ช่วงนี้อาจจะเน้น Instagram เยอะกันเสียหน่อย แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า IG Story เป็น Trend การทำคอนเทนต์ที่มาแรงจริง ๆ หลายคนก็ใช้เครื่องมือที่มีอยู่าในแอพในการช่วยทำเช่น นำรูปมาใส่ นำสติกเกอร์ต่าง ๆ มาแปะ ใช้ตัวอักษรต่าง ๆ ที่มีมาให้ แต่เคยเอะใจไหมว่าสุดท้ายแล้ว พอเราอัพมาเป็น Story มันก็เป็นแค่ภาพธรรมดา ๆ เท่านั้นเอง ยกเว้นพวก Sticker ที่มัน Interactive เช่น Quiz หรือ GIF ต่าง ๆ แถมเล่นไปซักพักก็จะเหมือน ๆ กัน ดังนั้นมี 2 วิธีแบบง่าย ๆ ที่เราจะทำคอนเทนต์บน IG Story ให้โดดเด่นและแปลกตากว่าชาวบ้านได้แก่
- ทำรูปใหม่มาตั้งแต่ต้น ใช้ Photoshop เปิดภาพ 9:16 แล้วทำกราฟิก แต่วิธีแบบนี้ก็อาจจะยุ่งยากและเสียเวลาไป ทำให้มีวิธีที่สองก็คือ
- ให้แอพอื่นที่เป็นเครื่องมือช่วยทำ IG Story ซึ่งมีคุณสมบัติในการลางวาง จับแต่ง ปรับนู่นปรับนี้ ใส่รูปมากกว่า 2 รูป ได้ ทำ Grid ได้ อะไรได้ มีฟอนต์สีอะไรให้เหลือกใช้ แล้ว Export มาเป็นภาพปกติหรือวิดีโอไปอัพเป็น IG Story ของเราอีกที
วิธีการที่ 2 นั้นดูจะเวิร์คกว่ามากและเสียเวลาน้อยกว่าด้วย พอพูดแบบนี้แล้วหลายคนอาจจะนึกไม่ออกว่ามีแอพแบบนี้อยู่ด้วยเหรอ ซึ่งจริง ๆ คอนเซปของมันก็คือการใช้แอพแต่งรูปธรรมดา ๆ เพียงแต่ว่าการที่มีแอพที่ออกแบบมาโดยเฉพาะจะช่วยลด Process หลาย ๆ อย่างได้นั่นเอง ตัวอย่างแอพที่ผู้เขียนแนะนำให้ลองนำมาใช้ก็คือ Unfold ซึ่งเป็นแอพฟรี แต่บางฟีเจอร์ก็ต้องเสียเงิน แต่แนะนำให้ลองโหลดมาเล่นกันดูก่อนว่า Handy ไหม
จริง ๆ มีแอพแนว ๆ นี้อยู่หลายตัวเหมือนกัน แต่จากที่ลองเล่นส่วนตัวพบว่า Unfold เหมาะกับคนทำงานมาก ๆ เพราะมีฟีเจอร์ในการทำ Template อะไร ใส่ Filter ใส่ตัวหนังสือได้พร้อมมาก ๆ มีการช่วยคุมโทนอะไรอย่างดี
ที่สำคัญคือเราสามารถ Save เก็บไว้ได้ อันนี้สำคัญตรงที่ว่ามันจะไม่กระจัดกระจาย และอยู่นอกแอพ IG ของเรา แม้ว่ารูปที่เราทำใน IG จะสามารถ Save มาไว้ในเครื่องได้ก็จริง แต่ Story IG ต่อให้เราบันทึกไว้ได้ก็จะเอาออกมาในรูปแบบของ Format รูปภาพไม่ได้ สมมติว่าเราจะเอาไปลงทั้ง Story ของ IG ทั้งของ Facebook ก็ต้องมาทำใหม่ให้ยุ่งยากอีก
อีก Tools นึงที่แนะนำให้ลองก็คือ InShot ซึ่งเป็นแอพสำหรับตัดต่อวิดีโอเน้นไปที่การนำคอนเทนต์มาลงแอพแนวตั้งเช่น Story, TikTok, IGTV หรือแม้กระทั่ง Facebook ก็ยังได้ สามารถใส่ Filter เท่ ๆ ใส่ Emoji ปรับความเร็ว พูดง่าย ๆ ก็คือทำสิ่งที่ตัวแอพ IG หรือการทำ Story ทำไม่ได้นั่นเอง
ที่แนะนำมานี้ก็จะพอเป็นไอเดีย ซึ่งอาจจะไม่ต้องใช้แอพตัวเดียวกับที่เราแนะนำก็ได้ เพียงแต่ว่าลองมองนอกกรอบดูว่า Tools นอกเหนือจากที่มีไว้ให้ใน Instagram Story เองก็สามารถช่วยให้เราสร้างสรรค์รูปแบบคอนเทนต์ใหม่ ๆ ออกมาได้โดยง่ายและสามารถนำไปปรับใช้ได้ บนการเล่าเรื่องราวในเชิง Visual ที่กำลังมาแรงมาก ๆ ในยุคนี้
สุดท้ายก็อยากให้ลองเลือกเครื่องมือให้เหมาะกับเราจริง ๆ เพื่อประหยัดเวลาและใช้ประสิทธิภาพของเครื่องมือและความรู้ที่เรามีได้อย่าง Efficient ที่สุดนั่นเอง
เรียบเรียงโดย ทีมงาน RAiNMAKER
