา หรือสามารถตอบคำถามของผู้คนได้ ฉะนั้นการเสิร์ชเพื่อเช็กตลาดว่าช่วงนี้ผู้คนต้องการจะรู้ หรืออยากดูอะไรจึงต้องมีการอัปเดตก่อนทำคอนเทนต์เสมอ
เหมือนกับ Google ที่มีคำตอบทุกอย่าง และผู้คนยุคก่อนก็ชอบที่จะใช้เวลาค้นหาคำตอบไปเรื่อย ๆ แต่ยุคนี้เป็นยุคทองของ TikTok ทั้งระบบอัลกอริทึมก็ใกล้เคียงกับการเป็น Search Engine แล้ว ก็ควรใช้ประโยชน์จาก “Discover Tab” ให้มากที่สุดด้วย ว่ากลุ่มเป้าหมายของเราที่ต้องทำคอนเทนต์เสิร์ฟให้ พวกเขากำลังสนใจเรื่อง หรือเทรนด์อะไรอยู่ จากนั้นค่อยนำกระแสมาผสมกับความเป็นตัวเอง แล้วผลิตออกมาเป็นคอนเทนต์ที่มีคุณภาพให้ได้
Add Visual Elements
ดึงดูดด้วยวิชวลเอฟเฟกต์ในคลิปวิดีโอ
ทุกวันนี้ผู้คนเสพคอนเทนต์ที่เป็นมีเดียมากกว่ามีความเป็นโซเชียลมีเดียไปแล้ว การใส่องค์ประกอบต่าง ๆ ในคลิปให้น่าสนใจจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน แม้กระทั่งการตั้งชื่อคลิป หรือจังหวะที่มีกราฟิกต่าง ๆ ขึ้นก็จะทำให้คลิปน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
เพราะไม่มีอะไรสามารถดึงดูดผู้คนให้อยู่กับคลิปจนจบไปมากกว่าการเล่าเรื่องด้วยภาพแล้ว เนื่องจากบางครั้งการเล่น TikTok ในที่สาธารณะ แม้ไม่ได้เปิดเสียง แต่ในคลิปมีภาพ และข้อความที่เล่าเรื่องได้ ก็สามารถไดร์ฟยอดเอ็นเกจเมนต์ได้เช่นเดียวกัน
ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการทำคอนเทนต์ที่ใช้ภาพเล่าเรื่องบน TikTok จะมีมู้ดแอนโทนของชาว TikToker โดยเฉพาะ เช่น จังหวะการเล่า, จังหวะการใส่ชื่อคลิป และรายละเอียดภายในคลิป
หรือแม้กระทั่งหน้าปกของคลิป ล้สนมีเอกลักษณ์ในตัวเองอยู่แล้ว ต่างจาก Reels หรือ Shorts ที่มาทีหลัง และอ้างอิงการเล่าเรื่องคล้ายกัน เลยทำให้ผู้คนรู้สึกคุ้นเคยกับ TikTok มากกว่า ฉะนั้นครีเอเตอร์ และแบรนด์ควรใช้โอกาสนี้สร้างสสรค์วิชวลให้เต็มที่
Search Engagement in Discover Tab
รู้ว่าชาว TikToker อยากเสพคอนเทนต์แบบไหน
แม้แท็บ Discover ของ TikTok จะหายไปแล้ว แต่อีกจุดที่สามารถเช็กคอนเทนต์ที่จะเพิ่มการมองเห็น หรือทำยอดเอ็นเกจเมนต์ได้ก็คือแท็บ ‘Search’ ที่เราคุ้นเคยกันดีในไอคอนรูปแว่นขยาย
เพราะแท็บเสิร์ชเป็นแหล่งที่รวบรวมเทรนด์ทุกช่วงเวลาแบบเรียลไทม์เอาไว้ โดยกระแสไหนที่กำลังมาแรง และเริ่มมีคนทำคอนเทนต์เกี่ยวกับกระแสนั้น TikTok ก็ะจะขึ้นแนะนำมาทันที
ส่วนในมุมกลุ่มเป้าหมายที่เสพคอนเทนต์ ก็จะมีบุลเล็ตแนะนำประเด็นคอนเทนต์ตามความสนใจของช่องตรง “You may like” ด้วย ซึ่งหากครีเอเตอร์หรือแบรนด์ทำคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์กระแสในช่วงนั้น อัลกอริทึมของ TikTok ก็จะแนะนำประเด็นที่กำลังเป็นที่นิยมมาให้ พร้อมลิงก์ไปยังคลิปวิดีโอที่เกี่ยวข้องได้แน่นอน
Know your Local
สร้างเอ็นเกจเมนต์จากคอนเทนต์ท้องถิ่น
“Local Content” คืออีกจุดสำคัญที่ TikTok จะเน้นมากขึ้นภายในอนาคต เพื่อให้ชาว TikToker สามารถตามหาคลิปวิดีโอที่มาจากครีเอเตอร์ หรือแบรนด์ที่สร้างคอนเทนต์จะละแวกใกล้เคียงได้
โดยเฉพาะกับร้านอาหาร ร้านค้า ไปจนถึงธุรกิจส่วนตัวต่าง ๆ ที่อยากโปรโมตชาว TikToker ในท้องที่ นี่ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมาก ๆ ที่จะทำให้การมองเห็นมาจากคนที่สนใจ และเป็นกลุ่มเป้าหมายของเราจริง ๆ
และหาก TikTok สามารถไดร์ฟให้ TikToker ทุกคนหันมามีส่วนร่วมกับ “Nearby” มากขึ้น ทั้งครีเอเตอร์ แบรนด์ หรือแม้แต่อินฟลูเอนเซอร์ก็คงต้องสร้างคอนเทนต์เพื่อกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ใกล้เคียงมากขึ้น เพราะอัลกอริทึมจะตรวจจับเพื่อเพิ่มการมองเห็นนั่นเอง
Avoid Ineligible Content
หลีกเลี่ยงการทำคอนเทนต์ต้องห้าม
โดยปกติแล้วคอนเทนต์ที่ต้องห้าม ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ที่มีความรุนแรง, ใช้อาวุธอันตราย, มีภาพสะเทือนใจ หรือคอนเทนต์ที่ไม่เหมาะสมกับเยาวชน อัลกอริทึมจะปัดตกการมองเห็นไป รวมถึงอาจมีการแบนบัญชีนั้นในภายหลังหากละเมิดนโยบายของแพลตฟอร์มด้วย
ฉะนั้นการทำคอนเทนต์เพื่อเรียกยอดเอ็นเกจเมนต์จากคอนเทนต์สีเทา หรือผิดกฎของ TikTok จึงเป็นสิ่งที่คนสร้างคอนเทนต์ควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะไม่ได้กระแส หรือการมองเห็นแล้ว ยังเสี่ยงต่อการแบนถาวรด้วย
อ้างอิง: Zenmedia, BusinessofApps, Forbes