แม้ว่าปัจจุบันโซเชียลมีเดียต่าง ๆ จะกลายเป็นสื่อยอดนิยมของทั้งแบรนด์และคนทำคอนเทนต์ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า Earned Media อย่างโซเชียล ก็คงไม่เทียบเท่า Owned Media อย่างเว็บไซต์ของเราเองได้ ตั้งแต่ถูกสร้างขึ้นมาในปี 1991 เทคโนโลยี World Wide Web ก็กลายเป็นที่นิยมไปทั่วโลก ปัจจุบันผู้ใช้งานเว็บไซต์กว่า 3,812,564,450 คนทั่วโลก กำลังใช้งานอินเทอร์เน็ตเพื่อท่องเว็บไซต์ต่าง ๆ อยู่
แน่นอนว่าเว็บไซต์อันดับหนึ่งของโลกยังคงเป็น Google ตามมาด้วย YouTube และ Facebook ตามลำดับ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็น Social Media และ Platform แต่ในวันนี้ทีมงาน RAiNMaker จะนำเรื่องราวของเทคโนโลยีเบื้องหลังเว็บไซต์มาเล่าให้ฟังว่าจากสถิติแล้ว เว็บไซต์มีพื้นฐานมาจากอะไรมากที่สุด
สรุปเทคโนโลยีเว็บไซต์ยอดนิยมในปี 2018
ข้อมูลล่าสุดจาก W3 Tech ซึ่งเป็นหนึ่งใน Web Tech Survayor ที่ใหญ่ที่สุดได้มีผลสำรวจเกี่ยวกับเครื่องมือในการทำเว็บไซต์ยอดนิยม โดยสถิติดังกล่าวปรากฏดังนี้
- เว็บกว่า 48.8 เป็นเว็บที่ไม่ได้ใช้ CMS เขียนขึ้นโดยภาษาต่าง ๆ หรือโปรแกรมสร้างเว็บ
- นั่นทำให้ เว็บที่เหลือกว่า 51.2% ถูกสร้างขึ้นโดย CMS หรือ Content Management System
สำหรับนิยามของเว็บที่ถูกเขียนด้วยภาษาต่าง ๆ ก็คือ ถูกสร้างโดยการเขียนโค้ด HTML, PHP หรือ Framework ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีเดิม ๆ อย่าง .net หรือใหม่ ๆ อย่าง JavaScript Framework React, Vue, Angular รวมถึงการใช้โปรแกรมแนว WYSIWYG (What You See is What You Get) เช่น Dreamweaver
ส่วน CMS หรือ Content Management System นั้น เป็นการใช้ประโยชน์จากโปรแกรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำเว็บไซต์โดยที่ตัวโปรแกรมนั้นถูกเขียนให้รันอยู่บน Server และทำการ Serve หน้าเว็บที่เราสามารถเข้าไปปรับแต่งได้ตามต้องการ
CMS ยอดนิยม
แน่นอนว่าพูดถึง CMS สิ่งแรกที่ทุกคนนึกถึงก็น่าจะเป็น WordPress ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่ WordPress จะครองส่วนแบ่งตลาด CMS มากถึง 30.7% หรือพูดได้ว่าเกินครึ่งของเว็บไซต์ที่เป็น CMS ใช้ WordPress โดยสถิติทั้งหมดก็มีดังนี้
- WordPress – 30.7%
- Joomla – 3.1%
- Drupal – 2.1%
- Magento – 1.1
- Shopify – 1.1%
- Squarespace – 1.0%
- Blogger – 0.9%
ข้อสังเกตที่น่าสนใจก็คือเว็บทำเว็บไซต์สำเร็จรูป Squarespace มีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า Wix เสียอีก และที่น่าสนใจอีกอันหนึ่งก็คือ Blogging Platform ยอดนิยมอย่าง Bloggger นั้นมีน้อยกว่า 1% เสียอีก
จากสถิตินี้ก็ทำให้เรารู้ว่า WordPress นั้นแทบจะเป็นครึ่งหนึ่งของจำนวนเว็บในโลกเลยทีเดียว (สามารถดูสถิติทั้งหมดได้ที่ W3 Techs )
แล้วมันบ่งบอกอะไร
แน่นอนว่าการที่ WordPress เป็น CMS อันดับหนึ่งนั้น นั่นก็ทำให้ Plug-in ต่าง ๆ บน WordPress นั้นมีให้เราเลือกใช้มากมาย รวมถึงบริการ Hosting ต่าง ๆ ก็แทบจะมี WordPress เป็นตัวเลือกหลักให้เราสามารถทำ Single Click Install ได้ง่าย แต่การที่ WordPress เป็นอันดับหนึ่งของส่วนแบ่งการตลาด CMS นั้นก็ทำให้เกิดข้อเสียอีกอย่างนึงที่ทำให้ทุกคนต้องระวังก็คือ WordPress ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของ Hacker
ดังนั้นใครที่กำลังใช้ WordPress อยู่ก็ควรหมั่น Update WordPress ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด เพื่อไม่ให้มีช่องโหว่ในระบบให้ Hacker เข้ามาโจมตีหรือขโมยข้อมูลในเว็บไซต์เรา
:: สรุป ::
แน่นอนว่าแม้สถิตินี้จะออกส่วนแบ่งเทคโนโลยีเว็บมาอย่างค่อนข้างชัดเจน แต่ก็อย่าลืมว่าผลนี้เกิดจากจำนวนเว็บไซต์ทั่วโลก ซึ่งไม่ได้รวมถึงจำนวนผู้ใช้งาน ซึ่งถ้าหากคิดตามจำนวนผู้ใช้งานจริงแล้ว ผลที่ได้ก็อาจจะไม่เหมือนเดิมก็ได้ แต่สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากผลสำรวจนี้ก็ทำให้เราได้รู้ว่า WordPress นั้นเป็นเครื่องมือหลักที่ทุกคนยอดนิยม ใครที่ทำเว็บ WordPress ได้ก็น่าจะเป็นที่ต้องการของตลาด และเป็นทักษะที่ควรเรียนรู้ไว แต่อาจจะไม่ต้องถึงขั้นเขียนโค้ด แค่เราใช้ Tools ต่าง ๆ เป็นก็ถือว่าได้เปรียบแล้ว
หรือถ้าใครเบื่อ Theme WordPress เดิม ๆ ล่ะก็ทีมงาน RAiNMAKER แนะนำให้ลองเล่น SeedThems Theme WordPress อิสระที่สามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ พัฒนาโดยคุณเม่นเจ้าเก่าเจ้าเดิม ซึ่งแน่นอนว่า RAiNMAKER ก็ใช้ Seed Themes เช่นกัน และด้วยการ config ที่ดีก็ทำให้โหลดได้ด้วยเวลาอันสั้น ไม่เชื่อลองดูได้!
เรียบเรียงโดย ทีมงาน RAiNMAKER
ที่มา – W3 Techs