หลังจากที่ Voice TV ได้ประกาศคืนใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิทัล วันที่ 31 สิงหาคม 2561 เวลาเที่ยงคืน การส่งสัญญาณของ Voice TV ก็ได้จบลงตามกำหนดเวลา รายงานจาก The Standard ระบุว่าการกระทำนี้เพื่อปรับโครงสร้างการทำงานให้เหมาะสมสอดคล้องกับทิศทางและรูปแบบในอนาคต
สำหรับช่อง Voice TV นั้นเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะช่อง TV ที่ประกอบไปด้วยรายการข่าวสารต่าง ๆ โดยเฉพาะในเนื้อหาการเมือง เหตุการณ์ปัจจุบันทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงรายการที่วิพากษ์การเมืองอย่างตรงไปตรงมาอย่าง Tonight Thailand, The Daily Dose และ Wake Up News ซึ่งผู้ดำเนินรายการมีทั้งนักวิชาการ อาจารย์ และพิธีกรมากความสามารถหลายท่าน อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่เริ่มออกอากาศมา Voice TV นับเป็นหนึ่งในช่อง TV ที่ถูกสั่งระงับการออกอากาศมากที่สุด ข้อมูลจาก iLaw บอกว่า Voice TV นั้นถูกระงับการออกอากาศหรือแทรกแซงมากกว่า 20 ครั้ง 12 กุมภาพันธ์ 2562 ระงับการออกอากาศทั้งช่องเป็นเวลา 15 วัน ซึ่งเป็นรอบล่าสุด ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งเพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้น
แม้จะถูกสั่งหยุดการออกอากาศแต่ Voice TV ก็ยังคงมีช่องทางอื่น ๆ เช่น Facebook Live หรือเว็บไซต์ www.voicetv.co.th/live ซึ่งจะยังคงออกอากาศตามปกติแม้ว่าจะถูกปิดหรือไม่ปิดก็ตาม
ซึ่งทาง Voice TV เองไม่กี่วันก่อนที่หยุดออกอากาศก็ได้ปล่อยคลิปชื่อ จากใจ ของ ‘คนวอยซ์ทีวี’ ลงบน YouTube โดยมีเนื้อหากล่าวถึงความยากลำบากในการทำงานภายใต้หน้าที่ของการบอกความจริงแก่สังคม ซึ่งแลกมากับการถูกคุกคามต่าง ๆ มากมาย จนสุดท้ายถึงวันที่ Voice TV เลือกที่จะคืนใบอนุญาตแก่ กสทช. ด้วยตนเอง และหันมาออกอากาศด้วยระบบอินเทอร์เน็ตและ Over the top หรือกล่องสัญญาณต่าง ๆ แทน
ถ้าพูดกันในมุมของ Freedom of Speech อย่างเดียวนั้นในเมืองไทย ซึ่ง Voice TV นั้นนับว่าเป็นหนึ่งในสื่อที่ถูกคุกคามมากที่สุด เนื่องจากเนื้อหาวิพากษ์รัฐบาลเผด็จการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันในช่วงหลังการเลือกตั้ง ก็ยังคงมีข่าวต่าง ๆ ที่ถูกมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงออกมาเป็นระยะ ๆ
อย่างไรก็ตาม Voice TV เป็นหนึ่งใน 7 ช่องที่เลือกที่จะคืนใบอนุญาต ร่วมกับช่องอื่น ๆ เช่น Bright TV, Spring News, ช่อง 3 SD, ช่อง 3 Family โดยรวม ๆ แล้วจาก ข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุผลประกอบการของบริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด ณ สิ้นปี 2560 ขาดทุนสุทธิ 354 ล้านบาท ซึ่งการคืนช่องนี้จะทำให้ Voice TV ได้รับเงินเยียวยาอยู่ที่ 378 ล้านบาท ซึ่งแน่นอนว่าเงินเหล่านี้ก็จะถูกนำมาใช้ในการสร้างคอนเทนต์เพื่อดำเนินการต่อไป