เมื่อปี 2018 YouTube ได้เปิดตัวฟีเจอร์ Stories ในช่วงที่เทรนด์ Stories กำลังมาแรง YouTube เองก็ต้องการเพิ่มการมีส่วนร่วมผ่านวิดีโอแบบเต็มจอ และเพิ่มโอกาสให้ครีเอเตอร์ได้เชื่อมต่อกับคนดูผ่านวิดีโอสั้น ๆ จึงได้ตัดสินใจเพิ่มฟีเจอร์ดังกล่าวเข้ามา
แต่สุดท้ายแล้ว Stories บน YouTube ก็ไม่ได้ผลดีอย่างที่คาด คนก็ไม่ได้ใช้กันแพร่หลายขนาดนั้น แถมยังไม่ได้เปิดตัวฟีเจอร์แบบเต็มรูปแบบให้ผู้ใช้ทุกคนด้วยซ้ำ บวกกับมี Shorts และ Community ที่เพิ่มเข้ามาช่วยสร้างยอดเอนเกจเมนต์ และดึงความสนใจของคนให้ใช้งานแพลตฟอร์มได้มากกว่า YouTube จึงตัดสินใจเอาฟีเจอร์ Stories ออก และหันไปโฟกัสที่ Shorts และ Community แทน
โดยผู้ใช้จะสามารถอัปโหลด Stories ได้จนถึงวันที่ 26 มิ.ย. 66 เท่านั้น และจะไม่มีตัวเลือกให้อัปโหลด Stories อีก ซึ่ง Stories ที่อัปโหลดภายในวันนั้นจะยังคงอยู่ได้ 7 วันนับจากวันที่อัปโหลด ด้วยความที่ฟีเจอร์ Stories ไม่ค่อยมีคนใช้อยู่แล้ว การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จึงไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรมากนัก เช่นเดียวกับ Twitter ที่นำ Fleet ออก เนื่องจากเหตุผลเดียวกัน
สะท้อนให้เห็นว่าปัจจุบันผู้ใช้งานมักสร้างคอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอสั้นมากกว่า รวมถึงให้ความใส่ใจเรื่อง Community ที่ให้ความเอ็กซ์คลูซีฟ และช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมระหว่างครีเอเตอร์และคนดูได้ดีกว่า
ที่มา: SocialMediaToday
