เว็บที่ให้บริการวีดีโอสตรีมมิ่งหรือเป็นแหล่งรวมวีดีโอทั้งหลาย นอกจากคอนเทนต์ประเภทภาพยนตร์ ซีรีส์ หรือรายการต่าง ๆ แล้ว “เกม” ยังเป็นอีกคอนเทนต์ที่มาแรงมากในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการโชว์สตรีมเกมแบบสด ๆ หรือคอนเทนต์ที่เอามาตัดต่อทำสรุปเนื้อหาเกมก็ตาม โดยมีผู้ให้บริการยักษ์ใหญ่อยู่ 2 เจ้าที่ขับเคี่ยวกันมานานอย่าง Twitch และ YouTube Gaming
YouTube กับเกม แพลตฟอร์มย่อยที่ลองแล้วไม่รุ่งเท่าไหร่
ความแตกต่างหลัก ๆ ของ YouTube และ Twitch นั้นคือความเฉพาะทาง อย่างที่เราทราบกันดีว่า Twitch มุ่งเน้นไปที่เรื่องราวเกี่ยวกับเกมล้วน ๆ และทำได้ดีมากมาโดยตลอด (จนถึงขนาดมี The Washington Post เตรียมจับนักการเมืองมาเล่นเกม สัมภาษณ์ออก Twitch) และการถ่ายทอดสดการแข่งขันเกมในระดับโลกอยู่บ่อยครั้ง
แต่สำหรับ YouTube เองที่เป็นศูนย์กลางวีดีโอที่ใหญ่ที่สุดของโลกนั้นก็มีคอนเทนต์เกมที่ถูกชมไปแล้วถึง 5 หมื่นล้านชั่วโมง ด้วยจำนวนผู้ชมที่มากระดับ 200 ล้านคนต่อวัน แต่ที่สิ่งที่ YouTube นั้นสู้ไม่ได้ก็คือฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับการเป็นช่องทางการรับชมคอนเทนต์เกม
ในปี 2015 YouTube จึงเปิดแพลตฟอร์มย่อยของตัวเองอย่าง YouTube Gaming ขึ้นมา โดยมุ่งเน้นไปที่การเป็นคู่แข่งทางด้านศูนย์รวมคอนเทนต์เกี่ยวกับเกมแข่งกับทาง Twitch โดยตรง และเพิ่มเติมฟีเจอร์สำหรับผู้ชมเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น Super Chat ใช้กับผู้ที่กำลังสตรีมมิ่งเกม หรือช่องทางที่ให้แฟนคลับสนับสนุนเกมเมอร์นักทำคอนเทนต์ของตัวเองอย่าง Channel Memberships
อย่างไรก็ตาม แนวคิดนี้ก็ดูท่าทางจะไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร เพราะรูปแบบที่เพิ่มเติมเข้ามาก็ยังไม่ได้สร้างความแปลกใหม่เท่าไหร่ทั้งกับผู้ชมและตัวคนทำคอนเทนต์เอง ที่สำคัญคือผู้ชมก็เลือกที่จะใช้วิธีดูคอนเทนต์เกมบนหน้าหลักของ YouTube ตามปกติ
YouTube Gaming Destination หมวดรวมคอนเทนต์เกี่ยวกับเกม
ล่าสุด หลังจากเห็นว่าการไปทำแอปย่อยนั้นไม่เวิร์ก ทาง YouTube จึงเตรียมปิดส่วนนี้ (รวมถึงตัวแอปบนสมาร์ทโฟน) และนำคอนเทนต์เกี่ยวกับเกมมารวมในช่องทางให้บริการปกติแทนในชื่อ YouTube Gaming Destination เป็นเหมือนหมวดที่เกี่ยวกับเกมโดยเฉพาะขึ้นมา
โดยผู้ใช้งานก็สามารถเข้ามารับชมคอนเทนต์เกี่ยวกับเกมที่ตัวเองชอบรวมถึงวีดีโอเกี่ยวกับเกมที่กำลังมาแรงได้ที่ช่องทางนี้ และยังมีฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่เคยพัฒนามาให้ใช้งานเหมือนเดิม
ที่มา : YouTube Official Blog
