คืนวันที่ 27 ที่ผ่านมา เป็นคืนที่ Instagram ของหลาย ๆ คนเปลี่ยนการแสดงผลเป็นแบบใหม่คือจากการเลื่อนลงหรือ Scroll เป็นการ Tap-to-advance หรือกดเพื่อแสดงผลโพสต์ต่อไปด้านขวาแทน ซึ่งแน่นอนว่าคำว่า “User ไม่ชอบความเปลี่ยนแปลง” ยังคงใช้ได้ดีเสมอ ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นทั่วโลกก็กระหน่ำด่า Instagram กันเละเทะทั้งบน Facebook และ Twitter โดยเฉพาะในไทยเราก็ได้มี #ไอจี จนติดเป็น Trend บน Twitter ขึ้นมาในเวลาไม่กี่นาทีเลยทีเดียว
กระแสดังกล่าวลามไปเป็นวงกว้าง ซึ่งผลที่ได้เป็นผลตอบรับเชิงลบซะส่วนใหญ่ ทางด้าน Adam Mosseri หัวหน้าทีม Instagram ของ Facebook ก็ได้ออกมาทวีตขอโทษบอกว่า “That was supposed to be a very small test that went broad by accident. Should be fixed now. If you’re still seeing it simply restart the app. Happy holidays!” หรือหมายความว่า จริง ๆ เป็นการทดสอบฟีเจอร์กับคนไม่กี่คนเท่านั้น แต่ด้วยอุบัติเหตุทำให้ฟีเจอร์นี้ถูกปล่อยให้ทุกคนใช้
และเชื่อว่าตอนนี้ Instagram ของทุกคนก็น่าจะกลับมาแสดงผลเหมือนเดิมแล้ว จริง ๆ การทดสอบแบบนี้เรียกว่า A B Testing หรือการปล่อยฟีเจอร์ที่ไม่เหมือนกันให้แต่ละผู้ใช้งานได้ใช้และเก็บพฤติกรรมการใช้งาน และผลตอบรับมาวิเคราะห์เพื่อปรับให้เป็นฟีเจอร์หลักของแอพ ซึ่ง Facebook ก็เป็นหนึ่งในแอพที่ทำ A B Testing บ่อยมาก จนบางครั้งเราก็งงว่าเรากำลังเล่นแอพเดียวกับเพื่อนเราอยู่หรือเปล่า (ฮา)
ทำไม Instagram ต้องเลื่อนข้าง
ก่อนหน้านี้ ทีมงานเคยเสนอบทความแนว ๆ ว่า อีกหน่อย การแสดงผลของ Social Network แต่ละตัวจะไปในทาง Story หมด ซึ่งมันเกิดจากการเข้ามาของ iPhone ในปี 2007 ทำให้เราสามารถเล่น Social Network กันได้ผ่านโทรศัพท์มือถือทันที และนั่นก็เป็นที่มาของ Instagram เช่นกัน Story นั้นเริ่มต้นมาจาก Snapchat ซึ่งเน้นการสื่อสารผ่านทางภาพถ่ายหรือวิดีโอสั้น ๆ สามารถกดเลื่อนผ่านด้วยการกดที่หน้าจอครั้งนึงเพื่อดู Story ถัดไป Instagram ได้นำฟีเจอร์นี้มาใช้ไม่กี่ปีที่ผ่านมาและได้กลายเป็นฟีเจอร์ยอดนิยม
ในขณะเดียวกัน Facebook ก็ได้นำฟีเจอร์นี้มาใช้ด้วยเช่นกัน และก็มีแนวโน้มว่า Facebook จะพยายามดันฟีเจอร์นี้ให้เป็นฟีเจอร์หลักแทน Newsfeed ด้วยซ้ำ ทำให้เราสามารถเดา ๆ ได้ว่า Instagram คือ Facebook ในอนาคต การปรับการแสดงผลของ Instagram ในครั้งนี้ก็ยิ่งช่วยให้เราเดา ๆ อนาคตของ Facebook และ Instagram ได้ออกมากขึ้น
สามารถอ่านบทความที่เกี่ยวกับอนาคตของ Instagram ได้ที่ 5 เหตุผลทื่คุณควรเริ่มทำคอนเทนต์บน Instagram และควรจะเริ่มตอนนี้เลย
ในแง่ของการออกแบบ (User Interface) และประสบการณ์การใช้งาน (User Experience) ทาง Tech Crunch ได้ยกตัวอย่างที่คุณ Tristan Harris เคยพูดถึงไว้ใน A Call to Minimize Distraction & Respect Users’ Attention ถึงความ frictionless ของการ ปัด และการ Scroll ว่า การ Scroll นั้นเป็น frictionless คือเลื่อนไปได้เรื่อย ๆ ไม่หยุด สิ่งนี้ทำให้ผู้ใช้งานคิดน้อยว่าพวกเขาจะเห็นอะไร ส่วนการปัดหรือการแสดงผลที่ เลื่อนมาแล้วหยุด เลื่อนมาแล้วหยุดนั้น ทำให้ User โฟกัสกับสิ่งที่แสดงผลอยู่ตรงนั้นได้ดีกว่า นี่คือสิ่งที่ทำให้ Story ต่างจาก Newsfeed เดิม ๆ
ในอีกแง่คือ การเลื่อนลงไปเรื่อย ๆ ทำให้เกิดความรู้สึก Endless หรือไม่จบไม่สิ้น สังเกตง่าย ๆ ว่าเวลาเราเลือกดู Story ของเพื่อน เราจะรู้สึกถึงความ “จบแล้ว” หรือ “หมดแล้ว” ในขณะที่เราไถ Feed ของ Facebook นั้นเราจะรู้สึกว่ามันยังมีให้ดูเรื่อย ๆ
สรุปเป็นแค่ข้อผิดพลาด ? แล้วมันจะกลับมาอีกไหม
จริง ๆ แล้วฟีเจอร์นี้ถูกพูดถึงมาตั้งแต่ 3 เดือนก่อนบนเว็บไซต์ Tech Crunch ซึ่ง Instagram ก็ได้ออกมาทดสอบฟีเจอร์นี้กับคนบางกลุ่มแล้ว แต่เป็นในจำนวนที่น้อยมาก ๆ ซึ่งทำให้ในครั้งนี้เราก็แอบตั้งข้อสงสัยได้ว่า แล้วการอัพเดทครั้งนี้เป็นความผิดพลาดจริง ๆ หรือ Instagram พยายามปล่อยฟีเจอร์ออกมาเป็นฟีเจอร์หลัก แต่โดนด่ายับเลยบอกว่าเป็นอุบัติเหตุกันแน่ ?
ส่วนคำถามว่าแล้วเราจะได้เห็นฟีเจอร์นี้อีกไหม สิ่งนี้ยังคงตอบยาก เนื่องจากถ้าพูดกันในเชิงอนาคตของรูปแบบการแสดงผล Social Media ที่จะเน้นไปทาง Story ทำให้เราพอบอกได้ว่าการแสดงผลแบบนี้คือสิ่งที่ Instagram และ Facebook กำลังมุ่งไป แต่ถ้าดูจากผลตอบรับด้านลบกันทั่วโลกแบบนี้แล้ว Instagram ก็อาจจะต้องคิดหนักพอสมควร